นายมนาเทศ อันนวัฒน์ เพรสซิเดนท์ บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด กล่าวว่า "ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด มุ่งมั่นในการมอบสิทธิพิเศษและบริการระดับพรีเมียม เพื่อสร้างความประทับใจและความพึงพอใจสูงสุดแก่สมาชิกชาวต่างชาติ เราเล็งเห็นถึงความสำคัญของบุคลากรผู้ให้บริการ ซึ่งไม่เพียงแต่ต้องยกระดับมาตรฐานการให้บริการ แต่ยังต้องสะท้อนภาพลักษณ์ที่เป็นเลิศ สร้างความประทับใจแรกพบให้แก่สมาชิกได้อย่างสมบูรณ์แบบ เนื่องในโอกาส Re-Branding บริษัทฯ ครบรอบ 22 ปี จึงได้ปรับโฉมยูนิฟอร์มของพนักงานให้บริการสมาชิก โดยถ่ายทอด Brand DNA 'GRACE' ซึ่งสะท้อนอัตลักษณ์ไทยสู่สากล เรามีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้รับเกียรติจาก คุณหมู-พลพัฒน์ อัศวะประภา ดีไซเนอร์ชั้นนำของไทย ผู้มีประสบการณ์โดดเด่นในการออกแบบยูนิฟอร์มใหม่แก่พนักงานด้านบริการในครั้งนี้
ยูนิฟอร์มใหม่นี้ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องแต่งกายสำหรับการทำงาน แต่เป็นส่วนหนึ่งของมาตรฐานการให้บริการและประสบการณ์ที่เรามอบให้แก่สมาชิก ตอกย้ำความเป็นเลิศด้านการบริการ (Service Excellence) โดยมี Brand DNA 'GRACE' เป็นหัวใจสำคัญ ซึ่งประกอบไปด้วย"
- G - Grace ความงดงามที่น่าภาคภูมิใจ
- R - Relationship การสร้างความผูกพัน ความประทับใจ
- A - Assistance การดูแลและช่วยเหลือเพื่อความอุ่นใจ
- C - Companion ความเป็นมิตร ภายใต้นิยาม "Friend of Thailand"
- E - Exclusivity สร้างความพิเศษ แตกต่างอย่างเหนือระดับ
คุณพลพัฒน์ อัศวะประภา หรือ คุณหมู อาซาว่า ผู้ก่อตั้ง ASAVA Group และ ASAVA Uniform กล่าวว่า "สำหรับการออกแบบยูนิฟอร์มครั้งนี้ โจทย์สำคัญคือการสะท้อนวิสัยทัศน์และคุณค่าหลักขององค์กร ผ่านการตีความใน 4 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ ความเป็นไทยที่เป็นเอกลักษณ์ (Uniquely Thai), ความประณีต (Refined), ความสง่างาม (Sophisticated) และความสะดวกสบายในการสวมใส่ (Pleasant) เรามุ่งเน้นการผสมผสานระหว่างความเป็นสากลและอัตลักษณ์ไทย ให้เกิดเป็นงานดีไซน์ที่ทั้งร่วมสมัยและมีความหมาย จุดเด่นของยูนิฟอร์มในครั้งนี้ คือการออกแบบให้เหมาะสมกับบทบาทของพนักงานแต่ละตำแหน่ง โดยยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ไทยที่สมาชิกต่างชาติสามารถจดจำได้ เช่น ยูนิฟอร์มของเจ้าหน้าที่บริการสนามบิน (Elite Personal Assistant - EPA), เจ้าหน้าที่ต้อนรับห้องรับรองพิเศษ (VIP Lounge) และเจ้าหน้าที่ดูแลสัมภาระ (Porter) และพนักงานผู้ช่วยอำนวยความสะดวก (Elite Personal Liaison - EPL) ทั้ง 6 ดีไซน์ ได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงความคล่องตัว สง่างาม และร่วมสมัย พร้อมแฝงกลิ่นอายของเครื่องแต่งกายแบบดั้งเดิม อาทิ การใช้กางเกงประยุกต์แต่งจีบหน้านางคล้ายผูกผ้านุ่ง และเสื้อคอกลมแขนยาวแต่งดีเทลคล้ายสไบ ตลอดจนการตกแต่งเสื้อสูทบริเวณปกเสื้อและขอบแขน ด้วยเทคนิคปักลายพัดโบก อันเป็นสัญลักษณ์ของ ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด ซึ่งยูนิฟอร์มนำเสนอด้วยสีที่สื่อถึงความหรูหรา แทนความอบอุ่น ความสง่างาม และความคลาสสิกเหนือกาลเวลา อย่างสีทองน้ำตาล (Golden Brown) และสีทอง (Golden Glory) ขณะที่สีเทาเข้ม (Dark Grey) เพื่อสะท้อนถึงความเป็นมืออาชีพและความน่าเชื่อถือ ขณะเดียวกันก็ยังคงผสานกลิ่นอายของเอกลักษณ์ไทยไว้อย่างลงตัว นอกจากนี้ ความพิเศษของเสื้อเชิ้ตที่สวมใส่โดยเจ้าหน้าที่ดูแลสัมภาระ (Porter) ยังเลือกใช้ผ้าที่ถักทอมาจากเส้นใยโพลีเอสเตอร์รีไซเคิล (PET) ผสมผสานเส้นใยฝ้ายธรรมชาติ ซึ่งนอกจากจะช่วยลดปริมาณขวดพลาสติกที่ไม่ใช้แล้ว ลดการเผาทำลายที่สร้างมลพิษสู่อากาศ ยังสามารถประหยัดพลังงานไปกว่าครึ่งตลอดกระบวนการผลิต เมื่อเทียบกับเส้นใยโพลีเอสเตอร์ธรรมดา
"เราหวังว่ายูนิฟอร์มเหล่านี้จะเป็นตัวแทนของ Thailand Privilege Card อย่างแท้จริง เพราะในกระบวนการออกแบบ เราไม่ได้มุ่งเพียงแค่การสร้างชุดยูนิฟอร์มที่สวยงามเท่านั้น แต่ยังต้องการให้ยูนิฟอร์มเหล่านี้เป็นเสมือน ตัวแทนที่มีชีวิต ของ Thailand Privilege Card สะท้อนปรัชญาการให้บริการที่มุ่งเน้นสมาชิกเป็นศูนย์กลาง มอบประสบการณ์ที่เหนือระดับและน่าประทับใจ ผ่านงานออกแบบที่คำนึงถึงทั้งความงาม ประโยชน์ใช้สอย จิตวิญญาณแห่งการให้บริการ ผสานแนวคิดความยั่งยืนพร้อมส่งต่อสิ่งดี ๆ กลับคืนสู่สังคม" คุณหมู กล่าวเพิ่มเติม
"ชุดยูนิฟอร์มใหม่นี้ได้รับการปรับให้มีความร่วมสมัย โดยยังคงไว้ซึ่ง Brand DNA ที่ชัดเจน ผ่านการออกแบบที่เน้นเส้นสายเรียบคม การตัดเย็บที่เข้ารูป สร้างภาพลักษณ์ที่ทั้งทันสมัยและสง่างาม ขณะเดียวกันยังคำนึงถึงความสะดวกสบายในการสวมใส่ เพื่อให้พนักงานสามารถให้บริการได้อย่างคล่องตัวและมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยแบ่งเป็น เจ้าหน้าที่บริการสนามบิน (Elite Personal Assistant - EPA) และเจ้าหน้าที่ดูแลสัมภาระ (Porter) ให้บริการ ณ สนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินภูเก็ต, เจ้าหน้าที่ต้อนรับห้องรับรองพิเศษ (VIP Lounge) ให้บริการ ณ สนามบินสุวรรณภูมิ, พนักงานผู้ช่วยอำนวยความสะดวก (Elite Personal Liaison - EPL) ทำหน้าที่เป็นเสมือน "ผู้ช่วยส่วนตัว" คอยอำนวยความสะดวกให้แก่สมาชิกในการติดต่อหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง"
"ยูนิฟอร์มนี้จึงไม่ได้เป็นเพียงสัญลักษณ์ของ Thailand Privilege Card เท่านั้น แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการยกระดับประสบการณ์ของสมาชิกให้ได้รับการดูแลที่เหนือระดับ พร้อมถ่ายทอด Thai hospitality อันเป็นเอกลักษณ์ของไทย สร้างความประทับใจและความภาคภูมิใจแก่เหล่าสมาชิกชาวต่างชาติทุกครั้งที่ได้รับบริการ" นายมนาเทศ กล่าวเสริม
ที่มา: เจซีแอนด์โค คอมมิวนิเคชั่นส์