นายเดชา พฤกษ์พัฒนรักษ์ อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เปิดเผยว่า ผมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ ระหว่างกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กับ มหาวิทยาลัยเซาธ์อีสท์บางกอก ในวันนี้ ปัจจุบันอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ เป็น 1 ใน 10 อุตสาหกรรม เป้าหมาย ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพื่ออนาคตของประเทศไทย และสร้างรายได้ให้แก่ประเทศในลำดับต้น ๆ สามารถนำเงินตรา เข้าสู่ประเทศปีละมหาศาล และประเทศไทยกำหนดแนวทางการพัฒนาโลจิสติกส์ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ โดยยกระดับศักยภาพโลจิสติกส์ภาคอุตสาหกรรม เพื่อสนับสนุนการแข่งขัน และพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของประเทศไทยให้สามารถทัดเทียมกับนานาประเทศทั่วโลก ดังนั้น ทุกหน่วยงานจะต้องร่วมกันพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของประเทศไทยให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ในส่วนของกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ได้จัดตั้งสถาบันพัฒนาบุคลากรเทคโนโลยีชั้นสูงด้านโลจิสติกส์และซัพพลายเชน (LOSA) เพื่อพัฒนาบุคลากรด้านโลจิสติกส์ ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติด้านการแข่งขัน ลดต้นทุนโลจิสติกส์ของประเทศ และผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการขนส่งของภูมิภาค
นายเดชา กล่าวต่อไปว่า การลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ ถือว่ามีเป้าหมาย และกลไกในการบูรณาการภารกิจร่วมกันในการส่งเสริมการจัดตั้งศูนย์ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติในสาขาอาชีพที่เกี่ยวข้องด้านโลจิสติกส์ และในวันนี้ได้เป็นประธานเปิดการฝึกอบรมหลักสูตร การพัฒนาองค์กรสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนเพื่อความยั่งยืนในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ จำนวน 50 คน และหลักสูตรภาษาอังกฤษเพื่องานโลจิสติกส์ จำนวน 30 คน ระยะเวลาการฝึก 30 ชั่วโมง ต่อหลักสูตร ในระหว่างวันที่ 7 - 8 และ 14 - 15 มีนาคม 2568 ณ SBU HALL มหาวิทยาลัยเซาธ์อีสท์บางกอก ดำเนินการโดย LOSA และกำหนดแผนจะจัดฝึกอบรมหลักสูตรดังกล่าวอีกจำนวน 2 รุ่น จำนวน 80 คน เพื่อพัฒนาฝีมือแรงงาน ให้แก่นักศึกษาหรือกำลังแรงงานให้มีความรู้ความสามารถ และทักษะฝีมือสูงขึ้น สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี รองรับการขยายตัวของระบบเศรษฐกิจในอนาคต ที่ผ่านมากรมพัฒนาฝีมือแรงงาน และมหาวิทยาลัยเซาธ์อีสท์บางกอก ได้ร่วมกันจัดฝึกอบรมหลักสูตรเทคนิคการซ่อมบำรุงยานยนต์ไฟฟ้า ระยะเวลาการฝึก 30 ชั่วโมง มีผู้ผ่านการฝึกอบรม จำนวน 45 คน ณ สถาบันพัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนอะไหล่ยานยนต์ กรมพัฒนาฝีมือแรงงานอีกด้วย
"ขอขอบคุณมหาวิทยาลัยเซาธ์อีสท์บางกอก ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งเป็นรากฐานของการพัฒนาประเทศ โดยทั้งสองหน่วยงานจะร่วมมือกัน ดำเนินงานตามกรอบความร่วมมือนี้อย่างเต็มกำลัง เพื่อสร้างประโยชน์ต่อประเทศชาติต่อไป" นายเดชา กล่าวในตอนท้าย
ที่มา: กองสื่อสารองค์กร กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน
