บมจ.เอเชีย เน็ตเวิร์ค อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ ANI ประกาศผลการดำเนินงานปี 67 ทำรายได้จากการให้บริการ 8,427 ล้านบาท เติบโต 43% จากปริมาณการขนส่งสินค้าทางอากาศทั้งปีพุ่งขึ้นมากกว่า 21% การขยายสัญญา GSA ตลอดจนการปรับกลยุทธ์เพิ่มการขายระวางขนส่งสินค้าระยะไกล ชี้ปัจจัยสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีนไม่ส่งผลกระทบโดยตรง เนื่องจากรายได้ส่วนใหญ่มาจากการให้บริการในเส้นทางเอเชียและยุโรปบางส่วน ขณะที่ปี 68 วางเป้าหมายเติบโต 15% จากการขยายสัญญา GSA และผลิตภัณฑ์ใหม่ (owned product)
นายชัยรัตน์ สุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการเงิน บริษัท เอเชีย เน็ตเวิร์ค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ ANI ผู้นำธุรกิจตัวแทนขายระวางสินค้าสายการบินหรือ Cargo General Sales Agent (GSA) เปิดเผยผลการดำเนินงานปี 2567 สามารถทำรายได้เติบโตในระดับที่น่าพอใจ โดยมีรายได้จากการให้บริการ 8,427 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43% เมื่อเทียบกับปีก่อน เป็นผลจากปริมาณการขายระวางขนส่งสินค้าทางอากาศที่เพิ่มขึ้นเป็น 134,844 ตัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้ากว่า 21% ผ่านความต้องการการขนส่งสินค้าทางอากาศที่ปรับเพิ่มขึ้น และการขยายสัญญา GSA ใหม่ๆ กับสายการบินของกลุ่มบริษัทฯ นอกจากนี้ จากการปรับกลยุทธ์เพิ่มการขายระวางขนส่งสินค้าระยะไกลก็เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเพิ่มผลประกอบการ โดยเฉพาะการขนส่งสินค้าจากเวียดนาม จีน ฮ่องกง และกัมพูชาที่เติบโตได้ดี โดยใช้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางในการขนส่ง
อย่างไรก็ตาม ในปี 2567 นี้ ผลประกอบการเข้าสู่สถานการณ์ปกติ จากภาพรวมธุรกิจสายการบินในปีที่ผ่านมา ที่สายการบินมีการเพิ่มเส้นทางบินและเที่ยวบินสู่ระดับปกติในช่วงก่อนเกิด COVID-19 ทำให้การแข่งขันเพิ่มขึ้น ส่งผลต่อต้นทุนของสายการบินที่เพิ่มขึ้น และการปรับเพิ่มของค่าใช้จ่ายในการบริหารงานเพื่อขยายธุรกิจ ทำให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ ปี 2567 อยู่ที่ 664.4 ล้านบาท ชะลอตัวเมื่อเทียบกับปีก่อน
นางสาว บี เล็ง โก๊ะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชีย เน็ตเวิร์ค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ ANI กล่าวว่า การประกาศปรับขึ้นอัตราภาษีนำเข้าสินค้าของสหรัฐอเมริกาและจีนนำมาสู่การเริ่มต้นของสงครามการค้ารอบใหม่ และความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังไม่คลี่คลาย จะไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ เนื่องจากรายได้จากธุรกิจ GSA ส่วนใหญ่ มาจากการให้บริการขนส่งสินค้าทางอากาศในภูมิภาคเอเชียและจากยุโรปบางส่วน ขณะเดียวกัน หากจีนหันมาส่งออกสินค้าสู่อาเซียนหรือยุโรปเพิ่มขึ้นเพื่อทดแทนตลาดสหรัฐฯ จะเป็นโอกาสของบริษัทฯ ที่มีความพร้อมให้บริการขนส่งสินค้าทางอากาศในพื้นที่ดังกล่าว
ทั้งนี้ ในปี 2568 บริษัทฯ วางเป้าหมายเติบโต 15% จากปีที่ผ่านมา โดยการเติบโตจะมาจากความต้องการขนส่งสินค้าทางอากาศที่มีอย่างต่อเนื่อง อาทิ จากธุรกิจอีคอมเมิร์ซ, ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ฯลฯ แผนงานขยายธุรกิจ GSA ไปยังประเทศใหม่ๆ ที่มีศักยภาพ ทั้งในภูมิภาคเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ รวมถึงประเทศในยุโรป ทั้งนี้ จากภาพรวมธุรกิจการบินในปัจจุบันที่มีการแข่งขันสูง บริษัทฯ ยังคงเล็งเพิ่มสัญญา GSA เพิ่มเติม ตลอดจนพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพื่อรักษาระดับผลการดำเนินงานให้สามารถเติบโตเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
ที่มา: เอ็ม ที มัลติมีเดีย