ดร.นพ.ภานุวัฒน์ ปานเกตุ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า กรม สบส. มีภารกิจหลักในการส่งเสริม สนับสนุนให้สถานบริการสุขภาพภาครัฐดำเนินงานสุขศึกษาและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ เพื่อให้ประชาชนได้รับบริการด้านสุขศึกษาที่ดี มีความรอบรู้ด้านสุขภาพ มีทักษะที่จำเป็นในการดูแลสุขภาพ เพื่อให้ประชาชนสามารถจัดการสุขภาพตนเองได้ เนื่องจากสถานการณ์ปัญหาโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยพฤติกรรมเสี่ยงทางสุขภาพเป็นปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดโรค NCDs การดำเนินงานด้านสุขศึกษาและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ ควบคู่กับการจัดสภาพแวดล้อมที่ดีจะช่วยลดความเสี่ยงทางสุขภาพและส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีในระดับบุคคลและชุมชน จึงเป็นกลวิธีที่สำคัญในการจัดการสุขภาพชุมชนที่เครือข่ายสามารถนำไปใช้เพื่อพัฒนาชุมชนจัดการสุขภาพให้ประชาชนพึ่งตนเองด้านสุขภาพได้ ดังนั้น กรม สบส. ได้ให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมให้สถานบริการสุขภาพทุกระดับมีการดำเนินงานสุขศึกษาและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพตามมาตรฐานสถานพยาบาล ด้านที่ 8 ซึ่งกรม สบส.ได้กำหนดขึ้นและประกาศใช้ในกฎกระทรวงสาธารณสุข ทั้งนี้บุคลากรในสถานพยาบาลภาครัฐ จึงเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการดำเนินงานจึงมีความจำเป็นต้องได้รับการพัฒนาศักยภาพดังกล่าว
นางสาวมะลิ ไพฑูรย์เนรมิต ผู้อำนวยการกองสุขศึกษา กล่าวเพิ่มเติมว่า การพัฒนางานสุขศึกษาในครั้งนี้เป็นรูปแบบการส่งเสริม การเรียนรู้และฝึกทักษะ การพัฒนางานคุณภาพสุขศึกษา อาทิ สุขศึกษากับกระบวนการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ การฝึกปฏิบัติการวิเคราะห์สาเหตุของปัญหาสุขภาพ ปัจจัยของพฤติกรรมสุขภาพการออกแบบกิจกรรม และการจัดทำโครงการสุขศึกษาและการประเมินผล เป็นต้น โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย ผู้รับผิดชอบงานด้านสุขศึกษาจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน จำนวน 1,075 แห่ง การดำเนินงานสุขศึกษาและพฤติกรรมสุขภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญต้องการส่งเสริมสุขภาพประชาชน ทำให้ประชาชนสามารถจัดการสุขภาพตนเองได้ นำไปสู่การลดค่าใช้จ่ายในการรักษาและลดความแออัดในโรงพยาบาล
ที่มา: กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ