โดยบริษัทที่ก่อตั้งขึ้นใหม่นี้ มีจุดแข็งจากเครือข่ายธุรกิจค้าปลีกที่หลากหลายของกลุ่มเจมาร์ทมาผนวกกับเทคโนโลยีอินชัวร์เทคของบริษัทอิกลูเพื่อให้บริการประกันภัยดิจิทัลแบบครบวงจร โดยบริษัทนี้จะใช้ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านดิจิทัลมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่น แตกต่าง สามารถเชื่อมโยงสินค้าและบริการที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวันของผู้บริโภคและสอดคล้องกับความต้องการของธุรกิจไทยและผู้ใช้งานชาวไทยโดยเฉพาะ
ผสมผสานความเชี่ยวชาญด้านเครือข่ายธุรกิจค้าปลีกที่หลากหลาย
ปัจจุบันกลุ่มเจมาร์ทเป็นกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ให้บริการธุรกิจหลากหลายกับผู้บริโภคภายในประเทศกว่า 10 ล้านคน ครอบคลุมทั้งธุรกิจการจัดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ธุรกิจบริหารจัดการและการติดตามหนี้ ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ธุรกิจบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงธุรกิจประกันภัย
บริษัทร่วมทุนนี้จะมีบทบาทสำคัญเชิงกลยุทธ์ในการเร่งกระบวนการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลของกลุ่มเจมาร์ท โดยจะบูรณาการเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ากับธุรกิจต่างๆ ของกลุ่มผ่านการให้บริการการประกันภัยแบบเชื่อมโยงกับสินค้าและบริการที่เข้าถึงไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวันของผู้บริโภค (embedded insurance) รวมถึงบริการประกันภัยที่สามารถส่งมอบประสบการณ์ที่ดี สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค
นายเอกชัย สุขุมวิทยา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทเจมาร์ท กล่าวว่า "เจมาร์ทมีเป้าหมายในการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าด้วยการใช้เทคโนโลยีชั้นนำ ภายใต้ความร่วมมือกับบริษัทอิกลู ผู้นำด้านอินชัวเทคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะทำให้กลุ่มเจมาร์ทสามารถนำเสนอบริการประกันภัยที่เข้าถึงไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวันของผู้บริโภคผ่านสินค้าและบริการของบริษัทในกลุ่ม ตั้งแต่การผนวกรวมบริการประกันภัย เข้ากับบริการสินเชื่อเพื่อเป็นเจ้าของโทรศัพท์มือถือและผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์อื่นๆ ควบคู่กับการผลักดันอุตสาหกรรมประกันภัยของไทยให้ก้าวสู่กระบวนการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล"
ผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมเพื่อการประกันภัย
บริษัทอิกลู หนึ่งในผู้ให้บริการเทคโนโลยีประกันภัยที่ได้รับรางวัลในระดับภูมิภาค ได้นำเทคโนโลยีอินชัวร์เทคมาพัฒนาบริษัทร่วมทุนแห่งนี้ ทั้งในด้านการให้บริการการประกันภัยแบบเชื่อมโยงกับสินค้าและบริการที่เข้าถึงไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวันของผู้บริโภค และการนำเสนอกรมธรรม์ผ่านตัวแทนและโบรกเกอร์ ด้วยเทคโนโลยีประกันภัยและความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านของอิกลู ปัจจุบันบริษัทได้นำเสนอกรมธรรม์ประกันภัยกับผู้บริโภคแล้วมากกว่า 650 ล้านฉบับผ่านพันธมิตร 75 รายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
อิกลูทำงานร่วมกับพันธมิตรชั้นนำในกลุ่มธุรกิจต่างๆ ในภูมิภาค เช่น อีคอมเมิร์ซ ฟินเทค ธนาคาร โลจิสติกส์ และธุรกิจค้าปลีก เช่น ช็อปปี้ ลาซาด้า โทโคพีเดีย ดานา จีแคช เซอเคิลเค และ โมบิโฟน โดยอิกลูใช้จุดเด่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยสำหรับรายย่อยที่มาพร้อมกับสินค้าและบริการ ผ่านทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ นอกจากนี้อิกลู ยังได้พัฒนานวัตกรรมประกันภัยรูปแบบใหม่ที่ได้รับรางวัลระดับภูมิภาค เช่น ประกันภัยสำหรับผู้เล่นเกม (Gamer's Insurance) ประกันภัยสำหรับการรับประทานอาหารอย่างปลอดภัย (Safe Dining insurance) และประกันภัยดัชนีสภาพอากาศ (Weather Index Insurance) อีกด้วย
นายราวนาค เมห์ตา ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งอิกลู (Igloo) กล่าวว่า การร่วมทุนในครั้งนี้นับเป็นความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของทั้งสองบริษัท ด้วยความเป็นผู้นำในเทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญในผลิตภัณฑ์ประกันภัย บริษัทอิกลูจะมีบทบาทสำคัญในการผลักดันการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลให้กับกลุ่มเจมาร์ทผ่านการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยี AI มาใช้ในการบริหารจัดการระบบอัตโนมัติ การเพิ่มประสิทธิภาพและการบริหารจัดการความเสี่ยงของธุรกิจ
"การร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นต้นแบบให้กลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีการดำเนินธุรกิจหลากหลายได้สัมผัสกับ การเชื่อมโยงสินค้าและบริการเข้ากับชีวิตประจำวันและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคผ่านการให้บริการประกันภัยที่มาพร้อมกับสินค้า เพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภคยุคใหม่" นายราวนาค กล่าว
ผู้ให้บริการประกันภัยดิจิทัลรายแรกของไทย
ข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) และ BlueWeave consulting บริษัทวิจัยด้านการตลาดระบุว่า ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา การประกันภัยผ่านช่องทางดิจิทัลมีอัตราการเติบโตที่สูงกว่าการประกันภัยทั่วไป 2-3 เท่า สะท้อนให้เห็นถึงความสนใจในการซื้อประกันภัยผ่านออนไลน์ที่เพิ่มขึ้นและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป โดยที่ผ่านมาการเติบโตของการทำประกันภัยดิจิทัล มาจากการปรับตัวของบริษัทประกันภัยที่เพิ่มช่องทางขายผ่านดิจิทัลมากขึ้น และการเข้ามาของบริษัทอินชัวเทคชั้นนำอย่างบริษัทอิกลู ที่ก้าวข้ามข้อจำกัดของการประกันภัยในรูปแบบเดิม
ความร่วมมือระหว่างบริษัทอิกลูและ เจเอ็มที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส ครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการวางรากฐานการบริการประกันภัยผ่านช่องทางดิจิทัล โดยมุ่งเน้นที่ความสะดวกสบายของผู้บริโภค การขยายการบริการได้อย่างง่ายดาย และการออกแบบกรมธรรม์สำหรับผู้บริโภคยุคใหม่แล้ว ยังเป็นการส่งเสริมการเติบโตของประกันภัยดิจิทัล ให้ผู้บริโภคได้เข้าถึงบริการทางการเงินอีกด้วย
ที่มา: PRecious Communications