แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ในช่วงสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน กรมอนามัยได้เปิดช่องทางการสื่อสารและตอบข้อซักถามให้กับประชาชน โดยมีสายด่วนกรมอนามัย 1478 เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ประชาชนสามารถติดต่อสอบถามได้ง่าย ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือนมกราคม ถึงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568 มีประชาชนโทรมาสอบถาม เรื่อง สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 และประเด็นการเผาในที่โล่ง จำนวน มากที่สุด ถึงร้อยละ 50 รองลงมา คือ วิธีการดูแลและป้องกันสุขภาพจากฝุ่น ร้อยละ 35 โดยช่วงเวลาที่ประชาชนโทรมาสอบถามมากที่สุด คือ เวลา 10:00 - 12:00 น. และเวลา 12:00 - 14:00 น. ซึ่ง 4 คำถามที่ประชาชนมักถามบ่อย ประกอบด้วย 1) สถานการณ์ฝุ่นในปัจจุบันเป็นอย่างไร กรมอนามัยได้แนะนำให้ประชาชนติดตามข้อมูลจากแอปพลิเคชัน "Air4Thai" หรือ "AirBKK" หรือ "Life Dee" และปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด 2) หากเป็นผู้ที่ประกอบกิจการเกี่ยวกับการเผาหรือมีความจำเป็นต้องดำเนินการเผาในที่โล่ง จะสามารถดำเนินการได้หรือไม่ กรมอนามัยได้แนะนำให้ประชาชนงดการเผาในช่วงนี้ เนื่องจากการเผาเป็นสาเหตุหนึ่งที่ก่อให้เกิดฝุ่นเพิ่มขึ้น ทั้งยังอาจก่อให้เกิดเหตุรำคาญแก่ผู้อื่นในบริเวณใกล้เคียงได้ ทั้งนี้ แนะนำให้สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรการควบคุมการเผาจากหน่วยงานท้องถิ่นในพื้นที่เพื่อให้สามารถปฏิบัติได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม 3) วิธีการดูแลและป้องกันสุขภาพตนเองจากการรับสัมผัสฝุ่นต้องปฏิบัติอย่างไร กรมอนามัยแนะนำให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการออกนอกอาคาร สังเกตอาการและเฝ้าระวังตนเองด้วยการประเมินอาการจากการรับสัมผัสฝุ่นละอองที่ 4HealthPM2.5 และคลินิกมลพิษ หากมีอาการไอบ่อย หายใจลำบาก หายใจถี่ หายใจไม่ออก แน่นหน้าอก เจ็บหน้าอก ใจสั่น คลื่นไส้ เมื่อยล้าผิดปกติ วิงเวียนศีรษะ หรือมีอาการผิดปกติทางร่างกายอื่น ๆ ให้รีบไปพบ และหากมีความจำเป็นต้องออกนอกอาคาร แนะนำให้สวมหน้ากากป้องกันฝุ่นละออง และ 4) การใช้เครื่องฟอกอากาศชนิดพกพาช่วยลดฝุ่นได้หรือไม่ กรมอนามัยได้แนะนำว่าการใส่เครื่องฟอกอากาศชนิดพกพาในขณะที่อยู่ในที่โล่งแจ้ง จะมีปัจจัยรบกวนทั้งการเคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลาของฝุ่นในบรรยากาศ ลม รวมถึงพื้นที่มีบริเวณกว้าง จึงอาจทำให้มีประสิทธิภาพในการดักจับฝุ่นได้น้อยหรือในระดับหนึ่ง ดังนั้น หากต้องออกไปอยู่ในที่โล่งแจ้งจึงขอแนะนำให้สวมหน้ากากป้องกันฝุ่นละออง โดยเลือกที่ได้มาตรฐาน มีขนาดเหมาะสมกับใบหน้า รวมถึงต้องสวมให้ครอบกระชับจมูกและใต้คาง และทดสอบการแนบสนิทของหน้ากากกับใบหน้าด้วย
"ทั้งนี้ จากการคาดการณ์สถานการณ์ของกรมควบคุมมลพิษ พบว่า สถานการณ์ PM 2.5 มีแนวโน้มจะกลับมาเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพอีกครั้ง ตั้งแต่วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568 เป็นต้นไป กรมอนามัย จึงขอแนะนำให้ประชาชนดูแลและป้องกันสุขภาพ โดยติดตามสถานการณ์ PM2.5 ก่อนออกจากบ้าน ควรอยู่ในอาคารหรือลดระยะเวลาการทำกิจกรรมนอกอาคาร หากอยู่ในพื้นที่ฝุ่นสูงเกินค่ามาตรฐานหรือจำเป็นต้องเข้าไปในพื้นที่เสี่ยงฝุ่นสูง ให้ใส่หน้ากากป้องกันฝุ่นละอองและอยู่นอกอาคารให้น้อยที่สุด โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง รวมถึงหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายกลางแจ้ง ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ที่ สายด่วนกรมอนามัย 1478" อธิบดีกรมอนามัย กล่าว
ที่มา: กรมอนามัย