ทั้งนี้ สพส. เห็นพ้องกับข้อเสนอการจัดตั้งศูนย์พัฒนาผู้สูงอายุของ กทม. และสนับสนุนการจัดกิจกรรมและโครงการต่าง ๆ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุในพื้นที่กรุงเทพฯ อย่างไรก็ตาม ภารกิจการขับเคลื่อนงานด้านผู้สูงอายุในการจัดตั้งศูนย์ รวมถึงการกำหนดนโยบาย หรือผลักดันให้เกิดกิจกรรมต่าง ๆ จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือและการสนับสนุนการดำเนินงานจากทุกภาคส่วน เช่น กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ภาคเอกชน และภาคประชาชน เพื่อให้เกิดการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ครอบคลุมในทุกมิติอย่างชัดเจนมากขึ้น
นายสิงห์ ลิ้มพิรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว (สวท.) กทม. กล่าวว่า ปัจจุบันมีศูนย์เยาวชน กทม. (ไทย-ญี่ปุ่น) ศูนย์นันทนาการ 34 แห่ง และศูนย์กีฬา 14 แห่ง ที่จัดกิจกรรมนันทนาการหลากหลายสำหรับการส่งเสริมสุขภาพและพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ อาทิ การออกกำลังกายในน้ำ กิจกรรมขับร้อง ลีลาศ โยคะ ไทเก๊ก ไม้พลอง ไลน์แดนซ์ ศิลปะ และนาฏศิลป์ ซึ่งมีการจัดอย่างต่อเนื่องตลอดปีงบประมาณ พ.ศ. 2568
นางภาวิณี รุ่งทนต์กิจ รองผู้อำนวยการสำนักอนามัย รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักอนามัย (สนอ.) กทม. กล่าวว่า กทม. ดูแลผู้สูงอายุตามแผนปฏิบัติการผู้สูงอายุและนโยบายของกรุงเทพมหานคร โดยสนับสนุนการรวมกลุ่มของผู้สูงอายุจัดตั้งเป็นชมรมผู้สูงอายุ ดำเนินกิจกรรมตามความต้องการของสมาชิก เช่น ความรู้ด้านสุขภาพ การออกกำลังกาย กิจกรรมนันทนาการ งานประดิษฐ์ และฝึกอาชีพ โดยมีหน่วยงานของ กทม. สนับสนุนวิทยากร ได้แก่ ความรู้เรื่องสุขภาพ วิทยากรจาก สนอ. และสำนักการแพทย์ ออกกำลังกาย ดนตรี นันทนาการ วิทยากรจาก สวท. การฝึกอาชีพและจำหน่ายสินค้า วิทยากรจาก สพส. ซึ่งปัจจุบัน กทม. มีชมรมผู้สูงอายุ จำนวน 489 ชมรม
นอกจากนี้ กทม. ยังส่งเสริมให้ชมรมผู้สูงอายุทำกิจกรรมการดูแลผู้สูงอายุระยะยาวเชิงป้องกัน (Preventive Long-Term Care : PLC) โดยการอบรมแกนนำผู้สูงอายุให้มีบทบาทถ่ายทอดความรู้และทำกิจกรรม PLC ในชมรม เพื่อให้ผู้สูงอายุมีสมรรถภาพทางกายและความคิดความจำที่ดี ป้องกันการหกล้มและภาวะสมองเสื่อม ลดการเข้าสู่ภาวะพึ่งพิง โดยจัดทำเป็นโครงการขอรับเงินสนับสนุนจากกองทุนหลักประกันสุขภาพกรุงเทพมหานครในระดับเขต ขณะเดียวกันยังได้ดำเนินการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุเชิงรุก โดยศูนย์บริการสาธารณสุขให้บริการตรวจสุขภาพผู้สูงอายุตามนโยบายตรวจสุขภาพ 1 ล้านคน บริการตรวจคัดกรองความเสี่ยงการเกิดโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือด ตับ ไต เอกซเรย์ปอด และคลื่นไฟฟ้าหัวใจ อีกทั้งยังให้บริการเยี่ยมบ้านต่อเนื่องในรายที่มีภาวะพึ่งพิงด้วย
ที่มา: กรุงเทพมหานคร