บริษัท MediaTek เปิดตัวแพลตฟอร์ม IoT edge-AI ประสิทธิภาพสูงอย่าง Genio 720 และ Genio 520 โดยเป็นแพลตฟอร์มใหม่ในซีรีส์ Genio ซึ่งรองรับโมเดล Generative AI ล่าสุด พร้อมด้วยระบบ Human Machine Interface (HMI)มัลติมีเดีย และฟีเจอร์การเชื่อมต่อในอุปกรณ์ IoT สำหรับสมาร์ทโฮม ร้านค้าปลีก อุตสาหกรรม และการค้าขาย
Genio 720 และ Genio 520 ล้ำกว่าด้วยประสิทธิภาพเอดจ์เหนือชั้น โดยรองรับสูงสุดถึง 10 TOPS พร้อมด้วย Neural Processing Unit (NPU) รุ่นที่8 ในตัวของ MediaTek ที่มีการเร่งความเร็วด้วยฮาร์ดแวร์แบบเต็มรูปแบบสำหรับโมเดลทรานส์ฟอร์มเมอร์และ Convolutional Neural Network (CNN) นอกจากนี้ Genio 720 และ Genio 520 ยังมีหน่วย Memory ที่ดียิ่งขึ้นด้วย LPDDR5 สูงสุดที่ 16GB เพื่อรองรับ Large Language Models (LLMs) ที่ออกแบบมาเพื่อใช้กับเอดจ์ที่มีปริมาณการใช้ข้อมูลอย่างหนักหน่วง เช่น Llama, Gemini, Phi และ DeepSeek และเร่งความเร็วให้กับทาสก์ Generative AI นักพัฒนาจึงสามารถใช้ประโยชน์จาก Language Model ระดับโลกและเฟรมเวิร์คทั่วไปได้ ทำให้ปรับใช้แอปพลิเคชัน Generative AI แบบหลายโหมดได้อย่างมีประสิทธิภาพและนำผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาดได้เร็วขึ้น เพราะมีระบบนิเวศ AI ระดับโลกอันกว้างขวางของ MediaTek คอยขับเคลื่อนอยู่เบื้องหลัง
คุณ CK Wang ตำแหน่ง General Manager แห่งกลุ่มธุรกิจ IoT ของ MediaTek กล่าวว่า "Genio 720 และ Genio 520 ถือเป็นยุคใหม่แห่งนวัตกรรม IoT ที่มาพร้อมความสามารถ Generative AI ที่เร็วแรงแต่ทรงประสิทธิภาพ ซึ่งมอบประสบการณ์การใช้งานที่ราบรื่นอีกทั้งยังรับประกันความเป็นส่วนตัวของข้อมูลด้วย ด้วยการผสานรวม NVIDIA TAOและโมเดล AI ที่นำมาใช้กันอย่างแพร่หลายสำหรับแอปพลิเคชัน Edge AI นักพัฒนาสามารถปรับเปลี่ยนการออกแบบผลิตภัณฑ์และฟอร์มแฟคเตอร์ได้หลากหลายมากขึ้น ตั้งแต่จอแสดงผลอัจฉริยะสำหรับร้านค้าปลีกไปจนถึงแอปพลิเคชัน HMI สำหรับอุตสาหกรรมที่ซับซ้อน"
Genio 720 และ Genio 520 สร้างขึ้นด้วย Process Node 6nm โดยผสานรวม CPU แบบ Octa Core เข้ากับโปรเซสเซอร์ Arm Cortex-A78 สองตัวและโปรเซสเซอร์ Cortex-A55 หกตัวเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและประสิทธิภาพการใช้พลังงาน แพลตฟอร์ม IoT ที่มีประสิทธิภาพสูงดังกล่าวได้รับการปรับให้เหมาะสมสำหรับการใช้พลังงานต่ำ เหมาะสำหรับอุปกรณ์พกพาที่ต้องการเคสแบบไม่มีพัดลมและต้องทำงานโดยใช้แบตเตอรี่
Genio 720 และ Genio 520 มีคุณสมบัติมัลติมีเดียขั้นสูงหลายประการ จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับจอแสดงผลสำหรับการค้าขาย อุปกรณ์ Smart Retail แอปพลิเคชัน HMI และแอปพลิเคชันแบบ Multi Window หรือแบบอินเตอร์แอคทีฟประเภทอื่น ๆ การออกแบบฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่รวมไว้ในที่เดียวของแพลตฟอร์ม IoT ยังเอื้อให้ผู้พัฒนาเขียนโปรแกรมเพียงครั้งเดียวและรันได้ทุกที่ ขณะเดียวกันยังเปิดโอกาสให้ปรับแต่งเพื่อตอบสนองความต้องการแอปพลิเคชันเฉพาะได้อีกด้วย
Genio 720/520 ยังรองรับมาตรฐาน OSM (Open Standard Module) ด้วยการออกแบบ Reference Design ที่รับรองคุณภาพของพลังงานและสัญญาณ ช่วยลดระยะเวลาในการพัฒนา OSM ของผู้ใช้ได้อย่างมาก ที่สำคัญ พันธมิตรของ MediaTek วางแผนเปิดตัวโซลูชัน OSM ที่ใช้ Genio 720/520 ในช่วงครึ่งปีหลัง ทำให้สามารถเร่งเวลาในการนำแอปพลิเคชันต่าง ๆ ออกสู่ตลาดได้
คุณสมบัติของ Genio 720 และ Genio 520 ยังประกอบไปด้วย
- การรองรับจอภาพแบบอัลตราไวด์ 4K/5K หนึ่งจอ หรือจอภาพแบบ 2.5K สองจอ
- การถอดรหัสและเข้ารหัสวิดีโอ 4K H.264/H.265 ที่ประหยัดพลังงาน
- การรองรับ ISP สูงสุด 16+16/32MP ที่อัตรา 30fps แบบคู่
- การรองรับกล้องสูงสุด 6xFHD30 พร้อมช่อง Virtual MIPI
- โซลูชัน Wi-Fi 6/6E ของ MediaTek ที่ผสานรวมไว้แล้ว
- การรองรับ Wi-Fi 7 และ 5G Redcap ผ่านโมดูลภายนอก
- ตัวเลือกระบบปฏิบัติการ Android, Yocto Linux และ Ubuntu
- ชุดอินเทอร์เฟซ I/O ความเร็วสูงที่ยืดหยุ่นสำหรับการปรับเปลี่ยนระบบ
- ชุดอินเทอร์เฟซสำหรับจอแสดงผลที่หลากหลายสำหรับแอปพลิเคชันที่ต้องการจอภาพหลายจอ
- ช่วงอุณหภูมิเพื่อการค้าและอุตสาหกรรม
แพลตฟอร์ม Genio 720 และ Genio 520 จะเปิดทดลองให้ลูกค้าใช้ตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ปี 2568 ท่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับซีรีส์ Genio ได้ที่ https://www.mediatek.com/products/iot/genio-iot
ที่มา: Priority Consultants