บอร์ด MGC-ASIA ไฟเขียวทุ่มงบ 100 ล้านบาท ซื้อหุ้นคืนไม่เกิน 30 ล้านหุ้น สร้างความเชื่อมั่นนักลงทุน

ศุกร์ ๑๔ มีนาคม ๒๕๖๘ ๑๑:๐๕
บอร์ด บมจ.มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) หรือ MGC-ASIA ไฟเขียว ทุ่มเงิน 100 ล้านบาท ซื้อหุ้นคืนไม่เกิน 30 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 2.7 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด เพื่อเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุน หลังราคาหุ้นต่ำกว่าระดับมูลค่าที่แท้จริงและไม่สะท้อนการเติบโตในอนาคต โดยกำหนดกรอบระยะเวลาเริ่มซื้อหุ้นคืนตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม 2568 ถึงวันที่ 17 กันยายน 2568 ด้าน CEO "ดร.สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ" ย้ำปีนี้รายได้โต 10% จากการขับเคลื่อนการเติบโตใน 4 กลุ่มธุรกิจ
บอร์ด MGC-ASIA ไฟเขียวทุ่มงบ 100 ล้านบาท ซื้อหุ้นคืนไม่เกิน 30 ล้านหุ้น สร้างความเชื่อมั่นนักลงทุน

ดร.สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) หรือ MGC-ASIA เปิดเผยว่า จากกรณีที่ราคาหุ้นของบริษัทฯ ในปัจจุบันอยู่ในระดับที่ต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี ส่งผลให้ล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 2/2568 เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2568 มีมติอนุมัติให้บริษัทฯ เข้าซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ กลับคืน ผ่านโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงิน (Treasury Stock) โดยจะดำเนินการซื้อหุ้นคืนสูงสุดไม่เกิน 30 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท หรือคิดเป็นร้อยละ 2.7 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด ภายในวงเงินซื้อคืนสูงสุดไม่เกิน 100 ล้านบาท ตามกรอบกำหนดระยะเวลา 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม ถึงวันที่ 17 กันยายน 2568 โดยการซื้อหุ้นคืนในครั้งนี้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุน และเพื่อบริหารสภาพคล่องส่วนเกินให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมถึงเพิ่มอัตราส่วนผลตอบแทนของผู้ถือหุ้น (ROE) และกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) ส่งผลให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นในศักยภาพธุรกิจสู่การเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะสะท้อนถึงราคาหุ้นที่แท้จริง รวมทั้งเป็นโอกาสที่จะสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นและ นักลงทุนในอนาคต จากการซื้อหุ้นคืนและขายกลับในจังหวะเวลาที่เหมาะสมซึ่งจะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับส่วนของผู้ถือหุ้น

"สาเหตุการซื้อหุ้นคืนในครั้งนี้ เนื่องจากราคาหุ้นในปัจจุบันอยู่ในระดับที่ต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี จึงได้ตัดสินใจดำเนินโครงการซื้อหุ้นคืน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนบริหารโครงสร้างเงินทุน (Capital Management) เพื่อเสริมสร้างมูลค่าให้แก่ผู้ถือหุ้น ทั้งนี้บริษัทฯ มีศักยภาพและฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง มีกำไรสะสมและสภาพคล่องส่วนเกินเพียงพอ โดยมีกำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรรของบริษัทฯ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 เท่ากับ 828.54 ล้านบาท และมีความสามารถในการชำระหนี้ที่ครบกำหนดภายในระยะเวลา 6 เดือน ดังนั้นการซื้อหุ้นคืนจะส่งผลให้มูลค่าทางบัญชีในส่วนของผู้ถือหุ้น และจำนวนหุ้นที่ถือโดยผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ลดลง ซึ่งส่งผลให้อัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) และอัตรากำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) สูงขึ้น และที่สำคัญจะสร้างโอกาสที่ราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้น ในระดับที่ P/E เท่าเดิม"

นอกจากนี้ ดร.สัณหวุฒิ ได้ตอกย้ำถึงภาพรวมการเติบโตของบริษัทฯ ว่า ในปี 2568 นี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าการเติบโตของรายได้รวมเพิ่มขึ้น 10% จากปี 2567 ที่มีรายได้รวม 20,334 ล้านบาท จากกลยุทธ์การขับเคลื่อนใน 4 กลุ่มธุรกิจ 1. กลุ่มธุรกิจค้าปลีกยานยนต์ (Mobility Retail) 2. กลุ่มธุรกิจให้บริการหลังการขาย (Aftersales Service) 3. กลุ่มธุรกิจให้บริการรถเช่าและพนักงานขับ ทั้งระยะสั้น ระยะยาว (Car Rental and Driver Services) และ 4. กลุ่มธุรกิจอื่นๆ (Other Services) ได้แก่ บริษัท อัลฟา เอกซ์ จำกัด ผู้ให้บริการทางการเงินให้กับกลุ่มลูกค้ามั่งคั่ง มีความชำนาญในด้านสินทรัพย์ที่เป็นยานพาหนะหรู ทั้งรถยนต์ เรือยอทซ์ และเครื่องบิน ตลอดจน อสังหาริมทรัพย์ โดยในปีนี้มุ่งเน้นการขยายตลาดสินเชื่อ Wealth Lending ในอัตราที่สูงขึ้น พร้อมตั้งเป้าการขยายพอร์ตสินเชื่อเพิ่มขึ้นแตะระดับ 12,500 ล้านบาท รวมถึง บริษัท ฮาวเด้น แมกซี่ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด ซึ่งเป็นธุรกิจให้บริการประกันภัยชั้นแนวหน้า โดยในปีนี้มีแผนขยายฐานลูกค้าให้มากขึ้น ด้วยการเพิ่มผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ที่หลากหลาย รวมทั้งประกันที่เกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืนตามแนวทาง ESG เช่น ในกลุ่มพลังงาน พลังงานสะอาด พลังงานทางเลือก และเมกะเทรนด์ต่างๆ เพื่อให้ครอบคลุมทุกความต้องการ และรักษาการเป็นโบรกเกอร์ระดับชั้นนำ

"จากมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯดังกล่าว เป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ถือหุ้นและนักลงทุน หลังราคาหุ้นในปัจจุบันอยู่ในระดับที่ต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี ประกอบกับแผนการขับเคลื่อนทางธุรกิจ สู่การต่อยอดเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและสร้างศักยภาพความแข็งแกร่งทางธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต ซึ่งเป็นการตอกย้ำที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการดำเนินธุรกิจที่มีความแข็งแกร่งและเติบโตอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการดูแลผู้ถือหุ้นและนักลงทุน สู่การสร้างเสถียรภาพด้านราคาเพื่อให้สะท้อนถึงมูลค่าที่แท้จริง"

ที่มา: มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๑๖ MEDEZE เป้าปี 68 รายได้ New High ทะลุ 1,000 ลบ. ทุ่ม 552 ลบ. ซื้อที่ดิน ผุดธนาคารเซลล์แห่งใหม่ รับการขยายตัว
๑๗:๓๕ ม.กรุงเทพ รวมพลัง CMO ปั้นเด็กนิเทศฯ สู่วงการอีเวนต์ระดับมืออาชีพ
๑๗:๐๑ เบเยอร์ ภูมิใจ ร่วมเป็น Guest Speaker ในงาน REAL CONNEXT 2025 เวทีสำคัญที่เปิดโอกาสให้ผู้นำในวงการอสังหาริมทรัพย์
๑๗:๕๐ เมกาโฮม กระตุ้นตลาดช่างมือโปร ส่งแคมเปญแรง ถูกจริง!! ดึงกำลังซื้อวัสดุก่อสร้าง-อุปกรณ์ช่าง ลดทุกชิ้น ทุกหมวด ที่เมกาโฮมทุกสาขา วันนี้ถึง 31 มี.ค. 68
๑๗:๕๐ ภาควิชาการตลาด Chulalongkorn Business School ร่วมมือ ฮาคูโฮโด ประเทศไทย สานต่อโครงการ HIT PROGRAM ปี 2
๑๗:๐๐ ร้อนนี้ เอส โคล่า เสิร์ฟความซ่าสุดปัง ชวน Gen Z ครีเอท Culture เงยหน้า บูสพลังความซ่า กับแคมเปญ เอส โคล่า
๑๗:๓๐ เอ็มสปา อินเตอร์เนชั่นแนล ประกาศแต่งตั้ง เดียร์เดร แมคกินเนส ในตำแหน่งผู้อำนวยการกลุ่ม ฝ่ายสปาและเวลเนส
๑๗:๓๘ Bitkub จับมือ Kaia เปิดประตูสู่โลก Web3 ยกระดับการเข้าถึง DApps สำหรับคนไทย
๑๗:๐๐ เด็กดิจิทัลมีเดีย SPU เรียนรู้เทคนิคแอนิเมชันสุดล้ำ จากตัวจริงที่ 'Kapoo Production'
๑๖:๐๐ กวีฝรั่ง อาจารย์เดวิด ส่งเสริมประเทศไทยด้วยหนังสือใหม่