POCO เปิดตัว POCO F7 Series สมาร์ทโฟนทรงพลัง ประสิทธิภาพยอดเยี่ยม พร้อมประกาศราคาจำหน่ายพิเศษในประเทศไทย เริ่มต้นที่ 14,490 บาท

ศุกร์ ๒๘ มีนาคม ๒๕๖๘ ๑๖:๔๐
POCO เปิดตัว POCO F7 Series ซึ่งประกอบไปด้วย POCO F7 Ultra และ POCO F7 Pro สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ทั้งสองรุ่นนั้นถูกออกแบบมาเพื่อความเป็นเลิศรอบด้านและขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีอันล้ำสมัยที่มอบความเร็วและประสิทธิภาพสูงสุดและยังเข้าถึงผู้ใช้งานได้มากขึ้นในราคาที่เป็นมิตร ทั้งนี้ POCO Thailand ยังได้ประกาศราคาจำหน่ายและโปรโมชันพิเศษ สำหรับลูกค้าที่ซื้อสินค้าในระหว่างวันที่ 27 มีนาคม 2568 ถึง 9 เมษายน 2568 โดย POCO F7 Ultra วางจำหน่ายในราคาพิเศษเริ่มต้นเพียง 20,490 บาท (จากราคาปกติ 21,990 บาท) และ POCO F7 Pro วางจำหน่ายในราคาพิเศษเริ่มต้นเพียง 14,490 บาท (จากราคาปกติ 15,990 บาท)
POCO เปิดตัว POCO F7 Series สมาร์ทโฟนทรงพลัง ประสิทธิภาพยอดเยี่ยม พร้อมประกาศราคาจำหน่ายพิเศษในประเทศไทย เริ่มต้นที่ 14,490 บาท

มร.แองกัส หัวหน้าฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ของ POCO Global กล่าวว่า "นับเป็นครั้งแรกของ POCO ที่ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่น Ultra ซึ่งจะช่วยยกระดับพลังและประสิทธิภาพขึ้นไปอีกขั้น ด้วยการผสานฟีเจอร์ระดับเรือธงเข้ากับราคาที่เข้าถึงได้ทำให้การเปิดตัวของ POCO F7 Ultra และ POCO F7 Pro ถือเป็นก้าวสำคัญที่สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ POCO ที่ต้องการยกระดับประสบการณ์ของผู้ใช้งานอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเพิ่มศักยภาพของตนในการทำงาน การเล่น และความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างเต็มที่อีกด้วย"

พลังและประสิทธิภาพเป็นสองเท่า

POCO F7 Ultra ขับเคลื่อนด้วยโปรเซสเซอร์ Snapdragon(R) 8 Elite ซึ่งเป็นชิปเซ็ตเรือธงที่ล้ำหน้าที่สุดของ Qualcomm สร้างด้วยเทคโนโลยีการผลิต 3 นาโนเมตรขั้นสูงของ TSMC ซึ่งชิปเซ็ตนี้เพิ่มประสิทธิภาพของ CPU ให้สูงขึ้นถึง 45% และเพิ่มประสิทธิภาพของ GPU 44% พร้อมทั้งลดการใช้พลังงานได้มากถึง 52% สำหรับ CPU และ 46% สำหรับ GPU POCO F7 Ultra สามารถทำคะแนน AnTuTu ได้สูงถึง 2,843,461 คะแนน จึงมอบประสิทธิภาพที่รวดเร็วทันใจในทุกๆ กระบวนการไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกมที่จะใช้ทรัพยากรมากไปจนถึงการทำงานแบบมัลติทาสก์ได้อย่างราบรื่น

POCO F7 Ultra ยังมาพร้อมชิปกราฟฟิกแบบเฉพาะเป็นครั้งแรกของ POCO ซึ่งก็คือชิปเซ็ต VisionBoost D7 ที่สร้างขึ้นจากกระบวนการ 12 นาโนเมตรขั้นสูงที่จะยกระดับประสิทธิภาพของเอฟเฟกต์ภาพขึ้นไปอีกขั้น ช่วยให้คุณเล่นเกมได้อย่างลื่นไหลเป็นพิเศษถึง 120FPS, ความละเอียด 2K Super Resolution อันคมชัดและ Game HDR สำหรับคอนทราสต์ที่เข้มข้นมากยิ่งขึ้น ในส่วนของวิดีโอตัวอุปกรณ์นั้นใช้เทคโนโลยี Dual-core Visuals4 ที่จะเข้ามาช่วยเพิ่มความละเอียด อัตราเฟรม และคุณภาพ HDR เพื่อให้คุณรับชมความบันเทิงทุกฉากได้อย่างมีชีวิตชีวาด้วยรายละเอียดที่ดีมากขึ้น

ฮาร์ดแวร์อันทรงพลังนี้มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Xiaomi HyperOS 2 ที่ใช้นวัตกรรมหลัก 3 ประการ ได้แก่ HyperCore, HyperConnect และ HyperAI เข้ามาช่วยปรับความลื่นไหลของระบบให้เหมาะสมมากยิ่งขึ้น และยังช่วยให้คุณเชื่อมต่อข้ามแพลตฟอร์มได้อย่างราบรื่น พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพด้วย Google Gemini อีกด้วย

นอกจากนี้การใช้ WildBoost Optimization 4.0 ยังช่วยยกระดับประสบการณ์การเล่นเกมให้ดีมากยิ่งขึ้น ด้วยการประสานงานระหว่างโปรเซสเซอร์ Snapdragon 8(R) Elite และชิปเซ็ต VisionBoost D7 ช่วยให้ผู้ใช้งานเพลิดเพลินไปกับการเล่นเกมที่ลื่นไหลเป็นพิเศษด้วยอัตราเฟรมที่เสถียร การตอบสนองการสัมผัสและแทร็กที่ดีขึ้น ทั้งเสียงในเกมยังแม่นยำมากยิ่งขึ้น แม้กระทั่งเกมที่ต้องการประสิทธิภาพสูงอย่าง Genshin Impact ที่มีความละเอียดสูง 2K Super Resolution และ 120FPS อุปกรณ์นี้ก็ยังคงประสิทธิภาพได้อย่างยอดเยี่ยมตลอดการเล่นเกมหนึ่งชั่วโมง โดยเหนือกว่าการตั้งค่าแบบดั้งเดิมด้วยอัตราเฟรมและคุณภาพของภาพที่สูงกว่าในขณะที่รักษาอุณหภูมิให้ต่ำเอาไว้ได้

POCO F7 Pro ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Snapdragon(R) 8 Gen 3 ซึ่งให้ความสมดุลที่สมบูรณ์แบบระหว่างความเร็วและประสิทธิภาพได้อย่างยอดเยี่ยม พร้อมด้วยระบบปฏิบัติการ Xiaomi HyperOS 2 ที่มอบประสิทธิภาพอันรวดเร็วและลื่นไหลสำหรับแอปพลิเคชันและเกมต่างๆ และยังรองรับ WildBoost Optimization 4.0 ทำให้การเล่นเกมนั้นยิ่งราบรื่นและตอบสนองได้ดีด้วย Smart Frame Rate สูงสุดที่ 120FPS และในเกม Genshin Impact ที่ 90FPS

POCO F7 Series ยังมาพร้อมเทคโนโลยีระบายความร้อน LiquidCool 4.0 ที่มีระบบ IceLoop ช่องคู่ 3 มิติด้วยท่อระบายความร้อนแบบลูปขนาดใหญ่พิเศษขนาด 5,400 มม. ทั้งนี้ระบบระบายความร้อนขั้นสูงนี้ช่วยลดอุณหภูมิของ SoC ได้ถึง 3?C จึงทำให้คุณสามารถเล่นเกม ตัดต่อวิดีโอ และทำงานหลายอย่างพร้อมกันได้นานขึ้นโดยไม่ทำให้ประสิทธิภาพลดลง

พลังงานที่ยาวนานมากยิ่งขึ้นเพื่อการใช้งานอย่างต่อเนื่อง

POCO F7 Ultra มีแบตเตอรี่อันทรงพลัง 5,300mAh (typ) และไฮเปอร์ชาร์จ 120W ที่สามารถชาร์จได้เต็มเร็ว 100% ในเวลาเพียง 34 นาที และไฮเปอร์ชาร์จไร้สาย 50W ที่สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ในขณะที่ POCO F7 Pro ใช้แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 6,000mAh (typ) ด้วยไฮเปอร์ชาร์จ 90W เพื่อมอบประสิทธิภาพการทำงานที่ยาวนาน

นอกเหนือจากความจุแล้ว สมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่นยังมีเทคโนโลยีการชาร์จรุ่นใหม่ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและอายุการใช้งานด้วยชิปเซ็ตชาร์จ POCO Surge P3 และชิปเซ็ตแบตเตอรี่ POCO Surge G1 ที่ทำงานร่วมกันจึงทำให้ความเร็วในการชาร์จและประสิทธิภาพนั้นมีการปรับอย่างเหมาะสม ในขณะที่อายุการใช้งานแบตเตอรี่ก็จะขยายออกไปด้วย และถึงแม้ว่าจะผ่านรอบการชาร์จมาแล้วกว่า 1,600 รอบ แบตเตอรี่ยังสามารถคงไว้ซึ่งความจุที่มากกว่า 80% ของความจุเดิม

เก็บรายละเอียดภาพได้อย่างแม่นยำและสร้างสรรค์ในทุกช็อต

POCO F7 Ultra มีระบบถ่ายภาพที่ล้ำที่สุดของ POCO โดยเลนส์ทั้งสามตัวของ POCO นั้นทำให้ได้กล้องหลัก HDR ที่แข็งแกร่ง รวมไปถึงเลนส์เทเลโฟโต้ลอยตัวระดับเรือธงตัวแรก และกล้องอัลตราไวด์พิกเซลสูงสุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ ซึ่งเลนส์เหล่านี้นั้นครอบคลุมระยะโฟกัสคลาสสิกถึง 8 ระยะ จึงมอบความยืดหยุ่นในการถ่ายภาพทุกช็อตด้วยรายละเอียดอันน่าทึ่ง

ทั้งนี้หัวใจสำคัญของระบบกล้องคือกล้องหลักความละเอียด 50MP ที่ขับเคลื่อนด้วยเซ็นเซอร์รับภาพ Light Fusion 800 ที่ช่วยให้ถ่ายภาพได้สดใสและมีรายละเอียดแม้ในสภาพแสงที่ท้าทาย ด้วยระยะโฟกัส 4 ระยะ ได้แก่ 35 มม. สำหรับการถ่ายภาพแบบแคนดิดในชีวิตประจำวัน 48 มม. สำหรับการถ่ายภาพบุคคลแบบคลาสสิก และเลนส์เทเลโฟโต้แบบลอยตัวที่ช่วยให้คุณสร้างสรรค์ภาพได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพมาโครที่ซับซ้อนในระยะ 10 ซม. เพื่อเผยความงามของรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ไปจนถึงการซูมแบบออปติคอล 2.5 เท่า (60 มม.) สำหรับการถ่ายภาพบุคคลที่สวยงามพร้อมความลึกอันน่าประทับใจ และ in-sensor zoom 5 เท่า (120 มม.) สำหรับฉากหลังที่อยู่ไกลออกไปพร้อมความคมชัดที่สมบูรณ์แบบ และด้วยมุมมองภาพ 120 องศาของกล้องอัลตราไวด์ความละเอียด 32MP ผู้ใช้ก็สามารถถ่ายภาพทิวทัศน์อันกว้างไกลและภาพกลุ่มได้อย่างชัดเจนได้อย่างง่ายดาย

ความสามารถทั้งหมดนี้ได้รับการเสริมประสิทธิภาพด้วยอัลกอริทึมอันล้ำสมัยด้วย POCO AISP ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มระบบการประมวลภาพเทคโนโลยี Computational Photography AI LM ตัวแรกจาก POCO ซึ่งผสานรวมพลังการประมวลผลของ CPU, GPU, NPU และ ISP ผ่านระบบปฏิบัติการ Xiaomi HyperOS การผสานรวมของซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อันราบรื่นนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลภาพ และเมื่อผสานรวมเข้ากับเลนส์เทเลโฟโต้แบบลอยตัว ก็จะให้ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยม ทั้งนี้ฟีเจอร์อย่างเช่น 20X UltraZoom Beta จะทำให้รายละเอียดที่ซับซ้อนนั้นอยู่ในโฟกัส ในขณะที่ UltraSnap นั้นรองรับการการถ่ายที่ภาพต่อเนื่องอย่างรวดเร็วและประมวลผลแต่ละภาพแบบเรียลไทม์ด้วยอัลกอริทึมที่สมบูรณ์แบบเพื่อให้ได้ภาพสูงสุด 150 เฟรมด้วยความคมชัดของภาพที่สม่ำเสมอ

POCO F7 Pro ผสานฮาร์ดแวร์อันทรงพลังเข้ากับการปรับปรุงที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อยกระดับการถ่ายภาพด้วยมือถือในระดับเดียวกัน โดยมาพร้อมกล้องหลักความละเอียด 50MP ที่ขับเคลื่อนด้วยเซนเซอร์รับภาพ Light Fusion 800 ที่ถ่ายภาพได้สดใสและมีรายละเอียดสูง ในขณะที่กล้องอัลตราไวด์ความละเอียด 8MP ช่วยให้คุณสามารถถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ได้กว้างไกลและภาพกลุ่มได้อย่างง่ายดายมากขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้ POCO F7 Pro ยังใช้แพลตฟอร์ม POCO AISP ที่มีฟีเจอร์ UltraSnap รวมไปถึงการถ่ายภาพบุคคลด้วยระยะโฟกัสคู่สำหรับภาพมุมกว้างและภาพคลาสสิกอีกด้วย

สำหรับผู้ที่ต้องการใช้ความสร้างสรรค์ที่มากยิ่งขึ้น สมาร์ทโฟนทั้งรุ่นมาพร้อมฟีเจอร์ เช่น Dynamic Shots ที่ทำให้ภาพนิ่งดูมีชีวิตชีวา รวมไปถึงฟีเจอร์ AI อื่นๆอีกมากมาย ในการรังสรรค์ภาพถ่ายและวิดีโอให้ออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด

จอภาพจรดขอบ (Edge-to-edge Display) พร้อมเทคโนโลยีถนอมสายตา

POCO F7 Ultra และ POCO F7 Pro ถูกออกแบบมาเพื่อประสบการณ์การรับชมที่ดีที่สุด ซึ่งโดดเด่นด้วยขอบจอบางเฉียบและเทคโนโลยีถนอมสายตาที่ล้ำสมัย โดยหน้าจอแสดงผลที่สว่างเป็นพิเศษมาพร้อมความสว่างสูงสุด 3200nits และความสว่าง HBM 1800nits จึงมอบความชัดเจนที่สดใสและเอฟเฟกต์ HDR อันน่าทึ่งแม้ภายใต้แสงแดดจ้า

นอกจากเรื่องของความสว่างแล้ว สมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่นยังให้ความสำคัญกับการดูแลดวงตาของผู้ใช้งานอีกด้วย โดยใช้เทคโนโลยี Circular Polarization ที่แปลงแสงโพลาไรซ์เชิงเส้นของหน้าจอเป็นแสงโพลาไรซ์แบบวงกลม ทำให้หน้าจอเลียนแบบแสงธรรมชาติได้อย่างกลมกลืนเพื่อประสบการณ์การรับชมที่สบายตามากยิ่งขึ้น และควบคู่ไปกับการหรี่แสง PWM ความถี่สูง 3840Hz และการปรับความสว่างอัตโนมัติ 16,000 ระดับ ทำให้หน้าจอปรับเข้ากับสภาพแสงที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างง่ายดาย จึงช่วยให้คุณรู้สึกสบายตา ทั้งยังได้รับการรับรองจาก T?V Rheinland Low Blue Light (โซลูชันฮาร์ดแวร์), T?V Rheinland Flicker Free และ T?V Rheinland Circadian Friendly เพื่อช่วยลดความเมื่อยล้าของดวงตาแม้ในระหว่างการใช้งานเป็นเวลานานอีกด้วย

ทั้งนี้ประสบการณ์การแสดงผลนั้นครอบคลุมไปถึงการตอบสนองการสัมผัสที่ได้รับการปรับปรุงที่ขับเคลื่อนด้วย AI จึงช่วยให้การโต้ตอบนั้นราบรื่นแม้ในขณะที่นิ้วมือของคุณเปียก มีน้ำมัน หรือใส่ถุงมือ และเพื่อความสะดวกที่มากยิ่งขึ้น POCO ยังใช้เซ็นเซอร์ลายนิ้วมือแบบอัลตราโซนิกเป็นครั้งแรกจึงทำให้คุณสามารถปลดล็อกได้ทันทีเพื่อการเข้าถึงที่รวดเร็วและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

การออกแบบระดับพรีเมียมผสานกับความทนทานอันแข็งแกร่ง

POCO F7 Series มอบประสิทธิภาพอันล้ำสมัยและการออกแบบที่สะท้อนถึงแก่นแท้ของความเป็นเรือธงอย่างแท้จริง ด้วยการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างสุนทรียศาสตร์และความทนทานจึงสร้างมาตรฐานใหม่ในด้านงานฝีมือระดับพรีเมียม

POCO F7 Ultra และ POCO F7 Pro โดดเด่นด้วยความประณีตแบบเคลือบเงา-ด้านบนกระจกฝาหลัง ครึ่งบนของฝาหลังเป็นแบบมันวาวในขณะที่ครึ่งล่างนั้นตัดกันด้วยเอฟเฟกต์แบบด้านจึงสร้างความสมดุลที่สะดุดตา POCO F7 Ultra นั้นยกระดับขึ้นไปอีกขั้นด้วยกระจกโค้งสี่เหลี่ยมที่ช่วยเสริมการยึดเกาะตามหลักสรีรศาสตร์ด้วยเส้นโค้งที่เรียบลื่นทำให้จับได้ถนัดมือมากยิ่งขึ้น

POCO F7 Ultra และ POCO F7 Pro มาพร้อมดีไซน์ด้านบนแบบไร้รอยต่อไปกับกรอบโลหะแบบด้านซึ่งนับเป็นการเปิดตัวครั้งแรกบนอุปกรณ์ของ POCO นอกจากนี้ยังมาพร้อมดีไซน์แบบแบ่งส่วนเป็นวงกลมและวงแหวนตกแต่งด้วยอะลูมิเนียมเกรดอากาศยานรอบกล้องที่ช่วยเสริมความสมมาตรพร้อมทั้งยังให้ความรู้สึกถึงความเร็วและพลังอีกด้วย

POCO F7 Series ได้รับการพัฒนามาให้ทนทานต่อทุกการใช้งานในชีวิตประจำวัน โดยสามารถกันน้ำและฝุ่นที่ระดับ IP6815 POCO F7 Ultra นั้นให้การปกป้องที่เหนือกว่าด้วยกระจก POCO Shield Glass เพื่อการป้องกันหน้าจอที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่มีมาบนอุปกรณ์ของ POCO ในการป้องกันการตกหล่นและรอยขีดข่วน ในขณะที่ POCO F7 Pro ได้รับการป้องกันจาก Corning(R) Gorilla(R) Glass 7i ที่มอบความทนทานสูงสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน

ยกระดับประสบการณ์ของผู้ใช้ด้วยการเชื่อมต่อและเสียงที่ดีกว่าที่เคยมีมา

POCO F7 Series ให้คุณสัมผัสกับประสบการณ์และประสิทธิภาพระดับเรือธง POCO F7 Ultra และ POCO F7 Pro ขับเคลื่อนด้วยจูนเนอร์ Surge T1S tuner ซึ่งเป็นชิปเซ็ตเสริมสัญญาณเฉพาะที่ได้รับการปรับปรุงครั้งใหญ่ในด้านการเชื่อมต่อและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของเซลลูล่าร์ที่สูงขึ้นถึง 37% ในความถี่กลางถึงสูง และปรับปรุงประสิทธิภาพของ Wi-Fi และ Bluetooth ให้สูงขึ้น 16% และในด้านของความบันเทิง ตัวอุปกรณ์ก็มีลำโพงสเตอริโอคู่ที่มอบเสียงอันทรงพลังและดื่มด่ำ ในขณะที่ฟีเจอร์อย่าง AI Super Cinema นั้นช่วยปรับปรุงทั้งเสียงและภาพเพื่อเปลี่ยนให้ทุกช่วงเวลากลายเป็นประสบการณ์ราวกับการรับชมภาพยนตร์เลยทีเดียว

การวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย

POCO F7 Ultra มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Black และ Yellow วางจำหน่ายที่ช่องทางการจำหน่ายออนไลน์ mi.com, Lazada, Shopee และ TikTok Shop โดยลูกค้าที่ซื้อสินค้าในระหว่างวันที่ 27 มีนาคม 2568 ถึง 9 เมษายน 2568 สามารถซื้อสินค้าในราคาพิเศษได้ ดังนี้

  • รุ่นความจุ 16GB + 512GB ราคาพิเศษ 22,490 บาท (จากราคาปกติ 23,990 บาท)
  • รุ่นความจุ 12GB + 256GB ราคาพิเศษ 20,490 บาท (จากราคาปกติ 21,990 บาท)

พิเศษ! เฉพาะลูกค้าที่ซื้อสินค้าบนช่องทาง mi.com รับฟรี Watch 5 Active มูลค่า 1,290 บาท

POCO F7 Pro มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Black, Silver และ Blue วางจำหน่ายที่ช่องทางการจำหน่ายออนไลน์ mi.com, Lazada, Shopee และ TikTok Shop โดยลูกค้าที่ซื้อสินค้าในระหว่างวันที่ 27 มีนาคม 2568 ถึง 9 เมษายน 2568 สามารถซื้อสินค้าในราคาพิเศษได้ ดังนี้

  • รุ่นความจุ 12GB + 512GB ราคาพิเศษ 16,490 บาท (จากราคาปกติ 17,990 บาท)
  • รุ่นความจุ 12GB + 256GB ราคาพิเศษ 14,490 บาท (จากราคาปกติ 15,990 บาท)

พิเศษ! เฉพาะลูกค้าที่ซื้อสินค้าบนช่องทาง mi.com รับฟรี Smart Band 9 Active มูลค่า 899 บาท

ที่มา: EnityPR

POCO เปิดตัว POCO F7 Series สมาร์ทโฟนทรงพลัง ประสิทธิภาพยอดเยี่ยม พร้อมประกาศราคาจำหน่ายพิเศษในประเทศไทย เริ่มต้นที่ 14,490 บาท

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๑:๐๐ ซีพีเอฟ โดย JerHigh พร้อมเคียงข้าง ชุดปฏิบัติการสุนัข K9 ฮีโร่ 4 ขา ในภารกิจค้นหาผู้รอดชีวิต จากเหตุแผ่นดินไหว
๑๑:๐๗ วว. พัฒนานวัตกรรมการนึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพผลิตข้าวฮางงอก ลดมลพิษทางอากาศ สร้างรายได้ให้ชุมชน
๑๐:๒๖ IN-SURE อินทรประกันภัย เคียงข้างคนไทยในทุกสถานการณ์
๑๐:๓๘ Zoom เปิดตัว AI Companion ยกระดับการทำงานร่วมกัน ด้วยเทคโนโลยีเอเจนต์ AI ทรงพลัง
๑๐:๑๘ แอดไวซ์ส่งมอบโอกาสในการเรียนรู้ผ่านแคมเปญ Advice Pay IT Forward จับมือมูลนิธิกระจกเงาบริจาคอุปกรณ์ไอทีมูลค่ากว่า 200,000 บาท ณ โรงเรียนวัดช้าง
๑๐:๓๗ ม.วลัยลักษณ์ พร้อมเป็นเจ้าภาพแข่งขัน ชีววิทยาโอลิมปิกระดับชาติ ครั้งที่ 22 4-8 เม.ยนี้
๑๐:๐๗ AIT จับมือ กรมประมง วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำควบคู่กับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
๑๐:๐๘ TP Logistic (TPL) ยกระดับมาตรฐานโลจิสติกส์ คว้ารางวัล Q Mark ประจำปี 2568 ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านการขนส่งคุณภาพสู่มาตรฐานสากล
๑๐:๒๗ GUNKUL ยืนยัน โรงไฟฟ้าทุกโรง ปลอดภัยจากเหตุแผ่นดินไหว จ่ายไฟได้ปกติ ไม่มีผลกระทบ
๑๐:๕๘ ททท. ร่วมกับซินแสเป็นหนึ่ง เปิดตัวโครงการ สุขทันทีที่เดินทาง Grand MooMent Journey ร่วมรับความมั่งมีกลับบ้าน