คุณคอร์ราโด จาควินโต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ KISS เปิดเผยว่า ในปี 2567 บริษัทมีกำไรสุทธิส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทใหญ่ในปี 2567 อยู่ที่ 159.7 ล้านบาท เติบโต 21.6% จากปี 2566 มาจากยอดขายผลิตภัณฑ์เดิม และผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภค กลยุทธ์ทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพ การสร้างมูลค่าของแบรนด์ที่กระตุ้นยอดขาย การบริหารด้านต่างๆ รวมถึงต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการขาย และบริหารที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงการที่บริษัทได้เข้าถือหุ้นสามัญของบริษัท ไฮไบโอไซ จำกัด หรือ HIB ในสัดส่วน 100% ทำให้ HIB เป็นบริษัทย่อย จึงทำให้รายการส่วนได้เสียที่ไม่มีอำนาจควบคุมลดลงจากปีที่ผ่านมา
ขณะที่บริษัทมีรายได้รวม 1,169.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 205 ล้านบาท คิดเป็น +21.2% จากปี 2566 เนื่องจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิว หรือ Skincare โดยเฉพาะแบรนด์หลักอย่าง Rojukiss ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยในปี 2567 ยอดขายของแบรนด์ Rojukiss เติบโตสูงถึง 42% เทียบกับปี 2566 โดยมีกลุ่มผลิตภัณฑ์หลักที่เป็นที่นิยมอย่างต่อเนื่อง เช่น Rojukiss Face Eye Neck Cream, Rojukiss Gluta Vit C, Rojukiss Phyto-retinol Serum นอกจากนนี้ยังเติบโตจากการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ได้แก่ Rojukiss Reju-PDRN Gel Cream, Rojukiss Phyto-retinol Firm Smooth Cream และ Rojukiss Sleeping Mask Rojukiss Bio Hydrogel Melting Masks
รวมถึงยอดขายภายในประเทศเติบโต 42% จากปี 2566 โดยสามารถสร้างการเติบโตในทุกช่องทาง โดยเฉพาะช่องทางออนไลน์ e-Commerce ที่เติบโตถึง 196% เมื่อเทียบกับปี 2566 โดยได้ประโยชน์จาก กลยุทธ์การทำการตลาดแบบดิจิทัล เน้นการรีวิวสินค้าโดย KOL หรือ Key Opinion Leader การขายทาง Live Streaming และพันธมิตรเครือข่ายออนไลน์ Affiliate ส่วนช่องทางออฟไลน์เติบโต 32.5% โดยเป็นการเติบโตทั้งในช่องทางร้านค้า Modern Trade และ General Trade
โดยในปี 2568 บริษัทให้ความสำคัญกับการขยายตลาดในประเทศเป็นหลัก โดยมีแบรนด์ Rojukiss และ Sis2Sis เป็นตัวขับเคลื่อนหลักของการเติบโต Rojukiss ยังคงเป็นแบรนด์ชั้นนำในกลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า ยวางเป้าหมารายได้แตะ 4,000 ล้านบาทภายในปี 2573 ในขณะที่ธุรกิจต่างประเทศ คาดว่าจะมีสัดส่วนรายได้ 20% ของยอดขายภายในปี 2573 ซึ่งในปี 2568 บริษัทวางแผนขยายการจัดจำหน่ายเชิงลึก และการสร้างแบรนด์ผ่านช่องทางขายตรงกับผู้จัดจำหน่ายใน Modern Trade และ E-commerce ชั้นนำในเวียดนาม กัมพูชา และลาว ก่อนจะขยายไปยังตลาดสำคัญอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ทั้งนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติจ่ายปันผลเป็นเงินสดในอัตรา 0.12 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผลหรือ XD ในวันที่ 30 เม.ย. 2568 และจ่ายปันผลในวันที่ 23 พฤษภาคม 2568
ที่มา: กลอรี่ แบรนดิ้ง