ยูนิโคล่ (ประเทศไทย) ร่วมกับ มูลนิธิสถาบันราชพฤกษ์, กรุงเทพมหานครฯ และ สสส. จัดกิจกรรม "สุดยอดนักสู้ฝุ่น" หรือ UNIQLO PM2.5 Warrior Award มุ่งส่งเสริมการให้ความรู้เรื่องสิ่งแวดล้อมด้านปัญหาฝุ่นควัน การวัดค่าฝุ่น และการรับมือฝุ่นควันแก่เยาวชน โดยมีโรงเรียนจากกรุงเทพฯ และเชียงรายเข้าร่วมโครงการทั้งหมด 17 โรงเรียน โครงการนี้เปิดโอกาสให้เยาวชนได้ค้นคว้า วิเคราะห์ และลงมือปฏิบัติจริง เพื่อแสดงความคิดสร้างสรรค์ในการแก้ไขปัญหาฝุ่นอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมมอบรางวัล "สุดยอดนักสู้ฝุ่น" UNIQLO PM2.5 Warrior Award ให้แก่ทีมผู้ชนะจากโรงเรียนในกรุงเทพฯ และเชียงราย เมื่อเร็วๆ นี้
กิจกรรม "สุดยอดนักสู้ฝุ่น" หรือ UNIQLO PM2.5 Warrior Award จัดขึ้นเป็นครั้งแรก เปิดโอกาสให้เยาวชน จาก 7 โรงเรียนในกรุงเทพฯ และ 10 โรงเรียน จากจังหวัดเชียงราย นำเสนอวิธีการรักษ์โลก ลดปัญหาฝุ่นควัน PM2.5 ในรูปแบบของตัวเองภายใต้หัวข้อ "Green School Green Bangkok และ Green School Green DoiChang" โดยได้รับเสียงตอบรับเข้าร่วมกิจกรรมจากโรงเรียนต่างๆ เป็นอย่างดี และในวันตัดสินผู้ชนะรางวัล "สุดยอดนักสู้ฝุ่น" ได้รับเกียรติจากคณะกรรมการกิตติมศักดิ์ ดร. คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช, คุณปาจริยา มหากาญจนะ, ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. นิอร สิริมงคลเลิศกุล และ มร. อลิฮิโตะ มะซือโมโตะ ร่วมให้คะแนนและข้อเสนอแนะ พร้อมจุดประกายความคิดเรื่องของ การรักษ์สิ่งแวดล้อม หัวใจของการแก้ไขปัญหา และการทำงานเป็นทีมให้กับเด็กๆ ทุกคน โดยโรงเรียนที่ได้รับรางวัลชนะเลิศจากกรุงเทพฯ ได้แต่ โรงเรียนวัดประดูธรรมาธิปัตย์ ภายใต้ "โครงการ ม่านต้นไม้คลายร้อน" และ โรงเรียนที่ได้รับรางวัลชนะเลิศจาก จ. เชียงราย โรงเรียนบ้านทุ่งพร้าว (เพ็คกี้ฮิทค็อก) ใน "โครงการการอบรม Infographic Presentation เพื่อการรณรงค์ป้องกันฝุ่นละออง PM2.5"
กิจกรรม "สุดยอดนักสู้ฝุ่น" หรือ UNIQLO PM2.5 Warrior Award เป็นกิจกรรมภายใต้โครงการ Let's Grow Together เพื่อสานต่อพันธกิจด้านความยั่งยืนของยูนิโคล่ ที่นอกจากจะจัดประกวดแล้ว ยังได้ร่วมปลูกต้นไม้ทั้งหมด 5,642 ต้นและขยายผลสู่ชุมชน ผู้ปกครองและนักเรียนภายในโรงเรียนทั้งสิ้น 10,985 คน จากโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการทั้งหมด 17 โรงเรียน ยูนิโคล่ยังคงเดินหน้าสนับสนุนกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีของคนไทยทั้งประเทศ และพร้อมมุ่งสู่ความเป็นหนึ่งในบริษัทที่ยั่งยืนที่สุดในประเทศไทย
ที่มา: เวเบอร์ แชนด์วิค ประเทศไทย