ทั้งนี้ การจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้ามีความผิดฐาน "ฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ซึ่งห้ามขาย หรือห้ามให้บริการบารากู่ บารากูไฟฟ้า หรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากูไฟฟ้า หรือบุหรี่ไฟฟ้า" ตาม พ.ร.บ. คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 แก้ไขเพิ่มเติม โดย พ.ร.บ. คุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2562 มาตรา 29/9 มาตรา 56/4 และคำสั่งคณะกรรมการว่าด้วยความปลอดภัยของสินค้าและบริการ ที่ 24/2567 เรื่อง ห้ามผลิตเพื่อขาย ห้ามขายหรือให้บริการสินค้าบารากู่ไฟฟ้า หรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้า หรือบุหรี่ไฟฟ้า ลงวันที่ 8 ก.ค. 67 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 600,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.บ. คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 เพิ่มเติม ของ กทม. มีอำนาจในการตรวจสอบ ยึด อายัดของกลางจากร้านค้าที่ฝ่าฝืน รวมถึงนำตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีที่สถานีตำรวจในพื้นที่ ขณะเดียวกัน กทม. ยังเข้มงวดห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะที่กำหนดให้เป็นเขตปลอดบุหรี่ เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล ตลาด หากพบผู้ฝ่าฝืนจะถือว่ามีความผิดตามมาตรา 42 พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2560 มีโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท
นอกจากนี้ กทม. ได้รับการถ่ายโอนอำนาจหน้าที่ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องการแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.บ. คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 เพิ่มเติม เมื่อวันที่ 9 ก.พ. 67 ให้เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.บ. ดังกล่าวเพิ่มเติม ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในการคุ้มครองสิทธิผู้บริโภคของ กทม. เพื่อให้สามารถดำเนินการคุ้มครองผู้บริโภคในพื้นที่ได้อย่างทันท่วงที มีความสมบูรณ์ คล่องตัว และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
นางสาวกัลยา บุญแดง ผู้อำนวยการเขตคันนายาว กทม. กล่าวว่า สำนักงานเขตฯ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจนครบาล (สน.) คันนายาว ลงพื้นที่ติดตามตรวจสอบและกวดขันการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าในบริเวณซอยคู้บอน 25 และซอยคู้บอน 27 ถนนคู้บอน แขวงรามอินทรา เขตคันนายาว เมื่อวันที่ 3 มี.ค. 68 จากการตรวจสอบ ไม่พบร้านจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า แต่พบว่าอาคารเลขที่ 28/960 ตรงข้ามซอยคู้บอน 25 มีการติดป้ายโฆษณาบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งร้านดังกล่าวได้ปิดกิจการไปแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.คันนายาวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 23 ก.พ. 68 ได้มีการลงพื้นที่บูรณาการปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าที่อาคารดังกล่าว โดยดำเนินการตรวจยึดบุหรี่ไฟฟ้าของกลางทั้งหมด และปัจจุบันได้ปิดร้านจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าดังกล่าวแล้ว อย่างไรก็ตาม สำนักงานเขตฯ ได้ประสานความร่วมมือกับ สน. ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมดำเนินการติดตาม ตรวจสอบ และเฝ้าระวังการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าในพื้นที่อย่างเข้มงวดต่อไป
นางสาวเบญจพร ศักดิ์เรืองแมน ผู้อำนวยการเขตบึงกุ่ม กทม. กล่าวว่า สำนักงานเขตฯ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่จำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า กัญชา และกระท่อม รอบสถานศึกษาในพื้นที่เขตบึงกุ่มเป็นประจำทุกเดือน เพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง พร้อมประชาสัมพันธ์และแจ้งข้อกฎหมายเกี่ยวกับการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า กัญชา และกระท่อม ให้ร้านค้าในพื้นที่ทราบ รวมถึงขอความร่วมมือคณะครู อาจารย์ร่วมกันป้องกันและแก้ไขปัญหาบุหรี่ไฟฟ้า กัญชา และกระท่อมในสถานศึกษา และให้ความรู้กับนักเรียนทราบถึงอันตรายและผลกระทบจากการใช้บุหรี่ไฟฟ้า กัญชา และกระท่อม
ที่มา: กรุงเทพมหานคร