finbiz by ttb แนะ 6 เทรนด์ธุรกิจยั่งยืนที่ทุกองค์กรต้องจับตามองในปี 2025

ศุกร์ ๒๑ มีนาคม ๒๕๖๘ ๑๓:๒๑
เมื่อความยั่งยืนไม่ได้เป็นแค่ทางเลือก แต่เป็นทางรอดของธุรกิจ และโลกในยุคปัจจุบัน ทำให้เรื่องของความยั่งยืนนั้นไม่ได้เป็นแค่เทรนด์ หรือกระแสอีกต่อไป ส่งผลให้ธุรกิจในหลากหลายอุตสาหกรรมต่างนำเรื่องของความยั่งยืนมาเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญในการดำเนินธุรกิจในปี 2025 นี้ รวมไปถึงกฎหมาย และข้อบังคับต่าง ๆ จากหน่วยงานภาครัฐ และหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องที่จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น จึงยิ่งทำให้ธุรกิจต่างต้องปรับตัวและวิธีการดำเนินงานให้มุ่งไปสู่ความยั่งยืน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า สังคม รวมไปถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และทำให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างยั่งยืน
finbiz by ttb แนะ 6 เทรนด์ธุรกิจยั่งยืนที่ทุกองค์กรต้องจับตามองในปี 2025

finbiz by ttb รวบรวม 6 เทรนด์การทำธุรกิจแบบยั่งยืนที่น่าจับตามองในปี 2025 เพื่อให้ธุรกิจนำไปใช้วางแผน และกำหนดแนวทางการดำเนินธุรกิจ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน

  1. Net Zero & Decarbonization: จากการวางแผนสู่การลงมือทำจริง
    จากปัญหาสภาพภูมิอากาศที่แปรปรวนอาจนำไปสู่ผลกระทบที่หลากหลาย ประกอบกับการออกกฎหมาย และข้อบังคับของภาครัฐ ทำให้ธุรกิจในหลายอุตสาหกรรมตื่นตัวกับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยธุรกิจหลายแห่งมีการตั้งเป้าหมายที่จะเป็น Net zero เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดและกฎหมาย ในปี 2025 นี้เราจะเริ่มเห็นหลาย ๆ ธุรกิจจะเปลี่ยนโฟกัสจากการวางแผนมาเป็นการลงมือลดการใช้คาร์บอนกันอย่างจริงจังมากยิ่งขึ้น ผ่านมาตรการและการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการใช้พลังงานสะอาด และพลังงานหมุนเวียน การลดการใช้ไฟฟ้า และน้ำมันเชื้อเพลิงในกระบวนการผลิต และขนส่ง การพัฒนาสินค้าคาร์บอนต่ำ เป็นต้น

โดยประเทศไทยตั้งเป้าที่จะบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์ภายในปี 2065 ตามร่างพ.ร.บ.ลดโลกร้อน (Climate Change Act) ทำให้การลดการใช้ก๊าซเรือนกระจกจะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ในการดำเนินธุรกิจ และต้องมีการตรวจวัดคาร์บอนฟุตพริ้นท์อย่างสม่ำเสมอ รวมไปถึงการจัดทำบัญชี GHG (บัญชีการปล่อยก๊าซเรือนกระจก) เพื่อนำส่งให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

  1. ESG Regulatory Framework : การเข้ามาของกฎหมายและข้อบังคับเป็นตัวเร่งให้ธุรกิจต้องปรับตัว
    กฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับความความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อมจะเข้ามามีบทบาทกับการดำเนินธุรกิจมากยิ่งขึ้น โดย พ.ร.บ.การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหากมีการบังคับใช้ในปี 2025 จะทำให้การตรวจวัดคาร์บอนฟุตพริ้นท์และการลดการใช้ก๊าซเรือนกระจก กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของการดำเนินธุรกิจ ที่ต้องปฏิบัติตาม และการรายงานผลความยั่งยืนตามข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์สำหรับบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ รวมไปถึงมาตรการจากต่างประเทศอย่าง European Green Deal เพื่อลดคาร์บอนไดออกไซด์ลง 55% ในปี 2030 นั้น จะส่งผลกระทบกับผู้ประกอบการสินค้าส่งออกไทย เนื่องจากมีการออกมาตรการปรับราคาคาร์บอนก่อนข้ามพรมแดนของสหภาพยุโรป (CBAM) ที่จะกำหนดราคาสินค้าบางประเภทเพื่อป้องกันการนำเข้าสินค้าที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงเข้ามาในกลุ่มประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป ซึ่งโดยแต่ละกลุ่มสินค้าจะมีข้อกำหนดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และวิธีการเรียกเก็บคาร์บอน

ดังนั้นธุรกิจจึงควรต้องศึกษาและเตรียมตัวให้พร้อม เริ่มต้นจากการตรวจวัดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ เพื่อสามารถนำข้อมูลดังกล่าวไปในการแสดงรายงานของกิจการ และนำไปใช้แสดงในฉลากของผลิตภัณฑ์ หรือบริการเพื่อใช้ส่งเสริมภาพลักษณ์ด้านสิ่งแวดล้อมของธุรกิจได้

  1. Circular Economy & Zero Waste: การใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า
    หนึ่งในเทรนด์ที่มาแรง และเกี่ยวข้องโดยตรงกับการทำธุรกิจอย่างยั่งยืนคือ เศรษฐกิจหมุนเวียน หรือ Circular Economy ที่เปลี่ยนจากการผลิต-ใช้-ทิ้ง มาเป็นการออกแบบผลิตภัณฑ์ให้ใช้งานได้นานขึ้น และใช้ซ้ำได้ รวมถึงการนำไปรีไซเคิล เพื่อลดปริมาณของเสียได้อีกด้วย เป็นอีกหนึ่งแนวคิดที่องค์กรในหลายอุตสาหกรรมได้นำไปประยุกต์ใช้ ทั้งธุรกิจแฟชั่น อิเล็กทรอนิกส์ บรรจุภัณฑ์ และอื่น ๆ โดยแนวคิดเรื่องของการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่านั้นนอกจากจะตอบโจทย์เรื่องการทำธุรกิจอย่างยั่งยืนแล้ว ยังช่วยให้องค์กรประหยัดค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างมาก อีกทั้งยังส่งผลดีต่อการคำนวณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กรด้วย เพราะเมื่อใช้ทรัพยากรเท่าที่จำเป็นจะช่วยลดการสร้างของเสีย และลดการซื้อของบางอย่างใน Supply Chain ได้มากขึ้น
  2. Green Finance & ESG Investment: เงินทุนไหลสู่ธุรกิจสีเขียว
    ภาคการเงินถือเป็นอุตสาหกรรมที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความยั่งยืน มีการคาดการณ์ว่าตลาดการเงินสีเขียวทั่วโลกมีอัตราการเติบโต 12.2% ต่อปี แบบทบต้น ตั้งแต่ปี 2024 ถึงปี 2031 ทำให้ผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เชื่อมโยงกับ ESG ไม่ว่าจะเป็นพันธบัตรสีเขียว สินเชื่อสีเขียว Sustainability-Linked Loans และกองทุนเพื่อความยั่งยืนกลายเป็นจุดสนใจในตอนนี้ ซึ่งแนวโน้มการลงทุนของธุรกิจในปีนี้จะเป็นการลงทุนที่คำนึงถึงเรื่องของสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล มากยิ่งขึ้น โดยองค์กรหรือธุรกิจที่ต้องการเข้าถึงแหล่งเงินทุนสีเขียว จำเป็นต้องมีแผนการดำเนินงานและมาตรวัดเกี่ยวกับความยั่งยืนที่ชัดเจน เพื่อที่จะได้รับข้อเสนอที่เป็นประโยชน์ต่อการนำไปพัฒนา และต่อยอดธุรกิจสู่ความยั่งยืนได้ดีมากยิ่งขึ้น
  3. Sustainable Supply Chain: ความโปร่งใสและจริยธรรมตลอดห่วงโซ่อุปทาน
    ในปี 2025 นี้ธุรกิจจำเป็นต้องดูและตรวจสอบผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม ตลอดทั้งซัพพลายเชนของการทำธุรกิจ รวมถึงมีการเก็บข้อมูลในทุก ๆ ขั้นตอนของซัพพลายเชน เช่น การจัดทำคาร์บอนฟุตพริ้นท์ ถือเป็นก้าวแรกของการเปลี่ยนผ่านสู่การเป็นธุรกิจที่ยั่งยืน จะต้องมีการเก็บข้อมูลตั้งแต่กิจกรรมต้นน้ำ กิจกรรมโดยตรงขององค์กรไปจนถึงกิจกรรมปลายน้ำ ทำให้ธุรกิจต้องเลือกสรรและใส่ใจในทุก ๆ กระบวนการของการดำเนินธุรกิจ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าธุรกิจได้ดำเนินการตามมาตรฐาน และมีขั้นตอนการดำเนินธุรกิจที่เป็นไปอย่างโปร่งใส
  4. AI & Digitalization for Sustainability: เทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ
    การนำ AI และ Digital Platform เข้ามาใช้ในด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืนถือเป็นหนึ่งในเทรนด์สำคัญที่ได้รับความนิยม โดยเฉพาะการนำ AI และ Digital Platform เข้ามาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ ที่เป็นมาตรวัดสำคัญ เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลคาร์บอนฟุตพริ๊นท์ การบริหารจัดการพลังงาน และการคาดการณ์แนวโน้มสิ่งแวดล้อม เนื่องจาก AI มีความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลที่มีอยู่เป็นจำนวนมากได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ช่วยประหยัดเวลาในการทำงานได้เป็นอย่างมาก นอกจากนี้ AI ยังช่วยให้เกิด Smart Manufacturing และ Smart Cities ที่จะทำให้การใช้ทรัพยากรที่มีอยู่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

เมื่อ "ความยั่งยืน" ไม่ใช่แค่เทรนด์ของธุรกิจอีกต่อไป

ปี 2025 เป็นปีที่ธุรกิจต้องก้าวไปไกลกว่าแค่การ "ทำดีเพื่อภาพลักษณ์" แต่ต้องแสดงให้เห็นถึงผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมทั้งในด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล องค์กรที่สามารถปรับตัวให้เข้ากับ 6 เทรนด์ธุรกิจยั่งยืนเหล่านี้จะไม่เพียงแค่สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อโลก แต่ยังสามารถสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันในระยะยาวอีกด้วย และเพื่อให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างยั่งยืน finbiz by ttb ขอแนะนำโซลูชันการเงินสำหรับลูกค้าธุรกิจที่พร้อมตอบโจทย์การเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืน ให้ธุรกิจเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อนำไปใช้ต่อยอดในการเป็นธุรกิจรักษ์โลก และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับธุรกิจ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการลูกค้าธุรกิจ ทีทีบี โทร 0 2643 7000

ที่มา: ทีเอ็มบีธนชาต

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๙:๐๐ กรมอนามัย ลงพื้นที่เยียวยาผู้ประสบภัย เหตุแผ่นดินไหว
๒๘ มี.ค. ดร.ฤกขจี กาญจนพิทักษ์ ได้รับรางวัล Best Women CEO in Strategic Leadership - Healthcare
๒๘ มี.ค. ฉลองสงกรานต์และอีสเตอร์สุดชิคในเดือนเมษายนนี้ที่โรงแรม โฟร์พอยท์ส บาย เชอราตัน ภูเก็ต ป่าตอง บีช รีสอร์ท
๒๘ มี.ค. เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ ชวนน้องฉัตร เนรมิตความมั่นใจในคลาสสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ส่งต่อพลัง #EmpowerHER ฉลองเดือนสตรีสากล
๒๘ มี.ค. พาราไดซ์ พาร์ค มุ่งยกระดับประสบการณ์ใหม่ที่ยิ่งใหญ่จากเดิม สู่การเป็น Health Wellness Destination เติมเต็มทุกความต้องการด้านสุขภาพและทุกไลฟ์สไตล์เพื่อชีวิตที่ดีของทุกคน
๒๘ มี.ค. เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย เยี่ยมชม เลอโนท ประเทศไทย พร้อมร่วมกิจกรรมเวิร์กช็อปสุดพิเศษ ศิลปะการทำเวียนนัวเซอรี่ มาสเตอร์คลาส กับเชฟมิกาแอล
๒๘ มี.ค. คณะการท่องเที่ยวฯ DPU จัดเวทีประชัน HT MAKEUP GRAND COMPETITION 2025 ปี 2 เพื่อเสริมสร้างทักษะด้านการแต่งหน้าเสริมบุคลิกภาพให้นักศึกษา
๒๘ มี.ค. สคล. ผนึกกำลังชุมชน รณรงค์ลด ละ เลิกเหล้า ต่อเนื่อง พุ่งเป้า ป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ มุ่งสร้างสังคมสุขภาวะ
๒๘ มี.ค. NER สานต่อโครงการ NER สนับสนุนวิถีเกษตรยั่งยืน ปี2
๒๘ มี.ค. Readyplanet โชว์ศักยภาพผู้นำด้าน MarTech และ CRM Platform ในงาน MARTECH EXPO 2025