บริษัท เอ็นแอล ดีเวลลอปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ NL ได้ผ่านการรับรองระบบมาตรฐานด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม "ISO 14001:2015" และระบบมาตรฐานด้านการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย "ISO 45001:2018" สะท้อนมาตรฐานองค์กรชั้นนำของ NL ที่ให้ความสำคัญต่อการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างมีความรับผิดชอบ รวมถึงการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย บริหารความเสี่ยงตลอดทั้งกระบวนการทำงานรองรับการจัดการการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศและสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งเป็นไปตามระบบมาตรฐาน ISO ตอกย้ำการเป็นผู้ประกอบการงานก่อสร้างมืออาชีพที่พร้อมจะพัฒนาองค์กรตลอดเวลา และยกระดับการขับเคลื่อนองค์กรเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน
นายศรันย์ โรจน์เลิศจรรยา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็นแอล ดีเวลลอปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ NL เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ผ่านการรับรองระบบมาตรฐานด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม "ISO 14001:2015" และระบบมาตรฐานด้านการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย "ISO 45001:2018" จากบริษัท บีเอสไอ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสถาบันมาตรฐานอังกฤษ (British Standards Institution หรือ BSI) โดยมีผลรับรองตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม 2568 ที่ผ่านมา
โดยการได้รับการรับรองระบบมาตรฐาน ISO 14001 แสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญขององค์กรต่อการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างมีความรับผิดชอบด้วยการดำเนินงานที่คำนึงถึงวิธีการเพื่อลดผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อม ชุมชนและสังคม การลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตลอดจนการรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศหรือสถานการณ์ฉุกเฉิน ในส่วนของระบบมาตรฐาน ISO 45001 นั้นแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความรับผิดชอบขององค์กรต่ออาชีวอนามัยและความปลอดภัยในทุกกระบวนการในงานก่อสร้างหรือสภาพการทำงานที่เหมาะสม ตลอดจนคำนึงถึงสุขภาพ คุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานรวมถึงผู้ที่ทำงานภายใต้การควบคุมขององค์กร
ทั้งนี้บริษัทฯ ได้รับการรับรองระบบมาตรฐานการจัดการคุณภาพ ISO 9001 ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555 มาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน และเมื่อผ่านการรับรองระบบมาตรฐานเพิ่มเติมอีก 2 ระบบในครั้งนี้ จึงเป็นการ บูรณาการกระบวนการบริหารจัดการขององค์กรให้ครอบคลุมระบบมาตรฐานทั้ง 3 ระบบทั้งในด้านคุณภาพ สิ่งแวดล้อม อาชีวอนามัยและความปลอดภัย สะท้อนให้เห็นได้จากความเชื่อมั่นของผู้ว่าจ้างทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่มีต่อความแข็งแรงปลอดภัยของอาคารที่สร้างแล้วเสร็จ หรืออาคารที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ตอกย้ำความเป็นผู้ประกอบการงานก่อสร้างมืออาชีพที่พร้อมจะพัฒนาองค์กรตลอดเวลาและยกระดับการขับเคลื่อนองค์กรเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนตามกรอบแนวทาง ESG สร้างความเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจที่จะสามารถส่งมอบงานก่อสร้างอาคารที่มีคุณภาพและความปลอดภัยสูงสุด ตอบสนองต่อความพึงพอใจของลูกค้า ผู้ถือหุ้น พนักงาน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน ด้วยระบบการบริหารจัดการคุณภาพ ระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม ระบบการจัดการ อาชีวอนามัยและความปลอดภัยในระดับมาตรฐานสากล
ที่มา: IR PLUS