กรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม ได้ให้ความสำคัญกับการลดอุบัติเหตุทางถนนมาโดยตลอด ผ่านมาตรการที่มุ่งเน้นการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด การพัฒนามาตรฐานด้านความปลอดภัยของยานพาหนะ การปรับปรุงขั้นตอนการออกใบอนุญาตขับขี่ รวมถึงการรณรงค์สร้างจิตสำนึกแก่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยได้กำหนดเป้าหมายลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนให้เหลือ 12 คน ต่อหนึ่งแสนประชากร ในปี พ.ศ. 2570 ตามแผนแม่บทความปลอดภัยทางถนน พ.ศ. 2565 - 2570 โดยกรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม มุ่งหวังที่จะเสริมสร้างความปลอดภัยบนท้องถนน ลดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยทางถนนของประเทศไทยให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล อย่างไรก็ตาม การแก้ไขปัญหาพฤติกรรมเสี่ยงของผู้ขับขี่ต้องอาศัยความร่วมมือกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายหลายภาคส่วน ทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และภาคประชาชนอย่างต่อเนื่อง ร่วมกำหนดแนวทางปฏิบัติที่สามารถนำไปใช้ได้จริง เพื่อให้มาตรการรับมือกับพฤติกรรมเสี่ยงของผู้ขับขี่เกิดประสิทธิภาพสูงสุด มุ่งสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนนและนำไปสู่การลดอุบัติเหตุทางถนนได้อย่างเป็นรูปธรรม
สำหรับงานในวันนี้จัดขึ้นเพื่อให้หน่วยงานต่าง ๆ ที่ปฏิบัติงานด้านอุบัติเหตุทางถนน ทั้งในเรื่องการจัดทำมาตรการต่างๆ เพื่อควบคุมพฤติกรรมของผู้ขับขี่ให้มีความปลอดภัยในการเดินทางบนท้องถนน รวมถึงหน่วยงานที่มีการดำเนินกิจกรรมทางการศึกษาและการให้ความรู้ทางด้านความปลอดภัยทางถนน ได้มาเสวนา และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการช่วยกำหนดมาตรการป้องกันอุบัติเหตุทางถนนที่มีสาเหตุที่เกิดจากปัจจัยด้านคนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในด้านการกำหนดมาตรการ การอบรมให้ความรู้ รวมถึงการบังคับใช้กฎหมายเพื่อควบคุมพฤติกรรมการขับขี่
ภายในงาน มีการบรรยายและวิเคราะห์เกี่ยวกับอุบัติเหตุต่างๆ อย่างหลากหลาย ได้แก่ หัวข้อ "กิจกรรมให้ความรู้เพื่อสนับสนุนการพัฒนาด้านความปลอดภัยทางถนน" โดย ดร.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) , การบรรยายหัวข้อ "สถานการณ์ปัจจุบันของอุบัติเหตุทางถนนในประเทศไทย และแนวโน้มในอนาคต" โดย ดร.สุเมธ องกิตติกุล รองประธานสถานบันดูแลงานด้านการบริหารระบบงานภายในและผู้อำนวยการวิจัย ด้านนโยบายการขนส่งและโลจิสติกส์ , การบรรยายหัวข้อ "ทฤษฎีผีเสื้อขยับปีก (Butterfly Effect) สำหรับการสวมหมวกกันน็อคในเด็ก" โดย นพ.อนุชา เศรษฐเสถียร รองประธานแผนงานสนับสนุนการป้องกันอุบัติเหตุจราจรระดับจังหวัด (สอจร.) , การบรรยายหัวข้อ "ฐานข้อมูลอุบัติเหตุ (ITARDA)" โดย Mr.Toru Kiuchi นักวิจัยอาวุโสจาก Institute for Traffic Accident Research and Data Analysis (ITARDA) ประเทศญี่ปุ่น , การบรรยายหัวข้อ "วิธีการควบคุมพฤติกรรมของผู้ขับขี่เพื่อความปลอดภัย ในมุมของผู้ผลิตรถยนต์" โดย Mr.Tomoaki Takamiya ผู้จัดการทั่วไป บริษัท Mitsubishi Motors Corporation , การบรรยายหัวข้อ "การอบรมทักษะการคาดการณ์อุบัติเหตุ (Hazard Perception Training) สำหรับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่เป็นเยาวชน สำคัญอย่างไร ?" โดย ศ.ดร.กัณวีร์ กนิษฐ์พงศ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยอุบัติเหตุแห่งประเทศไทย (TARC) สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT)
จากนั้นจึงเป็นการเปิดเวทีอภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในหัวข้อ "มาตรการรับมือเพื่อลดอุบัติเหตุทางถนนที่เกิดจากพฤติกรรมของผู้ชับขี่" เพื่อให้เห็นว่าในปัจจุบัน ประเทศไทยได้มีการดำเนินมาตรการในการควบคุมพฤติกรรมผู้ขับขี่ด้านใดเพื่อความปลอดภัยทางถนนบ้าง ปัญหาและอุปสรรคคืออะไร และจะสามารถขยายผลมาตรการเหล่านี้ได้อย่างไร ดำเนินรายการโดย นพ.ธนพงศ์ จินวงษ์ ผู้จัดการศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน โดยมีผู้เข้าร่วมอภิปราย ประกอบด้วย นายฐิติพัฒน์ ไทยจงรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักสวัสดิภาพการขนส่งทางบก กรมการขนส่งทางบก , ดร.ปัญณ์ จันทร์พาณิชย์ รองผู้อำนวยการกองป้องกันการบาดเจ็บ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข , นายสุเมธี สนธิกุล นักวิชาการอาวุโส โครงการมาตรการองค์กรเพื่อความปลอดภัยทางถนนในสถาบันอุดมศึกษา , พ.ต.อ.อังกูร ทวีเกตุ ผู้กำกับการจราจร กองแผนงานความมั่นคง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ Mr. Tomoaki Takamiya ผู้จัดการทั่วไป บริษัท Mitsubishi Motors Corporation และปิดท้ายการประชุมด้วยการตอบคำถามในประเด็นที่น่าสนใจ
อย่างไรก็ตาม การประชุมครั้งนี้ จะช่วยสนับสนุนและส่งเสริมให้หน่วยงานต่างๆ ที่ปฏิบัติงานด้านอุบัติเหตุทางถนน ทั้งในเรื่องการจัดทำมาตรการต่าง ๆ เพื่อควบคุมพฤติกรรมของผู้ขับขี่ให้มีความปลอดภัยในการเดินทางบนท้องถนน รวมไปถึงหน่วยงานที่มีการดำเนินกิจกรรมทางการศึกษาและการให้ความรู้ด้านความปลอดภัยทางถนน ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ นำไปสู่การกำหนดมาตรการป้องกันอุบัติเหตุทางถนน ที่มีแนวทางปฏิบัติที่สามารถนำไปใช้ได้จริง เพื่อให้มาตรการรับมือกับพฤติกรรมเสี่ยงของผู้ขับขี่เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และร่วมกันสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนน เพื่อให้การลดอุบัติทางถนนสามารถทำได้อย่างเป็นรูปธรรมมากที่สุด
ที่มา: ธีอ๊อกซีนี่ พีอาร์
