สำหรับความสำเร็จของการเพาะเลี้ยงสเต็มเซลล์ช้างจากรกในครั้งนี้ เกิดจากความร่วมมือจาก 4 หน่วยงานข้างต้น ที่มุ่งหวังที่จะพัฒนาแนวทางการรักษาช้างด้วยสเต็มเซลล์ โดยมีจุดเริ่มต้นจากการเก็บสเต็มเซลล์จากพลายลักษณโสภณ ช้างฝาแฝดเทียมคู่แรกของโลกที่เกิดที่ เพนียดคล้องช้างหลวงอยุธยา เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2567 และช้างพังรับอรุณ ที่เกิดที่สถาบันคชบาลแห่งชาติในพระอุปถัมภ์ฯ เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา
และจากความสำเร็จฯ ในครั้งนี้ ทีมสัตวแพทย์ผู้วิจัยได้นำสเต็มเซลล์ช้างจากรกเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการรักษาโรคสำคัญของช้าง จำนวนกว่า 11 เชือกในประเทศไทย อาทิ การรักษาแผลที่กระจกตาติดเชื้อในช้าง ณ คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่นำสเต็มเซลล์เข้ามาฟื้นฟูอาการทางตา และการนำสเต็มเซลล์ช้างจากรกเข้ามารักษามดลูกอักเสบเรื้อรังในช้าง โดยให้สเต็มเซลล์ผ่านทางเส้นเลือด ณ ส.คช. เป็นต้น
ทั้งนี้ ทีมสัตวแพทย์ผู้วิจัยมุ่งหวังว่า ความสำเร็จในครั้งนี้จะเป็นก้าวสำคัญในวงการสัตวแพทย์ในการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการแพทย์ในการดูแล ตลอดจนอนุรักษ์ และบริบาลช้าง ซึ่งจะนำไปสู่การยกระดับมาตรฐานด้านสัตวแพทย์ในอนาคตต่อไป
ที่มา: องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้