แม้จะมีความก้าวหน้าในหลายด้าน แต่ยังคงมีอุปสรรคที่ต้องแก้ไข จากรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติและสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัลในปี 2565 พบว่า ผู้หญิงที่ไม่ได้รับการศึกษาเพิ่มขึ้นจาก 62.7% ในปี 2561 เป็น 63% ในปี 2565 นอกจากนี้ เด็กผู้หญิงอายุ 15-19 ปี กว่า 8% เคยประสบกับการล่วงละเมิดทางเพศ และมีเพียง 30% เท่านั้นที่กล้าเปิดเผยหรือรายงานเหตุการณ์ ข้อมูลเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหา"
นางรสลิน โกแวร์ กล่าวเสริม พร้อมอธิบายแนวทางที่มูลนิธิศุภนิมิตฯ กำลังดำเนินการ โดยการทำงานร่วมกับผู้หญิงและเด็กผู้หญิง รวมถึงผู้ชายและเด็กผู้ชาย ผู้อุปการะ ผู้บริจาค ชุมชน และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อส่งเสริมสิทธิสตรีและสร้างสังคมที่เท่าเทียมกันมากขึ้น "ศุภนิมิตฯ เราอาจไม่ได้มุ่งเน้นงานด้านสตรีโดยเฉพาะ แต่เรามุ่งเน้นและส่งเสริมเรื่องสิทธิความเท่าเทียม ซึ่งหนึ่งในนั้นคือความเท่าเทียมกันทางเพศ ไม่ว่าจะเพศหญิง หรือเพศชาย เช่น สิทธิในการศึกษา สิทธิในเรื่องความปลอดภัย สิทธิในการับสวัสดิการและบริการต่าง ๆ เป็นต้น ซึ่งที่ผ่านมาเรามีโครงการที่ดำเนินงานด้านนี้อยู่ หลัก ๆ 3 ด้าน
1.Protection การปกป้องคุ้มครอง โดยมูลนิธิศุภนิมิตฯ ได้ดำเนินงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและพันธมิตรต่าง ๆ เพื่อผลักดันนโยบายที่มีประสิทธิภาพในการปกป้องเด็กจากการแสวงหาประโยชน์ในทุกรูปแบบ เช่น โครงการรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก เราได้ช่วยสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับรูปแบบความรุนแรงที่เด็กเผชิญ โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กผู้หญิง โดยในช่วงระหว่างปี 2022 - 2023 อัตราการรับรู้ถึงคุณภาพของบริการคุ้มครองเด็ก ในหมู่วัยรุ่นเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจาก 39% เป็น 50% ซึ่ง 58% ของผู้ที่รายงานว่ามีการพัฒนาเป็นเด็กผู้หญิง เราให้ความสำคัญกับการสร้างพลังให้เด็กและเยาวชน ในการเป็นกระบอกเสียงเรียกร้องสิทธิของตนเอง พร้อมกับพัฒนาทักษะที่จำเป็น เพื่อขับเคลื่อนโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อพวกเขาและชุมชน 2.Livelihood พัฒนาอาชีพและความเป็นอยู่ เราสร้างพลังให้ผู้หญิงได้เห็นคุณค่าของตนเองผ่านการพัฒนาอาชีพ ด้วยการสนับสนุนให้ผู้หญิงมีอาชีพและรายได้ ไม่เพียงแต่ช่วยพัฒนาทักษะและเพิ่มความสามารถในการเลี้ยงดูครอบครัวของตนเองเท่านั้น แต่ยังเปิดโอกาสให้พวกเธอ ได้เป็นแรงบันดาลใจและส่งเสริมศักยภาพของผู้หญิงคนอื่น ๆ ต่อไปในชุมชน นอกจากนี้ เรายังมีโครงการ Reaching Women Migrant Workers and Their Families in Construction Camps (REACH) ซึ่งได้รับเงินทุนจาก ILO เป็นโครงการที่เราได้เข้าไปให้ความรู้ และสร้างความเข้าใจในหมู่แรงงานข้ามชาติหญิงและครอบครัวของเธอ เกี่ยวกับสิทธิและผลประโยชน์ที่พวกเธอพึงจะได้รับตามกฎหมาย และปรับปรุงการเข้าถึงการศึกษา บริการสุขภาพ และสิทธิแรงงานของพวกเธออย่างเท่าเทียม 3.Education การศึกษา มูลนิธิศุภนิมิตฯ เราสนับสนุนให้เด็ก
โดยเฉพาะเด็กที่ยากไร้ ได้มีโอกาสเข้าถึงระบบการศึกษาที่มีคุณภาพให้ได้มากที่สุด ซึ่งปัจจุบัน เราสามารถสนับสนุนให้นักศึกษาสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรีไปแล้วกว่า 450 คน ผ่านโครงการส่งน้องจบป. ตรี ของมูลนิธิศุภนิมิตฯ โดยในจำนวนนี้ 74% เป็นผู้หญิง แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าในการส่งเสริมโอกาสทางการศึกษาให้กับเยาวชนหญิง และเรายังมีโครงการอุปการะเด็ก ซึ่งเป็นโครงการหลักในงานด้านพัฒนาของมูลนิธิฯ เป็นโครงการที่จุดประกายความหวังเพื่ออนาคตของเด็กยากไร้เปราะบาง รวมถึงเด็กผู้หญิงที่จะได้รับโอกาสทางการศึกษา ที่จะมีอนาคตและได้ทำตามความฝัน โดยหวังให้พวกเขาจะนำความรู้และความสามารถที่ได้ กลับไปช่วยเสริมสร้างครอบครัวและชุมชนของตนได้อย่างยั่งยืน"
เมื่อถามถึงความรู้สึกส่วนตัวเกี่ยวกับการเสริมสร้างความเข้มแข็งของผู้หญิง นางรสลิน โกแวร์ มองว่า "ส่วนตัวไม่เชื่อว่าผู้หญิงมี ข้อจำกัด เพราะสังคมไทยปัจจุบันเปิดกว้างมากขึ้น ขอเพียงแค่เรา เชื่อมั่น มั่นใจในศักยภาพของตัวเอง และกล้าที่จะแสดงมันออกมาในหน้าที่ความรับผิดชอบของตนเอง ทุกวันนี้ เราจะเห็นผู้หญิงก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำทั้งในระดับองค์กรและในประเทศมากขึ้น เห็นได้จากสื่อต่าง ๆ ส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะไม่ใช่เพียงแค่ความสำเร็จส่วนตัวเท่านั้น แต่คือพลังที่จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจ และเป็น Role Model ให้กับผู้หญิงอีกหลาย ๆ คน ที่จะกล้าก้าวออกมา เป็นในสิ่งที่ตัวเองอยากเป็น และเมื่อสังคมยอมรับ โอกาสการเปิดกว้างก็จะตามมา สุดท้ายแล้ว ศักยภาพไม่ได้ถูกกำหนดโดยเพศ แต่ถูกขับเคลื่อนด้วยโอกาสและความสามารถที่ได้รับ ในฐานะที่ทุกคนเป็นส่วนหนึ่งของสังคม เราต้องทำหน้าที่ของเรา เพื่อส่งเสริมผู้หญิงและเด็กผู้หญิงทุกคน"
ที่มา: Hi-Like Agency