จีเอสเค จับมือ มูลนิธิที่อยู่อาศัยฯ เติมรักด้วยการสร้างบ้านให้ผู้ขัดสน รวมพลังจับมือภาครัฐและชาวชุมชน “ก่ออิฐ ถือปูน”

กรุงเทพฯ--26 ก.พ.--กู๊ด มอร์นิ่ง มันเดย์
“ทุกวันนี้คำว่า “น้ำใจ” ได้ค่อย ๆ เลือนหาย อย่างเรื่องปลูกข้าวลงแขกหาไม่มีแล้ว เหลือแค่ลงขันอย่างเดียว ขอบคุณ มูลนิธิฯ และขอบคุณ จีเอสเค ที่มาช่วยปลุกกระแสให้พี่น้องสันทรายตื่นตัวเรื่องการทำงานเพื่อส่วนรวม”
เมื่อเร็ว ๆ นี้ บริษัท แกล็กโซสมิทไคล์น (ประเทศไทย) จำกัด หรือ จีเอสเค ได้เข้าร่วมกับมูลนิธิที่อยู่อาศัยเพื่อมนุษยชาติ (ประเทศไทย) หรือ Habitat for Humanity (Thailand) จัดโครงการ “จีเอสเค เติมน้ำใจให้บ้านสันคะยอม” นำทีมพนักงานอาสาสมัครเพื่อสังคม ของ จีเอสเค กว่า 40 ชีวิต ซึ่งประกอบด้วย แพทย์ เภสัชกร และเจ้าหน้าที่จากแผนกต่าง ๆ ร่วมเป็นอาสาสมัคร พร้อมกับชาวบ้านหมู่บ้านสันคะยอม อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อสร้างบ้านให้กับชาวบ้านผู้ขัดสน นอกจากนี้ยังได้สมทบเงินทุนจำนวน 1,000,000 บาท มอบให้กับมูลนิธิที่อยู่อาศัยฯ เพื่อนำไปใช้ในการซื้อวัสดุก่อสร้างที่จำเป็นต่อการสร้างบ้านให้กับชาวบ้านผู้ขัดสน
โครงการ “จีเอสเค เติมน้ำใจให้บ้านสันคะยอม” นี้ เกิดจากความร่วมมือของ จีเอสเค และมูลนิธิที่อยู่อาศัยฯ ร่วมกับปลัดอำเภอสันทราย จ.เชียงใหม่ และชาวหมู่บ้านสันคะยอม จากการที่มีชาวบ้านสันคะยอมหลายครัวเรือนขัดสนเรื่องที่พักอาศัย อาทิ บ้านเก่าใกล้จะพัง เพราะสร้างมากว่า 30 ปีแล้ว บางบ้านเริ่มโยกไหวเวลาลมพัดแรง หรือ ครอบครัวที่ต้องอยู่แออัดมากกว่า 10 คนในบ้านหลังเล็ก ๆ เป็นต้น จึงทำให้เกิดการรวมพลังกันเพื่อสร้างบ้านหลังใหม่ให้กับผู้ขาดแคลน
นางกรองทอง ไมตรีเวช ผู้อำนวยการฝ่ายอำนวยการ บริษัท แกล็กโซสมิทไคล์น (ประเทศไทย) จำกัด หรือ จีเอสเค กล่าวว่า “เรามีโครงการต่าง ๆ เพื่อช่วยพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชนให้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโครงการทุนการศึกษาพยาบาลเพื่อชุมชน โครงการฟื้นฟูและพัฒนาชุมชนในพื้นที่ประสบภัยสึนามิ และ โครงการ “จีเอสเค เติมน้ำใจให้บ้านสันคะยอม” นี้ นับเป็นโครงการใหม่ที่เราได้มีส่วนร่วมกับมูลนิธิที่อยู่อาศัยเพื่อมนุษยชาติ (ประเทศไทย) โครงการนี้เกิดจากความร่วมแรงร่วมใจขององค์กร 4 ภาคได้แก่ ภาครัฐ องค์กรพัฒนาเอกชน ภาคเอกชนอย่างจีเอสเค และกลุ่มชุมชนชาวบ้าน ที่มาร่วมกันช่วยเหลือแก้ไขปัญหาการขาดแคลนที่อยู่อาศัย”
“...บ้านถือเป็นรากฐานของการสร้างครอบครัวที่อบอุ่นและมั่นคง ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อเยาวชนและสังคมให้เกิดความเข้มแข็ง ซึ่งมีผลต่อการพัฒนาประเทศไทยของเราต่อไป จีเอสเค เปิดโอกาสให้พนักงานได้เข้ามีส่วนร่วมด้วยการลงแรงและกำลังช่วยกันขนทราย ก่ออิฐ ถือปูนสร้างบ้านกับคนในชุมชน ซึ่งไม่เพียงทำให้เกิดความภาคภูมิใจที่ได้มีส่วนช่วยเหลือสังคมเท่านั้น แต่ยังสร้างความรู้สึกที่ดีและผูกพันระหว่างกันให้เกิดขึ้นในสังคมอีกด้วย” นางกรองทองกล่าวเพิ่มเติม
“ชาวบ้านปลื้ม จีเอสเค ...คนใจดี - ทิ้งโต๊ะทำงานในเมืองกรุง มุ่งช่วยชุมชนสร้างบ้าน”
กิจกรรมการสร้างบ้านเริ่มขึ้นในตอนเช้าตรู่ โดยทีมอาสาสมัครจากจีเอสเค ซึ่งมีทั้งผู้บริหารระดับสูง แพทย์ เภสัชกร และเจ้าหน้าที่บริษัทฯ ได้เดินทางมาถึงยังหมู่บ้านสันคะยอมท่ามกลางการต้อนรับของชาวบ้าน รวมทั้งปลัดอำเภอสันทราย และเทศบาลตำบลสันทรายน้อย โดยมีการระดมพลังกันในหมู่บ้านเพื่อมาช่วยสร้างบ้านใหม่ให้กับเพื่อนบ้าน
นางบุษบา ยศ อาชีพรับจ้าง อายุ 37 ปี ผู้ได้รับบ้านใหม่จากโครงการ “จีเอสเค เติมน้ำใจให้บ้านสันคะยอม” เล่าว่า “เดิมทีอาศัยอยู่กับพ่อกับแม่ แต่พอแต่งงานจึงได้แยกออกมา อาศัยหาไม้เก่า ๆ ที่มีอยู่สร้างบ้านขึ้นมาแบบพออยู่ได้ แต่ตอนนี้ปลวกเริ่มกินเสาจนบ้านใกล้จะพัง อยากจะสร้างใหม่ก็ยังไม่มีเงิน เพราะลูกต้องเรียนทั้งสองคน ต้องส่งลูกสาวไปอยู่บ้านญาติอีกหลังหนึ่งเพราะไม่มีที่นอน”
“ ดีใจมากเมื่อทราบว่าครอบครัวได้รับความช่วยเหลือเรื่องบ้าน ต้องขอบคุณอาสาสมัครจีเอสเคคนใจดีมาก ๆ ที่เดินทางไกลมาช่วยเหลือครอบครัวถึงที่จังหวัดเชียงใหม่ รู้สึกซาบซึ้งถึงความมีน้ำใจ ดีใจที่จะได้มีบ้านที่แข็งแรง มั่นคงปลอดภัยให้ครอบครัวได้อยู่ด้วยกันพร้อมหน้า ขอบคุณค่ะ” นางบุษบา กล่าว
ส่วนป้าอุไร คำฟู อาชีพ แม่บ้านโรงแรม อีกหนึ่งผู้ได้รับบ้านใหม่ เปิดใจว่า “บ้านหลังเก่าป้าอยู่มาตั้งแต่อายุ 14 ตอนนี้ 53 แล้ว มันก็ไม่ค่อยดีแล้วเวลาลมพัดมามันก็ไหว ๆ ป้าเป็นคนกลัวลมด้วย อยากอยู่บ้านต่ำ ดีใจที่มีคนเข้ามาช่วยทำให้ฝันของป้าเป็นจริง แม่ของป้าที่ตอนนี้อายุ 78 ปี จะได้มาอยู่บ้านหลังเดียวกัน เพราะตอนนี้อายุมากแล้วต้องอยู่บ้านต่ำหลังเล็กเพราะขึ้นบ้านไม่ไหวจะได้ดูแลกันได้สะดวกขึ้นและไม่ค่อยสบายด้วย”
“ บ้านถือว่าเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ ที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับมนุษย์ทุกคน และมีผลกระทบต่อการดำเนินชีวิต ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิตของผู้อาศัยอย่างมาก ถือเป็นความเอื้อเฟื้ออย่างยิ่งของจีเอสเค และเป็นบุญกุศลอันยิ่งใหญ่ของทุกคนที่ได้มาร่วมแรงร่วมใจกันสร้างบ้านให้กับผู้ขัดสน ประเทศของเรายังมีผู้ด้อยโอกาสอีกมาก ครอบครัวหนึ่งบ้านอยู่กัน 10 คน ทั้งปู่ย่าตายาย พ่อแม่ ลูกเขย ลูกสะใภ้ หลาน เป็นสภาพแออัดที่สร้างปัญหาขึ้น เพราะแต่ละคนขาดพื้นที่ ขาดความเป็นส่วนตัว ทำให้เกิดการทะเลาะบาดหมางกัน แต่เมื่อมีบ้านที่เหมาะกับครอบครัว ก็จะเกิดการสร้างครอบครัวคุณภาพขึ้นได้ เราพบว่าความสัมพันธ์ของญาติพี่น้องเริ่มดีขึ้น เด็ก ๆ เริ่มเรียนดีขึ้น ทุกคนรู้สึกดีเพราะมีพื้นที่ซึ่งไม่แออัด เมื่อครอบครัวดี ก็จะส่งผลให้สังคมดีตามไปด้วยในที่สุด” นางพนิดา ปัญญางาม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มูลนิธิที่อยู่อาศัยเพื่อมนุษยชาติ (ประเทศไทย) กล่าว
องค์กรเอกชนต่าง ๆ ก็สามารถร่วมช่วยเหลือได้ด้วยการสนับสนุนเงินเข้ากองทุนหมุนเวียน “กองทุนสร้างบ้านเพื่อที่อยู่อาศัย” เพื่อใช้ในการสร้างบ้านให้ผู้ขัดสน โดยเงินบริจาคส่วนนี้ ทางมูลนิธิที่อยู่อาศัยฯ จะนำไปสร้างบ้านหลังใหม่ให้กับชาวบ้านต่อไป โดยมีหลักเกณฑ์ให้ชาวบ้านผ่อนชำระคืนขั้นต่ำเป็นรายเดือน ทั้งยังไม่มีดอกเบี้ย ซึ่งหลักเกณฑ์นี้ ทางมูลนิธิฯ จะได้นำเงินที่ผ่อนชำระไปเป็นทุนหมุนเวียนสร้างบ้านให้ครอบครัวอื่น ๆ ที่ขัดสนต่อไป
มูลนิธิที่อยู่อาศัยเพื่อมนุษยชาติ (ประเทศไทย) ดำเนินการพัฒนาและร่วมแก้ไขปัญหาด้านที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ขัดสนโดยไม่แสวงหาผลกำไร ด้วยการสร้างบ้านที่เรียบง่ายเหมาะสมต่ออัตภาพของเจ้าของบ้าน โดยทุนส่วนหนึ่งได้รับการช่วยเหลือจากองค์กรเอกชน อาทิ จีเอสเค มอบให้มูลนิธินำไปบริหารจัดการสร้างบ้านให้กับผู้ประสบปัญหาด้านที่อยู่อาศัย โดยผู้ที่ประสงค์เข้าร่วมโครงการสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ มูลนิธิที่อยู่อาศัยเพื่อมนุษยชาติ (ประเทศไทย) โทร. 02-711-6942 หรือดูรายละเอียดได้ที่ www.habitatthailand.org
โครงการ “จีเอสเค เติมน้ำใจให้บ้านสันคะยอม” น่าจะเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของ “ความรักดี ๆ” ที่เอื้อเฟื้อต่อกันของคนในสังคม....
สื่อมวลชนต้องการข้อมูล กรุณาติดต่อ
ภรณ์ธณัฐ สถิรกุล หรือ เขมิกา ปุ่นสุวรรณ
ที่ปรึกษาด้านการประชาสัมพันธ์
บริษัท กู๊ด มอร์นิ่ง มันเดย์ จำกัด
โทร. 02-953-9624-25 แฟกซ์ 02-953-9265
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net