"เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์" สรุปผลการดำเนินงานปี2567 ตอกย้ำความเป็นผู้นำ Content Creator & Lifestyle Entertainment

จันทร์ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘ ๑๔:๑๒
"เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์" สรุปผลการดำเนินงานปี2567 ตอกย้ำความเป็นผู้นำ Content Creator & Lifestyle Entertainment ด้วยกลยุทธ์ "สร้างรายได้หลากหลายช่องทาง" ยืนหนึ่งในอุตสาหกรรมบันเทิง
เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ สรุปผลการดำเนินงานปี2567 ตอกย้ำความเป็นผู้นำ Content Creator Lifestyle Entertainment

บริษัท เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ONEE ผู้นำ Content Creator & Lifestyle Entertainment ครบวงจรที่เป็นมากกกว่าช่องทีวี มุ่งเน้นการสร้างรายได้จากหลากหลายช่องทาง และยังมีจุดแข็งสำคัญที่โดดเด่น คือ ความเชี่ยวชาญในหลากหลายด้านของเหล่าคอนเทนต์ครีเอเตอร์มากประสบการณ์ในเครือบริษัท ที่สร้างสรรค์ Content ได้ตอบโจทย์และครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่ง บริษัท เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) ได้สรุปผลการดำเนินงานประจำปี 2567 ไว้ดังนี้

งวดปี 2567 บริษัทมีรายได้รวม 6,669.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 154.35 ล้านบาท หรือ 2.37% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมีกลุ่มรายได้ที่โดดเด่น ดังนี้

กลุ่มธุรกิจ Content Marketing

ทำรายได้รวม 4,245.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 62.73 ล้านบาท หรือ 1.50% จากปีที่แล้ว ซึ่งบริษัทฯ มีคอนเทนต์หลากหลาย segment ประเภทที่ได้รับความนิยม และทำเรตติ้งอยู่ในระดับสูง สร้างปรากฏการณ์ขึ้นแท่นอันดับ 1 เป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น ละคร , ซีรีส์ , วาไรตี้ , ข่าว อาทิ ละครค่ำ สงครามสมรส, ทองประกายแสด, แม่หยัว, ทิชา รวมถึงละครหนึ่งทุ่ม อย่าง เทียนซ่อนแสง , มนต์รักแม่กลอง ตลอดจนรายการรู้ไหมใครโสด, ข่าวเย็นช่องวัน , เอาให้ชัด ฯลฯ
ซึ่งสามารถแบ่งที่มาของแหล่งรายได้ ในกลุ่ม Content Marketing ได้ดังนี้

  • รายได้จาก ธุรกิจ Copyrights & Licensing ทำรายได้ 1,089.30 ล้านบาท เติบโตสูง 10.20% ซึ่งมาจากการต่อยอดการขายคอนเทนต์ใหม่ที่ได้รับความนิยมใน Platform OTT ชั้นนำต่างๆ มากมาย และการขายลิขสิทธิ์ในคอนเทนต์เก่าที่มีอยู่ในรูปแบบ Library ให้กับลูกค้าใหม่ในต่างประเทศ
  • รายได้จาก ธุรกิจ Advertising ทำรายได้ที่ 2,833.46 ล้านบาท ลดลง 70.20 ล้านบาท หรือ 2.42% จากปีก่อน ซึ่งนับว่าลดลงเล็กน้อยหากเปรียบเทียบกับความท้าทายของสถานการณ์อุตสาหกรรมสื่อโทรทัศน์ภาพรวมในปี 2567 แต่จากการที่กลุ่ม "เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์" มี Content ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ละคร ซีรีส์ วาไรตี้ เกมส์โชว์ ข่าว รวมทั้งซีรีส์จาก oneD Original ซึ่งได้รับความนิยมจากผู้ชมอยู่ในระดับสูงตลอดทั้งปี ทำให้ "เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์" สามารถชิงส่วนแบ่งรายได้โฆษณาจากสื่อและคู่แข่งในกลุ่มเดียวกันไว้ได้
  • รายได้จาก ธุรกิจ Radio ทำรายได้ 322.88 ล้านบาท เติบโตโดดเด่น 11.05% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากสปอนเซอร์ที่กลับมาลงโฆษณาในรายการวิทยุ ตามพฤติกรรมผู้บริโภคที่ในปัจจุบันกลับมารับฟังวิทยุมากขึ้น และช่องรายการวิทยุของบริษัทฯ เป็นช่องวิทยุอันดับต้นๆ ของประเทศไทย อาทิ Green Wave 106.5, EFM 94.0 เป็นต้น เป็นข้อได้เปรียบในการดึงเม็ดเงินโฆษณาจากผู้ผลิตสินค้า บริการและเอเจนซี่ต่างๆ

กลุ่มธุรกิจ Idol Marketing

ยังคงเป็นกลุ่มรายได้ที่เติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่อง ทำให้ในปี 2567 ที่ผ่านมา ทำตัวเลขรายได้รวมอยู่ที่ 2,223.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 237.03 ล้านบาท หรือ 11.93% จากปีก่อน ซึ่งเกิดจากการที่บริษัทมี Content ที่ได้รับความนิยมมากมาย ทำให้บริษัทสามารถต่อยอด ส่งเสริมให้ศิลปินในสังกัดได้รับการสนับสนุนจากแฟนคลับได้มากขึ้น ส่งต่อไปสู่การจ้างงาน Presenter และ Brand ambassador ให้กับสินค้าต่างๆ ในทุกกลุ่มเป้าหมาย นับเป็นการสร้างรายได้จากศิลปิน และในขณะเดียวกันศิลปินที่มีชื่อเสียง ก็ยังช่วยสร้างกระแสความนิยม สร้างเรตติ้งให้กับคอนเทนต์ได้เช่นกัน โดยรายได้จากกลุ่มธุรกิจ Idol Marketing มีการเติบในทุกสายธุรกิจย่อย ไม่ว่าจะเป็น

  • ธุรกิจ Artist Management ในปี 2567 ทำรายได้ 1046.99 ล้านบาท เติบโต 2.62% จากปีก่อน ซึ่งเป็นไปตามแนวโน้มเทรนด์ Influencer Marketing ที่แบรนด์ต่างๆ โดยเฉพาะแบรนด์สินค้าระดับ Luxury ให้ความสำคัญในการหา Presenter และ Brand ambassador มากขึ้น และกลุ่มบริษัทฯ มีดารา ศิลปิน พร้อมให้บริการอย่างครอบคลุมทุกระดับ รวมถึงกลุ่มเป้าหมายที่มีไลฟ์สไตล์ความชอบ ความสนใจเฉพาะด้าน ที่แตกต่างจากกลุ่มเป้าหมายอื่นๆ ในตลาด (Niche Market) ตั้งแต่ Nano Influencer ไปจนถึง Macro Influencer โดยศิลปินที่ได้รับความนิยมอย่างสูงจากชาวจีนและชาวต่างชาติ ได้แก่ วิน เมธวิน , เจมีไนน์-โฟร์ท, ต้าห์อู๋-ออฟโรด,จิมมี่-ซี, ออฟ-กัน, พูห์-พาเวล, ซี-คีน รวมถึงคู่ Girl Love มิลค์-เลิฟ ฯลฯ
  • ธุรกิจ Concert & Event ทำรายได้ 753.94 ล้านบาท เติบโตโดดเด่นกว่า 18.44% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งเกิดจากแนวโน้มที่ศิลปินมีฐานแฟนคลับอย่างเหนียวแน่นทั้งจากในประเทศไทย และจากต่างประเทศ บวกกับในปี 2567 มีนักท่องเทียวชาวจีนเข้ามาในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก ซึ่งชาวจีนจำนวนมาก มีความชื่นชอบศิลปิน Boy Love ของกลุ่มบริษัทฯ มากเป็นพิเศษ ทำให้การ จัดกิจกรรมคอนเสิร์ต , แฟนมีต ฯลฯ สร้างรายได้ให้ธุรกิจนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ธุรกิจ Merchandising คือส่วนรายได้จากการขายสินค้าที่ระลึกศิลปิน โดยในปี2567 มีรายได้รวมอยู่ที่ 422.55 ล้านบาท เติบโต 28.16% จากปีก่อน ซึ่งมีการขายของที่ระลึกในหลากหลาย Collection โดยสินค้าของศิลปินจะมี Gimmick ที่แตกต่างกัน และผลิตในแบบ Limited Edition ผ่านการจำหน่ายทั้งทาง Online - Offline และในงาน Event ต่างๆ

กลุ่มธุรกิจ Production Business

จากการที่บริษัทฯ ปรับกลยุทธ์โดยเน้นใช้ทรัพยากรในส่วนนี้เพื่อผลิต Content เป็นของตัวเองมากขึ้น ซึ่งสามารถต่อยอดรายได้ให้มีหลากหลายช่องทางมากกว่า ทำให้บริษัททำรายได้ 140.82 ล้านบาท ลดลง 46.43% จากปีก่อน อย่างไรก็ตามกลุ่มธุรกิจนี้เปรียบเสมือนเป็นต้นน้ำของการดำเนินธุรกิจ ที่ต้องใช้ Studio สำหรับถ่ายทำ และการผลิต Content เข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ Ecosystem ที่ครบวงจร ซึ่งคาดการณ์ว่าในอนาคตน่าจะได้รับผลเชิงบวกจากนโยบายสนับสนุนการถ่ายทำภาพยนตร์ในไทย จากผู้จัดซึ่งเป็นบริษัทต่างประเทศของภาครัฐ

ในปี 2567 บริษัทมีกำไรสุทธิ 426.23 ล้านบาท ลดลง 80.34 ล้านบาท หรือ 15.86% จากปีที่แล้ว คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิเท่ากับ 6.39% เปรียบเทียบกับ 7.78% ในปีก่อน อันเป็นผลมาจากการดำเนินธุรกิจที่ต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ไปตามสถานการณ์อุตสาหกรรมสื่อโฆษณาโทรทัศน์ที่ปรับตัวลดลง ทำให้ต้องใช้เม็ดเงินในการทำการตลาดและประชาสัมพันธ์ Content โดยเฉพาะ oneD Original มากขึ้น เพื่อสร้าง Footprint ผลงานให้มีมาตรฐานในระดับสากล ทั้งนี้บริษัทฯ พยายามสร้างผลงานใหม่ๆ ให้เป็นที่ต้องการของลูกค้า ผู้ชม และแฟนคลับ รวมทั้งพัฒนาคุณภาพของผลงานให้โดดเด่นกว่าคู่แข่งในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกันรวมถึงการเพิ่มทรัพยากรบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนา oneD Application

อย่างไรก็ตามในปี 2568 บริษัทฯ ยังคงวางแผนดำเนินงานด้วยนโยบาย "Content Creator & Lifestyle Entertainment " พร้อมความพยายามในการสร้างสรรค์ ผลิตผลงานใหม่ๆ ให้เป็นที่ต้องการของลูกค้า ผู้ชม และแฟนคลับ โดยมุ่งมั่นที่จะยกระดับผลงานให้มีคุณภาพโดดเด่นในกลุ่มอุตสาหกรรม อีกทั้งยังเสาะหาช่องทางในการสร้างรายได้ใหม่ๆ และปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ของธุรกิจ เพื่อเตรียมพร้อมที่จะเติบโตได้อย่างทันท่วงที เมื่อเม็ดเงินและโอกาสในอุตสาหกรรมมาถึง ซึ่งวิสัยทัศน์และความเชี่ยวชาญในการดำเนินงานด้วยนโยบายดังกล่าวยังคงมีศักยภาพ ส่งผลให้ธุรกิจในกลุ่ม "เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์" เติบโตต่อไปได้อย่างยั่งยืน

ที่มา: เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๕๖ เอ็ม บี เค เปิดโลกนวัตกรรมยานยนต์แห่งสายน้ำสุดล้ำสมัย มหกรรมเรือยิ่งใหญ่แห่งปีกับงาน Riverdale Marina Boat Fair # 3 วันที่ 5-9 มี.ค.
๑๖:๓๑ พาส่องเทรนด์การท่องเที่ยว 'Conscious travel' นักท่องเที่ยวไทยพักผ่อนในโรงแรมนานขึ้น พร้อมมองหาประสบการณ์สุดพิเศษ
๑๖:๒๘ อาการสั่น. สัญญาณเตือนโรคร้ายทางสมอง
๑๖:๓๙ เปิดมุมมองการประเมินคุณภาพภายนอกปี 2567 - 2571 ในรูปแบบ การประเมินเพื่อพัฒนาคุณภาพสถานศึกษา
๑๖:๔๒ กรมทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมมือ ฟลิปส์ อินโนเวทีฟ พัฒนาแพลตฟอร์ม 'Flips IP' เปลี่ยนทรัพย์สินทางปัญญาเป็นสินทรัพย์ดิจิทัล
๑๖:๐๐ Jelly Bunny ส่งต่อความสดใสไปกับคอลเลกชั่น Lost in the Sunshine ต้อนรับฤดูกาลแฟชั่นสปริง - ซัมเมอร์ 2025
๑๖:๕๐ SAPPE โชว์ผลประกอบการปี 67 ทำ All Time High ยอดขายแตะ 6,775 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,252 ล้านบาท
๑๖:๓๑ SCN ออกหุ้นกู้ 2 ชุด กำหนดดอกเบี้ยคงที่ 7.00-7.25% เปิดขาย 26-27 ก.พ. นี้ ผ่านบล.ยูโอบี และบล.เคพีเอ็ม รับแผนเร่งเกมเดินหน้าขยายและต่อยอดธุรกิจปี
๑๖:๔๖ ลดยกเกาะรับซัมเมอร์ !! โฮมโปร-เมกาโฮม เสิร์ฟดีลคุ้ม 5 สาขาเกาะภูเก็ต ครบเรื่องบ้าน-งานช่าง แจกทั้งส่วนลด รับคืนสูงสุด 8,900 บาท เริ่ม 22 ก.พ. 68 นี้ 9
๑๖:๑๘ เมย์แบงก์ เกาะกระแส AI จัดสัมมนาการลงทุนพิเศษ AI on the Rise เจาะลึกตลาดหุ้นสหรัฐฯ กับนักวิเคราะห์ดังระดับโลกจากวอลล์สตรีท