ทั้งนี้ สำนักงานเขตฯ ได้จัดทำแผนปฏิบัติการร่วมกับ สน.ทองหล่อ เพื่อตรวจตรา กวดขัน บุคคลเร่ร่อน และกลุ่มเด็กเช็ดกระจกบริเวณแยกคลองเตยเป็นประจำทุกวัน อย่างไรก็ตาม จากการลงพื้นที่หลายครั้งพบว่า กลุ่มบุคคลดังกล่าวมักปฏิเสธการช่วยเหลือและวิ่งหนีเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ ซึ่งสำนักงานเขตฯ จะประสาน สน.ทองหล่อ เพิ่มความเข้มงวดกวดขันอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งบูรณาการร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาต่อไป
นายอนุชิต พิพิธกุล ผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ (สนท.) กทม. กล่าวว่า ปัญหาเด็กเช็ดกระจกและขายพวงมาลัยบริเวณแยกต่าง ๆ เป็นปัญหาที่หลายหน่วยงานต้องบูรณาการร่วมกัน เนื่องจากกลุ่มผู้ก่อเหตุ หรือสร้างความเดือดร้อนรำคาญเป็นเด็กและเยาวชน ซึ่งเป็นช่วงวัยที่ต้องได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม ไม่สามารถใช้มาตรการที่รุนแรงหรือเด็ดขาดได้ โดยที่ผ่านมา สนท. และสำนักงานเขตได้บูรณาการร่วมกับ พม. ซึ่งมีหน้าที่ดูแลเด็กและเยาวชนโดยตรง รวมถึง สน.ท้องที่ ที่มีบทบาทด้านการรักษาความสงบเรียบร้อยและป้องกันการก่ออาชญากรรม เช่น การทำร้ายร่างกาย การทำลายทรัพย์สินของประชาชน โดยเฉพาะรถยนต์ที่ได้รับความเสียหายจากพฤติกรรมของกลุ่มเด็กดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ สนท. จะประสานความร่วมมือกับสำนักงานเขตฯ พม. และ สน.ในพื้นที่เพิ่มการตรวจตราและปฏิบัติตามหลักที่ถูกต้องต่อไป
นางสาวกาญจนา ภูพิพัฒน์ผล รองผู้อำนวยการสำนักพัฒนาสังคม รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักพัฒนาสังคม (สพส.) กทม. กล่าวว่า สพส. ได้ลงพื้นที่เชิงรุกร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ พม. ศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300 บ้านพักเด็กและครอบครัวกรุงเทพมหานคร กระทรวงแรงงาน กระทรวงศึกษาธิการ สน.ในพื้นที่ สำนักงานเขต 50 เขต โดยจัดทีมเฉพาะกิจลงพื้นที่กวดขันและติดตามสถานการณ์บริเวณแยกคลองเตยและพื้นที่เสี่ยงอื่น ๆ อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งพูดคุยกับผู้ปกครองที่นำบุตรหลานมาประกอบอาชีพ หรือมีพฤติกรรมดังกล่าวในพื้นที่สาธารณะ เพื่อสร้างการรับรู้เกี่ยวกับสิทธิของเด็ก ทั้งนี้ ได้ชี้แจงถึงข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง อาทิ พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 และ พ.ร.บ.ทางบก พ.ศ. 2522 รวมทั้งประสานให้สำนักงานเขต 50 เขต ตรวจตราพื้นที่อย่างสม่ำเสมอ และลงพื้นที่เยี่ยมบ้านเด็กและครอบครัว สำรวจปัญหาโดยใช้กระบวนการสหวิชาชีพ รวมถึงนำเด็กเข้าสู่ระบบการศึกษาและวางแผนให้ความช่วยเหลือในระยะยาว เพื่อแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจและสร้างความมั่นคงทางด้านรายได้ เช่น การฝึกอาชีพและแนะนำช่องทางการประกอบอาชีพ การขอรับทุนการศึกษา สนับสนุนด้านต่าง ๆ จากกองทุนคุ้มครองเด็ก และช่วยเหลือด้านอื่นๆ ที่จำเป็น ตามระเบียบ กทม. ว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการจัดสวัสดิการและการสงเคราะห์ พ.ศ. 2557 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2564
ที่มา: กรุงเทพมหานคร