ทั้งนี้ หากสถานการณ์ฝุ่นมีค่ามากกว่า 37.5 มคก./ลบ.ม. ไม่น้อยกว่า 35 เขต มีอัตราการระบายต่ำกว่า 2,000 ตารางเมตร/วินาที ต่อเนื่อง 2 วัน และพบจุดความร้อนมากกว่า 80 จุด ติดต่อกัน 3 วัน กทม. จะประกาศขอความร่วมมือภาครัฐและเอกชนให้พนักงานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในที่พัก (Work from Home) และหากสถานการณ์ฝุ่นมีค่ามากกว่า 75 มคก./ลบ.ม. ไม่น้อยกว่า 5 เขต ประกอบกับมีอัตราการระบายต่ำกว่า 3,000 ตร.ม./วินาที และการพยากรณ์คาดว่าจะเกิดต่อเนื่องอีก 2 วัน จะประกาศห้ามรถตั้งแต่ 6 ล้อขึ้นไป เข้าพื้นที่วงแหวนรัชดาภิเษกภายใต้หลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด ซึ่งสามารถติดตามข่าวสารการประกาศและสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ได้ที่เพจเฟซบุ๊ก กรุงเทพมหานคร สำนักสิ่งแวดล้อม กทม. กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร และหากค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน กทม. จะประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนป้องกันดูและสุขภาพ โดย สนอ. ออกหน่วยบริการสาธารณสุขและหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ทั้ง 69 ศูนย์ฯ ในพื้นที่รับผิดชอบ แจกหน้ากากอนามัยให้กลุ่มเปราะบาง เพื่อให้บริการประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่ได้รับผลกระทบจากค่าฝุ่น PM2.5 อย่างสะดวก รวดเร็ว และทั่วถึง สนพ. เปิดให้บริการคลินิกมลพิษทางอากาศในโรงพยาบาลในสังกัด 8 แห่ง เพื่อให้บริการรักษาและคำแนะนำวิธีการป้องกันดูแลตนเอง รวมทั้งจัดทำห้องเรียนปลอดฝุ่นของโรงเรียนในสังกัด กทม. 429 แห่ง และศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน 271 แห่ง เพื่อลดผลกระทบทางสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นกับเด็กนักเรียน ตลอดจนมาตรการจัดการเรียนการสอนตามความเหมาะสมในช่วงที่พบค่าฝุ่น PM2.5 สูง งดกิจกรรมกลางแจ้ง สวมหน้ากากอนามัย จัดการเรียนการสอนเสริม หรือชดเชย หากจำเป็น ต้องหยุดเรียน รวมทั้งจัดกิจกรรมธงคุณภาพอากาศในโรงเรียนและชุมชน เพื่อแจ้งเตือนนักเรียนและประชาชนรับทราบสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 เตรียมพร้อมป้องกันและดูแลสุขภาพอนามัยหากค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน หากประชาชนพบแหล่งก่อมลพิษ หรือรถปล่อยควันดำสามารถแจ้งเบาะแสได้ที่แอปพลิเคชัน Traffy Fondue ตลอด 24 ชั่วโมง
นางภาวิณี รุ่งทนต์กิจ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย (สนอ.) กทม. กล่าวว่า สนอ. ได้ตรวจประเมินเพื่อควบคุมแหล่งกำเนิดมลพิษในกรุงเทพฯ อย่างต่อเนื่อง โดยบูรณาการความร่วมมือกับสำนักงานเขต สำนักสิ่งแวดล้อม สำนักการโยธา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการควบคุมตรวจสอบสุขลักษณะและมาตรการควบคุมฝุ่นละอองในสถานประกอบกิจการ โรงงานที่ก่อให้เกิดฝุ่น PM2.5 สูง เช่น กิจการที่มีการใช้หม้อไอน้ำ มีการใช้เชื้อเพลิงชีวมวล กิจการคอนกรีตผสมเสร็จ สถานที่ก่อสร้าง ถมดิน ท่าทราย โดยในปีงบประมาณ พ.ศ.2568 ดำเนินการตรวจประเมินกลุ่มเป้าหมายดังกล่าวไปแล้ว 2,291 แห่ง (จากทั้งหมด 3,365 แห่ง) คิดเป็นร้อยละ 68 และในช่วงที่มีฝุ่นสูง ตั้งแต่เดือน ต.ค. 67 - มี.ค. 68 สนอ. ร่วมกับสำนักงานเขตดำเนินการตรวจกำกับดูแลสถานประกอบกิจการคอนกรีตผสมเสร็จที่พบการร้องเรียนบ่อยครั้ง 25 แห่ง และได้ให้สำนักงานเขตตรวจสอบกิจการคอนกรีตผสมเสร็จทั้งหมด 114 แห่ง เป็นประจำอย่างน้อย 1ครั้ง/เดือน เพื่อกวดขันให้ปฏิบัติตามมาตรการลดฝุ่นละอองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งในรายที่พบข้อบกพร่องได้แนะนำให้ปรับปรุงแก้ไข และตรวจติดตามกวดขันให้ปฏิบัติตามมาตรการในช่วงที่มีค่าฝุ่นสูงอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ศูนย์บริการสาธารณสุข กทม. ทั้ง 69 แห่ง จะจัดทีมออกหน่วยบริการสาธารณสุขเคลื่อนที่ในพื้นที่ที่รับผิดชอบ หรือพื้นที่ศูนย์สุขภาพชุมชน กรณีฝุ่น PM2.5 มีค่าระหว่าง 37.6 - 75 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) ติดต่อกัน 3 วัน ให้ออกหน่วยบริการสาธารณสุขเคลื่อนที่ และจัดทีมปฏิบัติการลงพื้นที่ชุมชนและเยี่ยมติดตามผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง ทั้งเด็ก ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ ผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ โรคผิวหนัง โรคเยื่อบุตาอักเสบ และโรคหัวใจและหลอดเลือด ทั้งนี้ จากข้อมูลผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจากฝุ่น PM2.5 ที่มารับบริการตรวจรักษาจากศูนย์บริการสาธารณสุข 69 แห่ง ตั้งแต่วันที่ 8 พ.ย. 66 - 21 มี.ค. 68 มีผู้ป่วยทั้งสิ้น 77,529 ราย โดย สนอ. ได้ส่งมอบหน้ากากอนามัยสำหรับผู้ใหญ่ให้แก่สำนักงานเขต 50 เขต รวม 1,160,000 ชิ้น เพื่อนำไปแจกจ่ายให้แก่ประชาชนกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ กลุ่มที่มีโรคระบบทางเดินหายใจและโรคหัวใจ และประชาชนกลุ่มเสี่ยงต่าง ๆ เช่น ผู้ขับขี่จักรยานยนต์รับจ้าง ผู้ค้าริมถนน และประชาชนทั่วไปที่ใช้ชีวิตนอกอาคาร เพื่อป้องกันและดูแลสุขภาพจากปัญหาฝุ่น PM2.5 โดยได้แจกหน้ากากอนามัยไปแล้ว 436,157 ชิ้น และแจกให้กับนักเรียนโรงเรียนในสังกัด กทม. (อายุ 6 - 12 ปี) 500,000 ชิ้น (ข้อมูล ณ วันที่ 22 มี.ค.68) ตลอดจนแจกให้กับผู้ป่วยที่ใช้บริการศูนย์บริการสาธารณสุข 69 แห่ง และผู้ป่วยตอนเยี่ยมบ้านและการออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ด้วย
นางเลิศลักษณ์ ลีลาเรืองแสง ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ (สนพ.) กทม. กล่าวว่า สนพ. ได้เตรียมแผนปฏิบัติการป้องกันรองรับสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ตามมาตรการต่าง ๆ ประกอบด้วย เปิดศูนย์ปฏิบัติการการแพทย์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขกรณีฝุ่น PM 2.5 เกิน 75 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) เปิดคลินิกมลพิษทางอากาศในโรงพยาบาลสังกัด กทม. เพื่อให้คำปรึกษาแก่ประชาชน ให้บริการตรวจรักษาลดความรุนแรงของอาการที่เกิดจากฝุ่น PM2.5 ขณะเดียวกัน ยังได้บูรณาการความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายในพื้นที่ อาทิ สำนักงานเขต สถานีตำรวจนครบาล โรงเรียน ให้ความรู้และข้อแนะนำแก่ประชาชนในพื้นที่ โดยบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขจะเน้นการเข้าถึงกลุ่มเปราะบาง เพื่อให้คำแนะนำการดูแลสุขภาพ การสวมใส่หน้ากากอนามัยที่ถูกต้อง แจกหน้ากากอนามัยให้กลุ่มเปราะบางในช่วงที่ค่าฝุ่นสูง พร้อมรายงานสถิติผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ติดตามสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 เพื่อปฏิบัติการออกช่วยเหลือผู้ป่วยยามจำเป็น หากมีรายงานค่าฝุ่นในพื้นที่ระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ รวมทั้งเน้นย้ำประชาชนเรื่องการป้องกันดูแลสุขภาพในช่วงฝุ่นหนาแน่น สำหรับกลุ่มเปราะบางที่มีความเสี่ยงสูง เช่น เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ หอบหืด เยื่อบุตาอักเสบ หัวใจและหลอดเลือด และผู้ที่ทำงานกลางแจ้งเป็นเวลานานควรเลี่ยงพื้นที่ฝุ่นสูง หรือออกนอกอาคารให้น้อยที่สุด หากจำเป็นให้สวมหน้ากากป้องกันฝุ่น และงดการทำกิจกรรม หรือออกกำลังกายกลางแจ้ง ปิดประตูหน้าต่างให้สนิท หรืออยู่ในห้องปลอดฝุ่นและสังเกตอาการตนเอง หากมีอาการไอ แน่นหน้าอก วิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ผื่นแดง หรือมีอาการผิดปกติทางร่างกายอื่น ๆ ควรรีบพบแพทย์ทันที หรือพบแพทย์ผ่าน Telemedicine แอปพลิเคชัน "หมอ กทม." เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยอาการอย่างรวดเร็ว สามารถปรึกษาเรื่องสุขภาพ โทร HOTLINE 1646 สายด่วนสุขภาพ สนพ. ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
ที่มา: กรุงเทพมหานคร