มร.แองกัส หัวหน้าฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ของ POCO Global กล่าวว่า "นับเป็นครั้งแรกของ POCO ที่ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่น Ultra ซึ่งจะช่วยยกระดับพลังและประสิทธิภาพขึ้นไปอีกขั้น ด้วยการผสานฟีเจอร์ระดับเรือธงเข้ากับราคาที่เข้าถึงได้ทำให้การเปิดตัวของ POCO F7 Ultra และ POCO F7 Pro ถือเป็นก้าวสำคัญที่สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ POCO ที่ต้องการยกระดับประสบการณ์ของผู้ใช้งานอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเพิ่มศักยภาพของตนในการทำงาน การเล่น และความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างเต็มที่อีกด้วย"
พลังและประสิทธิภาพเป็นสองเท่า
POCO F7 Ultra ขับเคลื่อนด้วยโปรเซสเซอร์ Snapdragon(R) 8 Elite ซึ่งเป็นชิปเซ็ตเรือธงที่ล้ำหน้าที่สุดของ Qualcomm สร้างด้วยเทคโนโลยีการผลิต 3 นาโนเมตรขั้นสูงของ TSMC ซึ่งชิปเซ็ตนี้เพิ่มประสิทธิภาพของ CPU ให้สูงขึ้นถึง 45% และเพิ่มประสิทธิภาพของ GPU 44% พร้อมทั้งลดการใช้พลังงานได้มากถึง 52% สำหรับ CPU และ 46% สำหรับ GPU POCO F7 Ultra สามารถทำคะแนน AnTuTu ได้สูงถึง 2,843,461 คะแนน จึงมอบประสิทธิภาพที่รวดเร็วทันใจในทุกๆ กระบวนการไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกมที่จะใช้ทรัพยากรมากไปจนถึงการทำงานแบบมัลติทาสก์ได้อย่างราบรื่น
POCO F7 Ultra ยังมาพร้อมชิปกราฟฟิกแบบเฉพาะเป็นครั้งแรกของ POCO ซึ่งก็คือชิปเซ็ต VisionBoost D7 ที่สร้างขึ้นจากกระบวนการ 12 นาโนเมตรขั้นสูงที่จะยกระดับประสิทธิภาพของเอฟเฟกต์ภาพขึ้นไปอีกขั้น ช่วยให้คุณเล่นเกมได้อย่างลื่นไหลเป็นพิเศษถึง 120FPS, ความละเอียด 2K Super Resolution อันคมชัดและ Game HDR สำหรับคอนทราสต์ที่เข้มข้นมากยิ่งขึ้น ในส่วนของวิดีโอตัวอุปกรณ์นั้นใช้เทคโนโลยี Dual-core Visuals4 ที่จะเข้ามาช่วยเพิ่มความละเอียด อัตราเฟรม และคุณภาพ HDR เพื่อให้คุณรับชมความบันเทิงทุกฉากได้อย่างมีชีวิตชีวาด้วยรายละเอียดที่ดีมากขึ้น
ฮาร์ดแวร์อันทรงพลังนี้มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Xiaomi HyperOS 2 ที่ใช้นวัตกรรมหลัก 3 ประการ ได้แก่ HyperCore, HyperConnect และ HyperAI เข้ามาช่วยปรับความลื่นไหลของระบบให้เหมาะสมมากยิ่งขึ้น และยังช่วยให้คุณเชื่อมต่อข้ามแพลตฟอร์มได้อย่างราบรื่น พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพด้วย Google Gemini อีกด้วย
นอกจากนี้การใช้ WildBoost Optimization 4.0 ยังช่วยยกระดับประสบการณ์การเล่นเกมให้ดีมากยิ่งขึ้น ด้วยการประสานงานระหว่างโปรเซสเซอร์ Snapdragon 8(R) Elite และชิปเซ็ต VisionBoost D7 ช่วยให้ผู้ใช้งานเพลิดเพลินไปกับการเล่นเกมที่ลื่นไหลเป็นพิเศษด้วยอัตราเฟรมที่เสถียร การตอบสนองการสัมผัสและแทร็กที่ดีขึ้น ทั้งเสียงในเกมยังแม่นยำมากยิ่งขึ้น แม้กระทั่งเกมที่ต้องการประสิทธิภาพสูงอย่าง Genshin Impact ที่มีความละเอียดสูง 2K Super Resolution และ 120FPS อุปกรณ์นี้ก็ยังคงประสิทธิภาพได้อย่างยอดเยี่ยมตลอดการเล่นเกมหนึ่งชั่วโมง โดยเหนือกว่าการตั้งค่าแบบดั้งเดิมด้วยอัตราเฟรมและคุณภาพของภาพที่สูงกว่าในขณะที่รักษาอุณหภูมิให้ต่ำเอาไว้ได้
POCO F7 Pro ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Snapdragon(R) 8 Gen 3 ซึ่งให้ความสมดุลที่สมบูรณ์แบบระหว่างความเร็วและประสิทธิภาพได้อย่างยอดเยี่ยม พร้อมด้วยระบบปฏิบัติการ Xiaomi HyperOS 2 ที่มอบประสิทธิภาพอันรวดเร็วและลื่นไหลสำหรับแอปพลิเคชันและเกมต่างๆ และยังรองรับ WildBoost Optimization 4.0 ทำให้การเล่นเกมนั้นยิ่งราบรื่นและตอบสนองได้ดีด้วย Smart Frame Rate สูงสุดที่ 120FPS และในเกม Genshin Impact ที่ 90FPS
POCO F7 Series ยังมาพร้อมเทคโนโลยีระบายความร้อน LiquidCool 4.0 ที่มีระบบ IceLoop ช่องคู่ 3 มิติด้วยท่อระบายความร้อนแบบลูปขนาดใหญ่พิเศษขนาด 5,400 มม. ทั้งนี้ระบบระบายความร้อนขั้นสูงนี้ช่วยลดอุณหภูมิของ SoC ได้ถึง 3?C จึงทำให้คุณสามารถเล่นเกม ตัดต่อวิดีโอ และทำงานหลายอย่างพร้อมกันได้นานขึ้นโดยไม่ทำให้ประสิทธิภาพลดลง
พลังงานที่ยาวนานมากยิ่งขึ้นเพื่อการใช้งานอย่างต่อเนื่อง
POCO F7 Ultra มีแบตเตอรี่อันทรงพลัง 5,300mAh (typ) และไฮเปอร์ชาร์จ 120W ที่สามารถชาร์จได้เต็มเร็ว 100% ในเวลาเพียง 34 นาที และไฮเปอร์ชาร์จไร้สาย 50W ที่สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ในขณะที่ POCO F7 Pro ใช้แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 6,000mAh (typ) ด้วยไฮเปอร์ชาร์จ 90W เพื่อมอบประสิทธิภาพการทำงานที่ยาวนาน
นอกเหนือจากความจุแล้ว สมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่นยังมีเทคโนโลยีการชาร์จรุ่นใหม่ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและอายุการใช้งานด้วยชิปเซ็ตชาร์จ POCO Surge P3 และชิปเซ็ตแบตเตอรี่ POCO Surge G1 ที่ทำงานร่วมกันจึงทำให้ความเร็วในการชาร์จและประสิทธิภาพนั้นมีการปรับอย่างเหมาะสม ในขณะที่อายุการใช้งานแบตเตอรี่ก็จะขยายออกไปด้วย และถึงแม้ว่าจะผ่านรอบการชาร์จมาแล้วกว่า 1,600 รอบ แบตเตอรี่ยังสามารถคงไว้ซึ่งความจุที่มากกว่า 80% ของความจุเดิม
เก็บรายละเอียดภาพได้อย่างแม่นยำและสร้างสรรค์ในทุกช็อต
POCO F7 Ultra มีระบบถ่ายภาพที่ล้ำที่สุดของ POCO โดยเลนส์ทั้งสามตัวของ POCO นั้นทำให้ได้กล้องหลัก HDR ที่แข็งแกร่ง รวมไปถึงเลนส์เทเลโฟโต้ลอยตัวระดับเรือธงตัวแรก และกล้องอัลตราไวด์พิกเซลสูงสุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ ซึ่งเลนส์เหล่านี้นั้นครอบคลุมระยะโฟกัสคลาสสิกถึง 8 ระยะ จึงมอบความยืดหยุ่นในการถ่ายภาพทุกช็อตด้วยรายละเอียดอันน่าทึ่ง
ทั้งนี้หัวใจสำคัญของระบบกล้องคือกล้องหลักความละเอียด 50MP ที่ขับเคลื่อนด้วยเซ็นเซอร์รับภาพ Light Fusion 800 ที่ช่วยให้ถ่ายภาพได้สดใสและมีรายละเอียดแม้ในสภาพแสงที่ท้าทาย ด้วยระยะโฟกัส 4 ระยะ ได้แก่ 35 มม. สำหรับการถ่ายภาพแบบแคนดิดในชีวิตประจำวัน 48 มม. สำหรับการถ่ายภาพบุคคลแบบคลาสสิก และเลนส์เทเลโฟโต้แบบลอยตัวที่ช่วยให้คุณสร้างสรรค์ภาพได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพมาโครที่ซับซ้อนในระยะ 10 ซม. เพื่อเผยความงามของรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ไปจนถึงการซูมแบบออปติคอล 2.5 เท่า (60 มม.) สำหรับการถ่ายภาพบุคคลที่สวยงามพร้อมความลึกอันน่าประทับใจ และ in-sensor zoom 5 เท่า (120 มม.) สำหรับฉากหลังที่อยู่ไกลออกไปพร้อมความคมชัดที่สมบูรณ์แบบ และด้วยมุมมองภาพ 120 องศาของกล้องอัลตราไวด์ความละเอียด 32MP ผู้ใช้ก็สามารถถ่ายภาพทิวทัศน์อันกว้างไกลและภาพกลุ่มได้อย่างชัดเจนได้อย่างง่ายดาย
ความสามารถทั้งหมดนี้ได้รับการเสริมประสิทธิภาพด้วยอัลกอริทึมอันล้ำสมัยด้วย POCO AISP ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มระบบการประมวลภาพเทคโนโลยี Computational Photography AI LM ตัวแรกจาก POCO ซึ่งผสานรวมพลังการประมวลผลของ CPU, GPU, NPU และ ISP ผ่านระบบปฏิบัติการ Xiaomi HyperOS การผสานรวมของซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อันราบรื่นนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลภาพ และเมื่อผสานรวมเข้ากับเลนส์เทเลโฟโต้แบบลอยตัว ก็จะให้ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยม ทั้งนี้ฟีเจอร์อย่างเช่น 20X UltraZoom Beta จะทำให้รายละเอียดที่ซับซ้อนนั้นอยู่ในโฟกัส ในขณะที่ UltraSnap นั้นรองรับการการถ่ายที่ภาพต่อเนื่องอย่างรวดเร็วและประมวลผลแต่ละภาพแบบเรียลไทม์ด้วยอัลกอริทึมที่สมบูรณ์แบบเพื่อให้ได้ภาพสูงสุด 150 เฟรมด้วยความคมชัดของภาพที่สม่ำเสมอ
POCO F7 Pro ผสานฮาร์ดแวร์อันทรงพลังเข้ากับการปรับปรุงที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อยกระดับการถ่ายภาพด้วยมือถือในระดับเดียวกัน โดยมาพร้อมกล้องหลักความละเอียด 50MP ที่ขับเคลื่อนด้วยเซนเซอร์รับภาพ Light Fusion 800 ที่ถ่ายภาพได้สดใสและมีรายละเอียดสูง ในขณะที่กล้องอัลตราไวด์ความละเอียด 8MP ช่วยให้คุณสามารถถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ได้กว้างไกลและภาพกลุ่มได้อย่างง่ายดายมากขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้ POCO F7 Pro ยังใช้แพลตฟอร์ม POCO AISP ที่มีฟีเจอร์ UltraSnap รวมไปถึงการถ่ายภาพบุคคลด้วยระยะโฟกัสคู่สำหรับภาพมุมกว้างและภาพคลาสสิกอีกด้วย
สำหรับผู้ที่ต้องการใช้ความสร้างสรรค์ที่มากยิ่งขึ้น สมาร์ทโฟนทั้งรุ่นมาพร้อมฟีเจอร์ เช่น Dynamic Shots ที่ทำให้ภาพนิ่งดูมีชีวิตชีวา รวมไปถึงฟีเจอร์ AI อื่นๆอีกมากมาย ในการรังสรรค์ภาพถ่ายและวิดีโอให้ออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด
จอภาพจรดขอบ (Edge-to-edge Display) พร้อมเทคโนโลยีถนอมสายตา
POCO F7 Ultra และ POCO F7 Pro ถูกออกแบบมาเพื่อประสบการณ์การรับชมที่ดีที่สุด ซึ่งโดดเด่นด้วยขอบจอบางเฉียบและเทคโนโลยีถนอมสายตาที่ล้ำสมัย โดยหน้าจอแสดงผลที่สว่างเป็นพิเศษมาพร้อมความสว่างสูงสุด 3200nits และความสว่าง HBM 1800nits จึงมอบความชัดเจนที่สดใสและเอฟเฟกต์ HDR อันน่าทึ่งแม้ภายใต้แสงแดดจ้า
นอกจากเรื่องของความสว่างแล้ว สมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่นยังให้ความสำคัญกับการดูแลดวงตาของผู้ใช้งานอีกด้วย โดยใช้เทคโนโลยี Circular Polarization ที่แปลงแสงโพลาไรซ์เชิงเส้นของหน้าจอเป็นแสงโพลาไรซ์แบบวงกลม ทำให้หน้าจอเลียนแบบแสงธรรมชาติได้อย่างกลมกลืนเพื่อประสบการณ์การรับชมที่สบายตามากยิ่งขึ้น และควบคู่ไปกับการหรี่แสง PWM ความถี่สูง 3840Hz และการปรับความสว่างอัตโนมัติ 16,000 ระดับ ทำให้หน้าจอปรับเข้ากับสภาพแสงที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างง่ายดาย จึงช่วยให้คุณรู้สึกสบายตา ทั้งยังได้รับการรับรองจาก T?V Rheinland Low Blue Light (โซลูชันฮาร์ดแวร์), T?V Rheinland Flicker Free และ T?V Rheinland Circadian Friendly เพื่อช่วยลดความเมื่อยล้าของดวงตาแม้ในระหว่างการใช้งานเป็นเวลานานอีกด้วย
ทั้งนี้ประสบการณ์การแสดงผลนั้นครอบคลุมไปถึงการตอบสนองการสัมผัสที่ได้รับการปรับปรุงที่ขับเคลื่อนด้วย AI จึงช่วยให้การโต้ตอบนั้นราบรื่นแม้ในขณะที่นิ้วมือของคุณเปียก มีน้ำมัน หรือใส่ถุงมือ และเพื่อความสะดวกที่มากยิ่งขึ้น POCO ยังใช้เซ็นเซอร์ลายนิ้วมือแบบอัลตราโซนิกเป็นครั้งแรกจึงทำให้คุณสามารถปลดล็อกได้ทันทีเพื่อการเข้าถึงที่รวดเร็วและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
การออกแบบระดับพรีเมียมผสานกับความทนทานอันแข็งแกร่ง
POCO F7 Series มอบประสิทธิภาพอันล้ำสมัยและการออกแบบที่สะท้อนถึงแก่นแท้ของความเป็นเรือธงอย่างแท้จริง ด้วยการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างสุนทรียศาสตร์และความทนทานจึงสร้างมาตรฐานใหม่ในด้านงานฝีมือระดับพรีเมียม
POCO F7 Ultra และ POCO F7 Pro โดดเด่นด้วยความประณีตแบบเคลือบเงา-ด้านบนกระจกฝาหลัง ครึ่งบนของฝาหลังเป็นแบบมันวาวในขณะที่ครึ่งล่างนั้นตัดกันด้วยเอฟเฟกต์แบบด้านจึงสร้างความสมดุลที่สะดุดตา POCO F7 Ultra นั้นยกระดับขึ้นไปอีกขั้นด้วยกระจกโค้งสี่เหลี่ยมที่ช่วยเสริมการยึดเกาะตามหลักสรีรศาสตร์ด้วยเส้นโค้งที่เรียบลื่นทำให้จับได้ถนัดมือมากยิ่งขึ้น
POCO F7 Ultra และ POCO F7 Pro มาพร้อมดีไซน์ด้านบนแบบไร้รอยต่อไปกับกรอบโลหะแบบด้านซึ่งนับเป็นการเปิดตัวครั้งแรกบนอุปกรณ์ของ POCO นอกจากนี้ยังมาพร้อมดีไซน์แบบแบ่งส่วนเป็นวงกลมและวงแหวนตกแต่งด้วยอะลูมิเนียมเกรดอากาศยานรอบกล้องที่ช่วยเสริมความสมมาตรพร้อมทั้งยังให้ความรู้สึกถึงความเร็วและพลังอีกด้วย
POCO F7 Series ได้รับการพัฒนามาให้ทนทานต่อทุกการใช้งานในชีวิตประจำวัน โดยสามารถกันน้ำและฝุ่นที่ระดับ IP6815 POCO F7 Ultra นั้นให้การปกป้องที่เหนือกว่าด้วยกระจก POCO Shield Glass เพื่อการป้องกันหน้าจอที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่มีมาบนอุปกรณ์ของ POCO ในการป้องกันการตกหล่นและรอยขีดข่วน ในขณะที่ POCO F7 Pro ได้รับการป้องกันจาก Corning(R) Gorilla(R) Glass 7i ที่มอบความทนทานสูงสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน
ยกระดับประสบการณ์ของผู้ใช้ด้วยการเชื่อมต่อและเสียงที่ดีกว่าที่เคยมีมา
POCO F7 Series ให้คุณสัมผัสกับประสบการณ์และประสิทธิภาพระดับเรือธง POCO F7 Ultra และ POCO F7 Pro ขับเคลื่อนด้วยจูนเนอร์ Surge T1S tuner ซึ่งเป็นชิปเซ็ตเสริมสัญญาณเฉพาะที่ได้รับการปรับปรุงครั้งใหญ่ในด้านการเชื่อมต่อและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของเซลลูล่าร์ที่สูงขึ้นถึง 37% ในความถี่กลางถึงสูง และปรับปรุงประสิทธิภาพของ Wi-Fi และ Bluetooth ให้สูงขึ้น 16% และในด้านของความบันเทิง ตัวอุปกรณ์ก็มีลำโพงสเตอริโอคู่ที่มอบเสียงอันทรงพลังและดื่มด่ำ ในขณะที่ฟีเจอร์อย่าง AI Super Cinema นั้นช่วยปรับปรุงทั้งเสียงและภาพเพื่อเปลี่ยนให้ทุกช่วงเวลากลายเป็นประสบการณ์ราวกับการรับชมภาพยนตร์เลยทีเดียว
การวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย
POCO F7 Ultra มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Black และ Yellow วางจำหน่ายที่ช่องทางการจำหน่ายออนไลน์ mi.com, Lazada, Shopee และ TikTok Shop โดยลูกค้าที่ซื้อสินค้าในระหว่างวันที่ 27 มีนาคม 2568 ถึง 9 เมษายน 2568 สามารถซื้อสินค้าในราคาพิเศษได้ ดังนี้
- รุ่นความจุ 16GB + 512GB ราคาพิเศษ 22,490 บาท (จากราคาปกติ 23,990 บาท)
- รุ่นความจุ 12GB + 256GB ราคาพิเศษ 20,490 บาท (จากราคาปกติ 21,990 บาท)
พิเศษ! เฉพาะลูกค้าที่ซื้อสินค้าบนช่องทาง mi.com รับฟรี Watch 5 Active มูลค่า 1,290 บาท
POCO F7 Pro มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Black, Silver และ Blue วางจำหน่ายที่ช่องทางการจำหน่ายออนไลน์ mi.com, Lazada, Shopee และ TikTok Shop โดยลูกค้าที่ซื้อสินค้าในระหว่างวันที่ 27 มีนาคม 2568 ถึง 9 เมษายน 2568 สามารถซื้อสินค้าในราคาพิเศษได้ ดังนี้
- รุ่นความจุ 12GB + 512GB ราคาพิเศษ 16,490 บาท (จากราคาปกติ 17,990 บาท)
- รุ่นความจุ 12GB + 256GB ราคาพิเศษ 14,490 บาท (จากราคาปกติ 15,990 บาท)
พิเศษ! เฉพาะลูกค้าที่ซื้อสินค้าบนช่องทาง mi.com รับฟรี Smart Band 9 Active มูลค่า 899 บาท
ที่มา: EnityPR