ไทยยูเนี่ยน คงความเป็นผู้นำ Top 1% บริษัทอาหารที่มีความยั่งยืนที่สุดในโลก จากการประเมินของ S&P Global

ศุกร์ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘ ๑๐:๕๘
บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้นำอุตสาหกรรมอาหารทะเลระดับโลก ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในบริษัทที่มีความยั่งยืนที่สุดในอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหารของโลก โดยได้รับการจัดอันดับอยู่ในกลุ่ม Top 1% ของรายงาน S&P Global Sustainability Yearbook 2025
ไทยยูเนี่ยน คงความเป็นผู้นำ Top 1% บริษัทอาหารที่มีความยั่งยืนที่สุดในโลก จากการประเมินของ SP Global

โดยไทยยูเนี่ยนได้รับคะแนนรวมสูงสุด 85 จาก 100 คะแนน จากการประเมินความยั่งยืนของ S&P Global Corporate Sustainability Assessment (CSA) และเป็นหนึ่งใน 780 บริษัท จากทั้งหมด 7,690 บริษัท ที่ได้รับการจัดอันดับใน S&P Global Sustainability Yearbook 2025 โดยในกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหาร มีเพียง 26 บริษัท จากทั้งหมด 213 บริษัท ที่ได้รับการคัดเลือก โดย S&P จะประเมินผลจากการดำเนินงานด้านการจัดการความหลากหลายทางชีวภาพ กลยุทธ์ทางสภาพภูมิอากาศ สุขภาพและโภชนาการ สิทธิมนุษยชน และการบริหารจัดการตลอดทั้งซัพพลายเชน

นายอดัม เบรนนัน ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนและสื่อสารองค์กร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การได้รับการจัดอันดับจาก S&P Global ในครั้งนี้ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ ภายใต้กลยุทธ์ความยั่งยืน SeaChange(R)2030 ที่มุ่งขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้เกิดขึ้นในการดำเนินงานตลอดห่วงโซ่คุณค่าของเราตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบ การผลิต จนส่งมอบผลิตภัณฑ์ให้ผู้บริโภคตลอดทั้ง สร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้กับชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อมที่เราดำเนินการอยู่ ตามเป้าหมาย 'Healthy Living, Healthy Oceans' เพื่ออนาคตของผู้คนและโลกของเราอย่างยั่งยืน

ก่อนหน้าที่ไทยยูเนี่ยนได้รับการจัดอันดับใน S&P Global Sustainability Yearbook 2025 เราได้รับการจัดอันดับให้เป็นอันดับหนึ่งในอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหารของดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (DJSI) ประจำปี 2567 เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ตอกย้ำถึงความทุ่มเทในการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบภายใต้กลยุทธ์ความยั่งยืน SeaChange(R) 2030 ซึ่งไทยยูเนี่ยนได้รับการคัดเลือกให้อยู่ในดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ เป็นปีที่ 11 ติดต่อกัน โดย DJSI เป็นดัชนีที่ประเมินผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืนของบริษัทจดทะเบียนหลายพันแห่งทั่วโลก

เป้าหมายของกลยุทธ์ความยั่งยืน SeaChange(R) 2030 ประกอบด้วย 11 พันธกิจ ที่รวมถึงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 42 เปอร์เซ็นต์ในขอบเขตที่ 1, 2 และ 3 ภายในปี 2573 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในปี 2593 ภายใต้กลยุทธ์ความยั่งยืน SeaChange(R) 2030 ไทยยูเนี่ยนได้สนับสนุนงบประมาณ 7,200 ล้านบาท (200 ล้านเหรียญสหรัฐ) ซึ่งคิดเป็นงบประมาณเทียบเท่ากับกำไรสุทธิของปี 2565 โดยเป็นงบประมาณในการฟื้นฟูระบบนิเวศตลอดจนการรักษาทรัพยากร จำนวน 250 ล้านบาท

ที่มา: ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๔ เม.ย. OR จับมือภาครัฐและผู้ประกอบการชุมชน เพิ่มประสิทธิภาพการตลาดผลิตภัณฑ์ OTOP ผ่านโครงการ 'ไทยเด็ด' มุ่งเสริมแกร่งเศรษฐกิจชุมชนไทยอย่างยั่งยืน
๐๔ เม.ย. เทลสกอร์ จับมือพันธมิตร ขับเคลื่อนโครงการ 'Help You, Help Me' สู่ปีที่ 6 ผสานพลังคอนเทนต์ครีเอเตอร์ สนับสนุนโครงการเพื่อสังคม
๐๔ เม.ย. เซ็นทารา แกรนด์ ลาดพร้าว สนับสนุนภารกิจกู้ภัย มอบอาหารและเครื่องดื่มให้เจ้าหน้าที่และบุคลากรทางการแพทย์
๐๔ เม.ย. ร้อนๆแบบนี้ มาหมุนให้ฉ่ำ!!สนุกสุดมันส์ไปกับเครื่องเล่น Water Roller ลูกบอลน้ำมหาสนุก
๐๔ เม.ย. ซัมเมอร์นี้ชวนเช็กอินสมุย แลนด์มาร์คแห่งใหม่ของชาวเวลเนส ที่ BDMS Wellness Clinic สาขา Celes Samui
๐๔ เม.ย. โซเชียลจับตา ตึกถล่ม-อาฟเตอร์ช็อก ประเด็นร้อนหลังแผ่นดินไหว
๐๔ เม.ย. กรมทรัพยากรน้ำ ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยแม่เหียะน้อย พร้อมระบบส่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.เชียงใหม่
๐๔ เม.ย. GoWabi แพลตฟอร์มจองบริการบิวตี้ครบวงจรอันดับ 1 ในไทยเปิดตัวบริการ GoWabi POS พร้อมประกาศรางวัล GoWabi Top Rated
๐๔ เม.ย. ทีทีบี เชิญชวนเที่ยว พิพิธภัณฑ์ครุฑ สืบสานพลังศรัทธา สรงน้ำ สมเด็จมหาราชทรงครุฑ เสริมพลังบุญรับปีใหม่ไทย
๐๔ เม.ย. บัตรเครดิต ทีทีบี มอบโปรฯ ฟรีอัปเกรด! HUT บุฟเฟต์ อิ่มไม่อั้น จ่ายเพียง 399 บาท