ปัจจุบันความต้องการบริการด้าน Data Center ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับ 10 ปีที่แล้ว ปัจจัยหลักมาจากการพัฒนาของปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence หรือ AI) ที่เข้ามามีบทบาทสำคัญอย่างมากในธุรกิจของยุคสมัยนี้ ซึ่งตามข้อมูลอ้างอิงจาก Credence Research ประเทศไทยถูกคาดการณ์ว่ามีมูลค่าการตลาดด้าน Data Center สูงถึง 107.41 พันล้านบาทไทย ภายในปี 2573 นอกจากนี้ความต้องการใช้พลังงานคาดว่าจะเติบโตถึง 512.61 เมกะวัตต์ในปี 2568 และมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) 16.48% จนถึง 1.10 พันเมกะวัตต์ในปี 2573 ด้วยเช่นกัน
ดังนั้นปฏิเสธไม่ได้ว่า Data Center มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของประเทศไทย โดยเป็นศูนย์กลางในการจัดเก็บข้อมูล การประมวลผล และการเชื่อมต่อเครือข่าย ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการดำเนินธุรกิจในยุคดิจิทัล การเติบโตของการประมวลผลแบบคลาวด์ การวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ และทุกสิ่งที่เชื่อมต่อและแบ่งปันข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ต (Internet of Things หรือ IoT) ทำให้ศูนย์ข้อมูลกลายเป็นทรัพย์สินเชิงกลยุทธ์สำหรับธุรกิจ และอีกหนึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้และต้องใช้ใน Data Center คือ เครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่มีหน้าที่ผลิตพลังงานไฟฟ้าสำรองที่จ่ายให้ศูนย์ข้อมูลยามฉุกเฉินเมื่อแหล่งจ่ายไฟหลักล้มเหลวหรือขัดข้อง เพื่อช่วยรักษาความต่อเนื่องของการทำงานในการป้องกันความเสียหายอันเนื่องมาจากไฟดับ
อย่างไรก็ตามบริษัทฯ ได้วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองความกังวลของลูกค้าเกี่ยวกับต้นทุนการลงทุนที่สูง ระยะเวลาการใช้งานที่ยาวนาน และความซับซ้อนของระบบภายนอกที่เสี่ยงต่อความล้มเหลว จึงได้ออกแบบโซลูชันที่เหนือกว่า ด้วยเครื่องกำเนิดไฟฟ้า รุ่น Centum(TM) Force แบบบรรจุในตู้คอนเทนเนอร์ที่รวมทุกอย่างไว้ในตัวเดียว ลดพื้นที่การติดตั้ง ใช้พื้นที่น้อยลง ขนส่งง่าย และติดตั้งได้รวดเร็ว
เครื่องกำเนิดไฟฟ้า รุ่น Centum(TM) Force นี้ถูกออกแบบมาให้เหมาะสมกับความต้องการพลังงานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสภาพแวดล้อมใดก็ตาม โดยใช้เครื่องยนต์ดีเซล Cummins รุ่น QSK60 ที่ทนทานและมีประสิทธิภาพสูงสุด ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงโหลดได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังรองรับพิกัดไฟฟ้า 1500-2200 กิโลวัตต์ (kW) หรือ 1875-2750 กิโลโวลต์-แอมแปร์ (kVA) และรองรับขนาด ISO 40' HC ด้วยเช่นกัน
ทุกรายละเอียดได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันเพื่อลดปัญหาการควบคุมคุณภาพ ทำให้มั่นใจได้ว่ากระบวนการตั้งแต่ต้นจนจบมีประสิทธิภาพและเชื่อถือได้ ทั้งยังปฏิบัติตามมาตรฐาน CE สอดคล้องกับ ISO 9001 และออกแบบให้เป็นไปตามมาตรฐาน ISO 8528
ที่มา: Cummins DKSH (Thailand)