อาจารย์วสุกานต์ วิศาลสวัสดิ์ คณบดีวิทยาลัยบริหารธุรกิจนวัตกรรมและการบัญชี (CIBA) มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) เปิดเผยว่า วิทยาลัย CIBA มุ่งหวังให้นักศึกษาได้เรียนรู้กระบวนการทำงานจากบริษัทที่เป็นผู้นำด้านนวัตกรรม โดย บริษัทฟอร์ทฯ เจ้าของแบรนด์ดัง "เต่าบิน" ถือเป็นองค์กรตัวอย่างที่มีการพัฒนา มีการประดิษฐ์คิดค้นหรือนวัตกรรมและปรับตัวเพื่อหลีกเลี่ยงการถูก Disrupt อย่างต่อเนื่อง ซึ่งสอดคล้องกับทฤษฎีที่นักศึกษาได้เรียนรู้จากมหาวิทยาลัย โดยความร่วมมือนี้จะช่วยให้นักศึกษามั่นใจว่าประเทศไทยเราเองก็มีบุคลากรที่มีความสามารถในการพัฒนาเทคโนโลยีระดับสูง นอกจากนี้ ความร่วมมือยังมีแนวโน้มที่จะขยายไปยังคณะอื่น ๆ เช่น วิทยาลัยวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี วิทยาลัยการพัฒนาและฝึกอบรมด้านการบิน คณะนิติศาสตร์ปรีดี พนมยงค์ และคณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม เป็นต้น
"หลังจากนี้เราจะนำนักศึกษาไปศึกษาดูงานที่บริษัทฟอร์ทฯ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการทำงานในองค์กรที่มีนวัตกรรม (Innovation) ในระดับดีมาก และเพื่อให้นักศึกษาเข้าใจว่าการทำงานไม่ใช่เพียงแค่การเป็นพนักงานบริษัทเท่านั้น แต่เป็นการเรียนรู้วิธีการทำงานที่จะทำให้ประสบความสำเร็จ ซึ่งสิ่งที่นักศึกษาจะได้เมื่อไปฝึกงานกับบริษัทนี้ คือ พื้นฐานของการคิดอย่างสร้างสรรค์ตลอดเวลา" อาจารย์วสุกานต์ กล่าว
ด้านนายวันรัฐ ผาติหัตถกร ผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคลและธุรการ บริษัท ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัท ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งมาแล้วกว่า 36 ปี โดยแบ่งธุรกิจออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1.) โรงงานผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งผลิตชิ้นส่วนให้แก่บริษัทระดับโลกอย่าง Tesla 2.) Enterprise Solution ดำเนินงานด้านนวัตกรรมให้กับภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน เช่น การผลิตสัญญาณไฟอัจฉริยะ และการทำงานร่วมกับ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.ในลักษณะศูนย์ซ่อมบำรุงท่าอากาศยาน และ 3.) Smart Service Business อาทิ ตู้บุญเติม ตู้เต่าบิน และ EV Charger โดยหัวใจสำคัญของบริษัท คือ มีทีมวิจัยและพัฒนา ( Research and Development : R&D) เป็นของตัวเอง ไม่ได้พึ่งพานวัตกรรมของต่างประเทศ
นายวันรัฐ กล่าวด้วยว่า ทางบริษัทดำเนินโครงการรับนักศึกษาฝึกงานจากหลากหลายสถาบันการศึกษา หนึ่งในนั้นมีนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ซึ่งที่ผ่านมาพบว่า นักศึกษากลุ่มดังกล่าวได้รับการปลูกฝังองค์ความรู้ด้านนวัตกรรมและธุรกิจมาตั้งแต่ต้น ส่งผลให้เมื่อเข้าสู่กระบวนการฝึกงาน สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยทันที โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการประยุกต์ใช้ระบบซอฟท์แวร์บริหารงานบุคคล ERP-SAP (Enterprise Resource Planning - System Applications and Products ) ซึ่งเป็นระบบที่มีความซับซ้อนและมีขนาดใหญ่ นอกจากนี้ นักศึกษาของ DPU ที่เข้ารับการฝึกงานในแผนกธุรกิจระหว่างประเทศ ได้แสดงให้เห็นว่า การผสมผสานระหว่างความรู้ภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติที่ได้รับจากสถาบันการศึกษา ส่งผลให้นักศึกษามีศักยภาพและสามารถปฏิบัติงานได้จริง
นายวันรัฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการลงนามความร่วมมือครั้งนี้ บริษัทมีแผนจะรับนักศึกษาจาก DPU เข้ารับการฝึกงานประมาณ 20-30 คน โดยสาขาที่ต้องการมากที่สุด คือ การบัญชี เนื่องจากสามารถทำงานได้หลากหลาย รองลงมา คือ โลจิสติกส์ และธุรกิจระหว่างประเทศ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ไม่จำกัดว่านักศึกษาจะต้องฝึกงานในสายตรงที่เรียนมา หากมีความสนใจในสายงานอื่น บริษัทก็พร้อมเปิดโอกาส แต่ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ทางมหาวิทยาลัยเห็นว่าสามารถนำไปใช้ประกอบผลการเรียนได้ ทักษะสำคัญที่บริษัทต้องการจากนักศึกษาฝึกงานคือ ความคิดเชิงนวัตกรรม (Innovation) และ Open Mindset หรือการเปิดใจเรียนรู้ ซึ่งเป็นสิ่งที่บริษัทเห็นได้ชัดจากนักศึกษาของ DPU
"ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นการส่งเสริมด้านศึกษา นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังพร้อมสนับสนุนงานวิชาการต่างๆ ของมหาวิทยาลัย อาทิ การให้ข้อมูล การสนับสนุนนวัตกรรมสำหรับโครงการต่าง ๆ การจัดกิจกรรม รวมถึงการส่งวิทยากรมาให้ความรู้ในสาขาที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น และทางบริษัทพร้อมให้นักศึกษาทดลองฝึกงานในสายอาชีพต่าง ๆ หากทำงานได้ดีและเข้ากับทีมได้ โอกาสร่วมงานกับฟอร์ทฯมีสูง แต่หากพบว่ายังไม่ใช่สายงานที่เหมาะสมและต้องการไปตามหาฝันในแนวทางอื่น เช่น การเป็นผู้ประกอบการ ก็ถือเป็นประสบการณ์ที่มีค่า แต่อยากเน้นย้ำว่าสิ่งสำคัญที่สุดในการเตรียมตัวฝึกงาน คือ การเปิดใจที่จะเรียนรู้ "นายวันรัฐ กล่าวทิ้งท้าย
ที่มา: มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
