ท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งเป็นท่าเรือที่ลึกและใหญ่ที่สุดในประเทศไทย นับว่าเป็นจุดสำคัญสำหรับการค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะเส้นทางเอเชีย-อเมริกาเหนือและเอเชีย-ยุโรป คูห์เน่ พลัส นาเกิ้ล มุ่งเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการดำเนินงานโลจิสติกส์ โดยขยายการให้บริการ Less-than-Container Load (LCL) หรือการขนส่งแบบแชร์พื้นที่ในตู้คอนเทนเนอร์ พร้อมเสริมศักยภาพด้านโลจิสติกส์ครบวงจรในพื้นที่นี้ และด้วยศูนย์กระจายสินค้าคอนเทนเนอร์ (CFS) แห่งใหม่ คูห์เน่ พลัส นาเกิ้ล สามารถให้บริการรวบรวมและแยกสินค้าได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งใช้รถยนต์ไฟฟ้าสำหรับการรับสินค้า LCL ทั่วประเทศไทย เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน
การลงทุนนี้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ที่จะพัฒนาท่าเรือทั้งหมดให้มีเทคโนโลยีทันสมัยและยั่งยืนภายในปี 2573 โดยจะนำยานยนต์ไฟฟ้ามาใช้ในการขนส่ง และคูห์เน่ พลัส นาเกิ้ล จึงมีส่วนช่วยสนับสนุนแผนการลดการปล่อยคาร์บอนของกทท. รวมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในวงกว้าง ซึ่งมีส่วนช่วยในการพัฒนาชุมชนและเศรษฐกิจของประเทศไทย
ท่าเรือแหลมฉบังมีบทบาทสำคัญในการค้าระหว่างประเทศและการกระจายสินค้าในภูมิภาค การลงทุนนี้เป็นส่วนหนึ่งของ Roadmap 2026 ของเรา ซึ่งช่วยเสริมบทบาทของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์หลัก และขับเคลื่อนนวัตกรรมและความยั่งยืนในห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก" คุณเดวิด รุสเซียร์ กรรมการผู้จัดการของ คูห์เน่ พลัส นาเกิ้ล ประเทศไทย กัมพูชา และพม่า กล่าว
ที่มา: Midas PR