SINO เปิดกลยุทธ์ปี 68 เดินหน้าขยายพอร์ตธุรกิจ Air Freight เพิ่มศักยภาพผู้นำโลจิสติกส์ระหว่างประเทศครบวงจร ตั้งเป้าหมายรายได้รวมปีนี้เติบโตกว่า 16%

พุธ ๑๙ มีนาคม ๒๕๖๘ ๑๔:๕๖
"บมจ.ไซโน โลจิสติกส์ คอร์ปอเรชั่น" หรือ SINO กางแผนธุรกิจปี 68 รุกใหญ่เพิ่มศักยภาพผู้นำให้บริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศครบวงจร ตั้งเป้าหมายรายได้รวมปีนี้ 4,300 ล้านบาท เติบโตกว่า 16% เตรียมรุกขยายธุรกิจบริการ Air Freight ส่วนธุรกิจบริการ Sea Freight เตรียมเปิดบริการเส้นทางเวียดนาม-สหรัฐฯ และจากเวียดนามไปยังภูมิภาคอื่นๆ เพื่อขยายธุรกิจในภูมิภาคอาเซียน ขณะที่ธุรกิจบริการให้เช่าคลังสินค้าอยู่ระหว่างศึกษาแผนขยายการลงทุนรองรับดีมานด์ที่เพิ่มขึ้น ชูฐานะทางการเงินแข็งแกร่งพร้อมขยายการลงทุนตามแผนงาน
SINO เปิดกลยุทธ์ปี 68 เดินหน้าขยายพอร์ตธุรกิจ Air Freight เพิ่มศักยภาพผู้นำโลจิสติกส์ระหว่างประเทศครบวงจร ตั้งเป้าหมายรายได้รวมปีนี้เติบโตกว่า 16%

นายนันท์มนัส วิทยศักดิ์พันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทไซโน โลจิสติกส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SINO เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานปี 2568 จะมุ่งขยายธุรกิจเพื่อเพิ่มศักยภาพการเป็นผู้นำให้บริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศอย่างครบวงจร จากปัจจุบันแบ่งพอร์ตธุรกิจหลักเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ 1) บริการขนส่งสินค้าทางทะเล (Sea Freight) ที่เป็นสัดส่วนรายได้หลัก โดยบริษัทฯ เป็นผู้ให้บริการขนส่งสินค้าทางทะเลเส้นทางไทย-สหรัฐฯ ที่มีปริมาณสินค้าสูงสุดเป็นอันดับ 3 ของโลก และอันดับ 1 ในประเทศไทย 2) บริการขนส่งสินค้าทางอากาศ (Air Freight) 3) บริการสนับสนุนงานบริการโลจิสติกส์ และ 4) บริการให้เช่าคลังสินค้า โดย ณ สิ้นปี 2567 มีสัดส่วนรายได้มาจาก Sea Freight 96% Air Freight 1% และ Logistics Support 3% ของรายได้รวม

ขณะที่ปี 2568 บริษัทฯ วางเป้าหมายรายได้รวม 4,300 ล้านบาท เติบโตกว่า 16% จากปีที่ผ่านมา และมีปริมาณการขนส่งสินค้ารวม 53,000 ตู้ เพิ่มขึ้นเกือบ 8% จากปีก่อน โดยบริษัทฯ เดินหน้าขยายธุรกิจบริการ Air Freight ด้วย
กลยุทธ์การเพิ่มขีดความสามารถและขยายฐานลูกค้า เพื่อกระจายความเสี่ยงและลดการพึ่งพารายได้ในระยะยาวจากกลุ่มธุรกิจบริการ Sea Freight ที่เป็นสัดส่วนรายได้หลักในปัจจุบัน

ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจบริการ Sea Freight ให้ครอบคลุมภูมิภาคอาเซียน ล่าสุดได้ร่วมมือกับกับพาร์ทเนอร์ในประเทศเวียดนาม จัดตั้งบริษัทร่วมทุนและสำนักงานในเวียดนามเป็นที่เรียบร้อย คาดว่าจะเริ่มให้บริการขนส่งสินค้าทางทะเลในเส้นทางเวียดนาม - สหรัฐอเมริกา และจากเวียดนามไปยังภูมิภาคอื่นๆ ได้ในเร็วๆ นี้ คาดว่าจะมีปริมาณขนส่งสินค้าในปีแรกประมาณ 900 ตู้ โดยเวียดนามเป็นประเทศที่เศรษฐกิจกำลังเติบโตและมีศักยภาพด้านการส่งออก อย่างไรก็ตาม หากสหรัฐฯ ปรับขึ้นอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากเวียดนาม มองว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้ามากนัก เนื่องจากประเมินว่าสหรัฐฯ ยังคงต้องพึ่งพาการนำเข้าสินค้าจากเวียดนามที่มีต้นทุนการผลิตต่ำกว่า

นอกจากนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการขยายธุรกิจบริการให้เช่าคลังสินค้า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการโลจิสติกส์แบบครบวงจร โดยแผนดังกล่าวอยู่ระหว่างการพิจารณาด้านทำเลที่ตั้งและความคุ้มค่าในการลงทุน คาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้ จากปัจจุบันที่มีบริการให้เช่าคลังสินค้า 2 แห่ง ในพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง มีพื้นที่รวมประมาณ 20,000 ตารางเมตร

"ภาพรวมธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ แม้มีปัจจัยความไม่แน่นอนของภาพรวมเศรษฐกิจโลกที่อาจกระทบกับธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการส่งออกสินค้าจากจีนและประเทศในภูมิภาคอาเซียนไปยังสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มองว่าแม้สหรัฐฯ ปรับขึ้นอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนและประเทศอื่นๆ ที่เกินดุลการค้า แต่ยังต้องพึ่งพาการนำเข้าสินค้าบางรายการที่ไม่สามารถผลิตได้เอง และต้นทุนการผลิตสินค้าบางประเภทก็ยังคงสูงกว่าการนำเข้าภายใต้อัตราภาษีใหม่ ขณะที่การดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ในช่วง 2 เดือนแรกที่ผ่านมาอยู่ในระดับที่น่าพอใจ"
นายนันท์มนัส กล่าว

นายกวิล กฤษเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัทไซโน โลจิสติกส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SINO กล่าวว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานปี 2567 มีรายได้รวม 3,700 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 104% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,810 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 88 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 66% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 53 ล้านบาท จากการวางกลยุทธ์ขยายธุรกิจ และการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนในมาเลเซียเมื่อปีที่ผ่านมาเพื่อขยายธุรกิจให้บริการขนส่งสินค้าทางทะเลแก่ลูกค้า รวมถึงค่าระวางเรือที่เพิ่มขึ้นในปีที่ผ่านมา ส่วนธุรกิจบริการสนับสนุนงานบริการโลจิสติกส์ บริการขนส่งสินค้าทางอากาศ และบริการให้เช่าคลังสินค้า มีรายได้อยู่ในระดับที่ดี

ขณะที่ฐานะทางการเงินของบริษัทฯ ยังคงแข็งแกร่ง มีอัตราหนี้สินต่อทุนที่มีภาระดอกเบี้ย 0.56 เท่า และมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน ณ สิ้นปี 2567 อยู่ที่ 311 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีความพร้อมด้านเงินทุนจากการเสนอขายหุ้น IPO และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อปลายปี 2566 พร้อมรองรับแผนงานขยายธุรกิจ

ที่มา: เอ็ม ที มัลติมีเดีย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๒:๔๒ กลุ่มบริษัทศรีตรังร่วมส่งเสริมพลังสถาบันครอบครัว สนับสนุนกิจกรรมวันผู้สูงอายุและวันแห่งครอบครัว จ.สงขลา ปี
๑๒:๕๗ เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ชวนเพลิดเพลินกับนิทรรศการไอ้มดแดง Masked Rider Exhibition ฉลองครบรอบ 50 ปีแห่งตำนาน Kamen Rider พร้อมของแถมสุดเอ็กซ์คลูซีฟ
๑๒:๔๘ Xiaomi จัดโปรโมชันพิเศษระหว่างวันที่ 6-30 เมษายน 2568 พร้อมวางจำหน่าย Redmi Note 14 Pro 5G สีใหม่ Sand Gold ในราคาพิเศษ 13,990
๑๒:๓๑ ซีพี แอ็กซ์ตร้า จับมือ เด็กสมบูรณ์ ปลุกกระแสวงการเบเกอรี่ เปิดตัว 9 เมนูสุดว้าว! ผสานรสชาติไทยตะวันตกอย่างลงตัว
๑๒:๑๖ บมจ.เอ็นแอลซูเปอร์แท็กซ์เดินหน้าจัดสัมมนาวางแผนระบบบัญชีและภาษี ยืนยันช่วยผู้ประกอบการเข้าใจงบการเงินและรู้ลึกถึงสุขภาพของธุรกิจ
๑๒:๑๓ มูลนิธิสัมมาชีพเปิดหลักสูตร LFC รุ่นที่ 15 ESG in Practices ปรับธุรกิจให้โตยั่งยืน รับกติกาใหม่โลก
๑๑:๒๐ SVT ประชุมผู้ถือหุ้นปี 68 ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.045 บ./หุ้น
๑๒:๓๕ สุขภาพสตรี : เรื่องที่ต้องใส่ใจในแต่ละช่วงวัย
๑๒:๑๒ เปิดรับสมัครแล้ววันนี้ กับการประกวดเฟ้นหาสาว TG Miss Queen Andaman Power 2025 พร้อมเตรียมฉลองครบรอบ 10 ปี
๑๒:๒๔ SME ไทยในคลื่นเศรษฐกิจโลกและแรงกดดันทางการค้า Funding Societies ชี้โอกาสของ SME ในยุคแห่งความผันผวน