นางสาวรุ่งอรุณ สุวรรณชาโต กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอโมด พลัส จำกัด ได้กล่าวว่า บริษัท เริ่มต้นธุรกิจในปี 2550 โดยการให้บริการรับยิงเลเซอร์บนโลหะ โดยในปีแรกที่เริ่มต้นธุรกิจ บริษัทประสบความสำเร็จอย่างสูง แต่หลังจากนั้นมีคู่แข่งเข้ามาในตลาดทำให้เกิดการแข่งขันด้านราคาอย่างรุนแรง ทางบริษัทจึงตัดสินเปลี่ยนแนวธุรกิจจากงานบริการ เป็นจำหน่ายเครื่องจักร โดยมุ่งเน้นการเป็นผู้ให้บริการที่สามารถนำเสนอการใช้เครื่องจักรในกระบวนการผลิตเครื่องประดับได้อย่างครบวงจร
นางสาวรุ่งอรุณ สุวรรณชาโต กล่าวต่อว่า ในปี 2553 บริษัทเริ่มเข้าสู่การจำหน่ายเครื่องจักรและพัฒนาแนวทางการขายใหม่ โดยเน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาเครื่องจักรให้เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละราย ปัจจุบัน บริษัท ไอโมด พลัส มีลูกค้าหลักเป็นบริษัทเครื่องประดับและสถาบันการศึกษา สัดส่วนไทย 90% ต่างประเทศ 10%
ภาพรวมธุรกิจของบริษัทเติบโตเฉลี่ยปีละ 5-10% แต่ในปี 2567 บริษัทเติบโตสูงขึ้นถึง 40% โดยมียอดรายได้กว่า 70 ล้านบาท และตั้งเป้าหมายรายได้ในปี 2568 ที่ 120 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัท ยังคงมุ่งมั่นที่จะเป็นศูนย์กลางด้านเครื่องจักรของอุตสาหกรรมเครื่องประดับในภูมิภาคเอเชีย ด้วยการใช้เทคโนโลยี AI ช่วยให้การผลิต เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุด และลดการใช้แรงงาน โดยเฉพาะในการควบคุมคุณภาพ
ในด้านการทำตลาด บริษัทได้ใช้สื่อโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook, TikTok และ Line เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้า แต่การขายยังเน้นแบบออฟไลน์ เนื่องจากความเป็นนวัตกรรม จึงจำเป็นต้องเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้า โดยบริษัทมีแผนการออกงานแสดงสินค้า ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะในตลาดเอเชีย เช่น กัมพูชา ลาว อินโดนีเซีย พม่า และเวียดนาม ซึ่งในปีนี้เราได้เข้าร่วมงาน Jewellery & Gem ASEAN Bangkok 2025 (JGAB) งานแสดงสินค้าเพื่อธุรกิจอัญมณีและเครื่องประดับแห่งภูมิภาคอาเซียน ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 23-26 เมษายน 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
โดยการเข้าร่วมงานครั้งนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญที่เราจะได้พบปะและสร้างเครือข่ายทางธุรกิจกับพันธมิตรใหม่ ๆ ทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงนำเสนอสินค้าคุณภาพระดับโลกให้กับผู้ซื้อ นักลงทุน และผู้ที่อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกัน เราคาดหวังว่างาน JGAB 2025 จะเป็นเวทีที่ช่วยส่งเสริมศักยภาพของ ประเทศไทยให้ก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางของธุรกิจอัญมณีและเครื่องประดับในระดับสากล เราพร้อมนำเสนอนวัตกรรมการออกแบบ เทคโนโลยีการผลิตที่ล้ำสมัย และมาตรฐานคุณภาพระดับสูง เพื่อช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอัญมณีไทยให้เป็นที่ยอมรับในตลาดโลก และเป็นกำลังสำคัญในการผลักดันให้ประเทศไทย ก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีอัญมณีและเครื่องประดับในภูมิภาคอาเซียน
ที่มา: FourHundred