นายอนันต์ กิตติวิทยากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ L&E เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในงวดปี 2567 บริษัทมีกำไรสุทธิจำนวน 15.1 ล้านบาท ซึ่งเป็นการพลิกฟื้นอย่างมีนัยสำคัญจากปี 2566 ขาดทุน 24.1 ล้านบาท กำไรที่ปรับตัวดีขึ้น 39.2 ล้านบาท หรือเติบโต 163% เป็นผลจากกำไรขั้นต้นจากการขาย รวมรายได้อื่นเพิ่มขึ้น 79.3 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 9% แม้ยอดขายจะลดลง 3% เนื่องจากภาพรวมอัตรากำไรขั้นต้นได้ปรับตัวดีขึ้นจาก 30.2% ในปี 2566 เป็น 34.0% ในปี 2567 เป็นผลจากบริษัทฯ ได้พัฒนากระบวนการผลิตจนสามารถลดต้นทุนการผลิตได้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งในปีนี้บริษัทฯ ได้ขายสินค้าที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นด้วย นับเป็นการสะท้อนภาพรวมธุรกิจกลับมาคืนฟอร์ม มีศักยภาพการแข่งขัน และการเติบโตในระยะยาว
โดยบริษัทฯ มีรายได้จากการขายและให้บริการ 2,661 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนหน้า 86 ล้านบาท หรือลดลง 3% เป็นผลจากราคาขายต่อหน่วยของงานโครงการได้ปรับตัวลดลง จากการแข่งขันที่เข้มข้น แม้ปริมาณสินค้าที่ขายจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญก็ตาม รวมทั้งในปีที่แล้วบริษัทย่อยแห่งหนึ่งยังมียอดขายสินค้าให้ลูกค้าปลายทางที่ประเทศอเมริกาผ่านบริษัทพันธมิตรจำนวน 73 ล้านบาท แต่ในปีนี้ไม่มีรายการดังกล่าว และยังไม่สามารถหาตลาดทดแทนได้ทันในปีนี้
ด้าน ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารรวมดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้น 29.3 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 3% สาเหตุใหญ่มาจากค่าใช้จ่ายที่แปรผันตามผลประกอบการได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น และมีค่าเสื่อมราคาที่เกิดจากสินค้าให้เช่าเพิ่มขึ้น รวมถึงผลจากการปรับเงินเดือนประจำปี และดอกเบี้ยจ่ายที่สูงขึ้น เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มขึ้น 10.8 ล้านบาท
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการตอบแทนผู้ถือหุ้นที่ให้การสนับสนุนบริษัทฯด้วยดีเสมอมา ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติเสนอผู้ถือหุ้นจ่ายเงินปันผลจากกำไรสะสมของบริษัทฯ สำหรับผลประกอบการประจำปี สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 โดยจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดในอัตรา 0.05 บาทต่อหุ้น คิดเป็นเงินรวมทั้งสิ้น 24,602,003.70 บาท กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record Date) วันที่ 7 พฤษภาคม 2568 และจ่ายเงินปันผลวันที่ 20 พฤษภาคม 2568 โดยบริษัทฯ จะจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น วันที่ 23 เมษายน 2568 เพื่อพิจารณามติดังกล่าว
สำหรับแผนธุรกิจปี 2568 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 15-20% โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนจากงานในมือ (Backlog) ที่แข็งแกร่งอยู่ที่ 1,300 ล้านบาท ตอกย้ำความเป็น Lighting Solution Provider ชั้นนำของไทย ที่เติบโตอย่างมั่นคง ยั่งยืน ดำเนินธุรกิจตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างรวดเร็ว ถูกต้อง เที่ยงตรง และคาดการณ์สภาพเศรษฐกิจโดยรวมปรับตัวดีขึ้น จากการเบิกจ่ายงบประมาณรวดเร็วขึ้น เพิ่มโอกาสให้งานโครงการเติบโตได้ตามเป้าหมาย และให้น้ำหนักไปที่งานราชการมากขึ้น ซึ่งมีการส่งเสริมสินค้านวัตกรรม การกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ พร้อมขยายโอกาสในตลาดผลิตภัณฑ์แสงสว่างทั้งในและต่างประเทศ ด้วยโซลูชันที่ครบวงจร
ที่มา: IR PLUS