นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มุ่งขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ไทย เพื่อเป็นแม่เหล็กดึงดูดคนทั่วโลกให้เข้ามาท่องเที่ยวและใช้ชีวิตในเมืองไทย ซึ่งเป็นนโยบายเรือธงสำคัญ (Flagship Policy) ที่มีเป้าหมายผลักดันโครงการและแผนงานด้านต่าง ๆ ตามยุทธศาสตร์การพัฒนาซอฟพาวเวอร์ของไทยและหนึ่งในนั้น คือ สาขาอุตสาหกรรมแฟชั่น ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศทั้งในด้านมูลค่าและการจ้างงาน โดยปี 2564 สามารถสร้างรายได้ราว 3.9 แสนล้านบาท การส่งออกสินค้าแฟชั่นมีมูลค่ากว่า 2.2 แสนล้านบาท และเกิดการจ้างงานราว 8 แสนคน
กระทรวงอุตสาหกรรม ภายใต้การนำของ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ได้ตระหนักและให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนซอฟพาวเวอร์ไทย สาขาแฟชั่น ประกอบกับนโยบายปฏิรูปอุตสาหกรรมสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ ทันสมัย สะอาด สะดวก โปร่งใส ที่มุ่งเสริมแกร่งห่วงโซ่อุปทาน สร้างอุตสาหกรรมเศรษฐกิจใหม่ พัฒนาทักษะบุคลากร รวมถึงสร้างความเท่าเทียมให้เอสเอ็มอีไทย ให้สามารถนำนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ในกระบวนการผลิต ออกแบบผสมผสานความร่วมสมัย คงอัตลักษณ์ความเป็นไทยรักษาไว้ซึ่งภูมิปัญญา และความเป็นไทยให้ก้าวสู่ Soft Power ในระดับสากล จึงสั่งการให้ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมหรือดีพร้อม (DIPROM) เร่งดำเนินการตามยุทธศาสตร์การพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์ไทย สาขาอุตสาหกรรมแฟชั่นให้เกิดเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น
นางสาวณัฏฐิญา กล่าวต่อว่า ดีพร้อม ได้ขานรับนโยบายดังกล่าว เร่งเดินหน้าผลักดันดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์ไทย ผ่านการดำเนินงานการพัฒนาและบ่มเพาะผู้เริ่มต้นทำธุรกิจแฟชั่น "Soft Power Startup : Ignite the Future of Fashion" ภายใต้ โครงการพัฒนาและเชื่อมโยงเครือข่ายบุคลากรอุตสาหกรรมแฟชั่น (Fashion Alliance) โดยมุ่งพัฒนาและยกระดับศักยภาพผู้เริ่มต้นทำธุรกิจด้านแฟชั่น (Startup) จำนวน 4 สาขา ได้แก่ สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม (Apparel) ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและความงาม (Beauty) หัตถอุตสาหกรรมไทย (Craft) และอัญมณีและเครื่องประดับ (Jewelry) เพื่อพัฒนาและสร้างทักษะ (Up-Re Skill) ที่จำเป็นในการเริ่มต้นประกอบธุรกิจแฟชั่น การบริหารจัดการ การเขียนและวางแผนธุรกิจการสร้างโมเดลธุรกิจ รวมถึงการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ด้วยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ในการออกแบบและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ตลอดจนการเชื่อมโยงเครือข่ายและสามารถสร้างโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนสำหรับจัดตั้งและยกระดับธุรกิจแฟชั่น ซึ่งสอดรับกับนโยบาย "ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้"ที่มุ่งผลักดันให้ดีพร้อมเข้าสู่องค์กรทันสมัย เฟ้นหาฮีโร่ผู้นำธุรกิจไทย พัฒนาอุตสาหกรรมใหม่ในพื้นที่ และส่งเสริมให้อุตสาหกรรมดีอยู่คู่ชุมชน รวมถึงยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการในทุก ๆ ด้านอย่างตรงจุดเพื่อเตรียมรับมือกับบริบทและกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่
โดยผู้ผ่านการคัดเลือกจะเข้าสู่กระบวนการบ่มเพาะทักษะทางธุรกิจและการตลาดอย่างเข้มข้น จำนวน 16 หลักสูตร ระยะเวลา 9 วัน พร้อมทั้งเชื่อมโยงเครือข่ายกับผู้สร้างสรรค์คอนเทนท์ (Content Creator) เพื่อปั้นเทรนด์คอนเทนต์อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ให้สามารถตอบโจทย์และเข้าถึงช่องทางการตลาดใหม่เพื่อขยายฐานลูกค้า นอกจากนี้ ยังมีการให้คำปรึกษาแนะนำเชิงลึก จำนวน 5 Man - Day โดยที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ (Mentor) ที่จะช่วยเสริมทักษะที่จำเป็น ก่อนนำเสนอโมเดลธุรกิจต่อแหล่งทุนในกิจกรรม Pitching Day
สำหรับงานเปิดตัวกิจกรรมในวันนี้ จัดให้มีกิจกรรม Inspiration Talk ในหัวข้อ "From Startup to stand out: Scaling your brand in a competitive world" โดย คุณวนิดา ประภารัตน์ Founder & Brand Director Hamburger Studio และการเสวนาเรื่อง "โอกาสและความท้าทาย Fashion Business สู่ตลาดโลก" โดยมีผู้ประกอบการแฟชั่นชั้นนำของไทย อาทิ คุณศิรดา โกศัยภัทร์ เจ้าของแบรนด์ WORADA คุณเฉลิมเกียรติคติเกษมเลิศ เจ้าของแบรนด์ Wonder Anatomie คุณวิลาสินี ชูรัตน์ เจ้าของแบรนด์ MUNIE และคุณณัฏฐิรา ปกรณ์แก้ว เจ้าของแบรนด์ Give A Wish Jewelry มาร่วมถ่ายทอดและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในแวดวงธุรกิจแฟชั่น ให้กับสตาร์ทอัพที่เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว ทั้งนี้ ดีพร้อม เชื่อมั่นว่ากิจกรรมการพัฒนาและบ่มเพาะผู้เริ่มต้นทำธุรกิจแฟชั่น "Soft Power Startup : Ignite the Future of Fashion" จะสามารถยกระดับผู้ประกอบการสตาร์ทอัพด้านแฟชั่นที่มีขีดความสามารถในการแข่งขันทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงนำองค์ความรู้ ทักษะ และประสบการณ์ที่ได้รับไปต่อยอดการดำเนินธุรกิจ สร้างเครือข่าย และเสริมสร้างอุตสาหกรรมแฟชั่นไทยให้ก้าวไกลได้อย่างยั่งยืน อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับผู้ประกอบที่สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการเพื่อสนับสนุนการจัดตั้งธุรกิจ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กองส่งเสริมผู้ประกอบการและธุรกิจใหม่ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม โทรศัพท์ 0 2430 6873 ต่อ 1625 หรือติดตามความเคลื่อนไหวและข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่ www.diprom.go.th และ www.facebook.com/dipromindustry
ที่มา: CHOM PR