ตามที่สมาพันธ์ทันตแพทย์โลก (FDI World Dental Federation) ได้กำหนดให้วันที่ 20 มีนาคม ของทุกปี เป็นวันสุขภาพช่องปากโลก (World Oral Health Day) ทันตแพทยสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับ ภาคีเครือข่ายด้านสุขภาพ และทันตสาธารณสุข ทั้งภาครัฐและเอกชน ร่วมกันจัดกิจกรรม "World Oral Health Day 2025" ในประเทศไทย เพื่อสร้างความตระหนักให้ประชาชนใส่ใจดูแลสุขภาพช่องปาก โดยในปีนี้รณรงค์ภายใต้คำขวัญ "A Happy Mouth is a Happy Mind" สะท้อนถึงความสัมพันธ์ระหว่างสุขภาพช่องปากที่ดีและสุขภาพจิตที่แข็งแรง เนื่องจากการมีสุขภาพช่องปากที่ดีไม่ได้หมายถึงแค่การมีฟันที่แข็งแรงและเหงือกที่สมบูรณ์เท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มความมั่นใจในการสื่อสาร การรับประทานอาหาร และการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม ลดโอกาสของการเกิดความเครียด ความวิตกกังวล และภาวะซึมเศร้า
จากรายงานขององค์การอนามัยโลก (WHO) พบว่าโรคในช่องปากเป็นหนึ่งในปัญหาสาธารณสุขที่พบบ่อยที่สุดในประชากรทั่วโลก โดยเฉพาะปัญหาฟันผุ โรคเหงือก และการสูญเสียฟัน ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตของผู้ที่ประสบปัญหาเหล่านี้ การดูแลสุขภาพช่องปากจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ควรได้รับความสนใจในทุกช่วงวัย ตั้งแต่วัยเด็กที่ต้องได้รับการดูแลเพื่อให้มีพฤติกรรมการแปรงฟันที่ดี ไปจนถึงวัยทำงานที่ต้องเผชิญกับภาวะเครียดและละเลยการดูแลสุขภาพช่องปากของตนเอง รวมถึงวัยสูงอายุที่อาจมีปัญหาฟันสึกหรือสูญเสียฟัน ซึ่งส่งผลต่อการเคี้ยวอาหารและโภชนาการโดยตรง นอกจากนี้ผู้ที่ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ เช่น ผู้ป่วยติดเตียง ยังต้องได้รับความช่วยเหลือจากผู้ดูแลเพื่อให้สามารถรักษาสุขภาพช่องปากได้อย่างเหมาะสม
สำหรับกิจกรรมวันสุขภาพช่องปากโลก "World Oral Health Day 2025" ทันตแพทยสมาคมแห่งประเทศไทยฯ ได้เน้นสร้างการรับรู้และสนับสนุนให้ประชาชนมีพฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปากที่ดีขึ้น โดยรณรงค์และสร้างกระแสภายใต้แฮชแท็ก #WOHD25 และ #WOHDTH2025 เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการแชร์ข้อมูลและร่วมสนุกกับกิจกรรมออนไลน์ โดยมีกิจกรรมหลักที่จัดขึ้นทั้งก่อนหน้าและตลอดเดือนมีนาคม อาทิ การประกวดคลิปวิดีโอในหัวข้อ "A Happy Mouth is a Happy Mind" ซึ่งเปิดโอกาสให้นิสิตนักศึกษาทันตแพทย์ และทันตแพทย์ ร่วมกันสร้างสรรค์สื่อรณรงค์เกี่ยวกับสุขภาพช่องปากและสุขภาพจิต โดยผลงานที่ได้รับรางวัลจะถูกนำไปเผยแพร่ผ่านช่องทางออนไลน์ของทันตแพทยสมาคมแห่งประเทศไทยฯ และภาคีเครือข่าย รวมถึงกิจกรรมรณรงค์สุขภาพช่องปากในชุมชนและสถานศึกษา ตลอดจนการสนับสนุนคลินิกทันตกรรมและโรงพยาบาลทั่วประเทศในการให้บริการตรวจสุขภาพช่องปากฟรีหรือในราคาพิเศษแก่ประชาชน
นอกจากนี้ ยังได้เผยแพร่วิดีโอให้ความรู้ในหัวข้อ "สุขภาพช่องปากสำคัญกับ… อย่างไร?" โดยนำเสนอข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับสุขภาพช่องปากในสี่ช่วงวัย ได้แก่ วัยเด็ก วัยทำงาน ผู้สูงอายุ และผู้ที่ต้องได้รับการดูแลพิเศษ จากทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านทันตกรรม เพื่อให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของสุขภาพช่องปากในทุกช่วงชีวิต ผ่านทางโซเชียลมีเดียของทันตแพทยสมาคมแห่งประเทศไทยฯ และภาคีเครือข่าย
รศ.ทญ.ดร.ศิริวิมล ศรีสวัสดิ์ นายกทันตแพทยสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า สมาพันธ์ทันตแพทย์โลก (FDI) ได้กำหนดแนวทางการรณรงค์เนื่องในวันสุขภาพช่องปากโลก ปี 2025 ภายใต้คำขวัญ "A Happy Mouth is a Happy Mind" ซึ่งทันตแพทยสมาคมแห่งประเทศไทยฯ ได้นำแนวคิดนี้ไปขยายต่อเป็นแนวคิดหลักของประเทศไทย คือ "Your Mouth's Health is the Key to a Happier, Healthier, and More Confident You" หรือ "สุขภาพช่องปากที่ดีคือกุญแจสู่ความสุข ความมั่นใจ และสุขภาพที่แข็งแรง" เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนเห็นถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพช่องปากในทุกช่วงวัย ผ่านกิจกรรมและการรณรงค์ต่าง ๆ โดยเฉพาะการจัดทำคลิปวิดีโอให้ความรู้ผ่านทางแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้องและนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้
"สุขภาพช่องปากเป็นมากกว่าการมีฟันที่แข็งแรง แต่ยังส่งผลต่อความมั่นใจและสุขภาพจิตของบุคคล ผู้ที่มีปัญหาฟันผุหรือโรคเหงือกมักจะหลีกเลี่ยงการพูดคุยและเข้าสังคม หรืออาจเกิดภาวะซึมเศร้าโดยไม่รู้ตัว การดูแลสุขภาพช่องปากอย่างถูกต้องจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม ไม่ว่าจะเป็นเด็กที่กำลังเริ่มต้นพฤติกรรมการดูแลช่องปาก วัยทำงานที่ต้องดูแลสุขภาพฟันและเหงือกเพื่อให้มีความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน ผู้สูงอายุที่ต้องใส่ใจสุขภาพช่องปากเพื่อลดภาวะแทรกซ้อนจากโรคต่าง ๆ หรือผู้ป่วยติดเตียงที่ต้องได้รับการดูแลจากผู้ใกล้ชิด เพื่อให้สามารถมีสุขภาพช่องปากที่ดีและลดภาระของผู้ดูแล การดูแลสุขภาพช่องปากอย่างสม่ำเสมอจึงไม่ใช่เพียงเรื่องของฟันเท่านั้น แต่เป็นกุญแจสำคัญสู่สุขภาพจิตที่ดีและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น" นายกทันตแพทยสมาคมแห่งประเทศไทยฯ กล่าวเพิ่มเติม
ที่มา: ทันตแพทยสมาคมแห่งประเทศไทยฯ