ปภ. เตือนเกษตรกรระวังภัยที่มากับความแห้งแล้ง

พฤหัส ๑๗ พฤษภาคม ๒๐๐๗ ๑๕:๔๔
กรุงเทพฯ--17 พ.ค.--ปภ.
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) คาดการณ์แนวโน้มสถานการณ์ความแห้งแล้งของประเทศไทยในปีนี้จะขยายวงกว้าง รุนแรงและยาวนานต่อเนื่องกว่าทุกปี จึงขอให้เกษตรกรวางแผนการปลูกพืชที่ทนต่อความแห้งแล้ง พร้อมดูแลรักษาอย่าให้ไร่นาเกิดไฟไหม้ เกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อนจากการขาดแคลนน้ำ สามารถติดต่อได้ที่ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจฯ ทั้งในส่วนกลาง และภูมิภาคทุกแห่งทั่วประเทศ
นายสาโรช คัชมาตย์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า จากสถานการณ์เมื่อปี 2546 มีสภาวะฝนตกน้อย ทำให้ปริมาณน้ำต้นทุนของอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่มีปริมาณน้อยกว่าปีที่ผ่านมา ในขณะที่ความต้องการใช้น้ำมีปริมาณสูงขึ้น ส่งผลให้ในบางพื้นที่เกิดสภาวะการขาดแคลนน้ำอุปโภค บริโภค และน้ำเพื่อการเกษตร ซึ่งจากการ คาดการณ์แนวโน้มสถานการณ์ความแห้งแล้ง พบว่า ในปี 2547 นี้ จะมีจังหวัดที่ประสบภัยแล้ง จำนวน 68 จังหวัด ใน 608 อำเภอ/กิ่งอำเภอ 3,491 ตำบล 19,497 หมู่บ้าน ประชาชนจะได้รับผลกระทบต่อการขาดแคลนน้ำ จำนวน 2,086,301 ครัวเรือน 10,252,689 คน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่การเกษตรจะได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันความเสียหายจากการขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตร จึงขอให้เกษตรกรวางแผนการปลูกพืช ให้สอดคล้องเหมาะสมกับสภาพพื้นที่และสภาพภูมิอากาศที่แห้งแล้ง โดยลดการปลูกพืชที่จำเป็นต้องใช้น้ำมากในช่วงฤดูแล้ง เช่น ข้าวนาปรัง ควรเลือกปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อยหรือพืชชนิดอื่นทดแทน ซึ่งอาจเป็นพืชที่ทนต่อความแห้งแล้ง หรือพืชล้มลุกที่ให้ผลเร็ว และใช้น้ำน้อย เช่น ข้าวโพด ข้าวฟ่าง และถั่วต่างๆ เป็นต้น พร้อมช่วยกันประหยัดน้ำสำหรับการเกษตร โดยใช้วิธีปลูกพืชคลุมดิน การใช้วัสดุคลุมดิน การใส่ปุ๋ยหมัก หรือวัสดุที่ช่วยอุ้มน้ำในดิน เพื่อรักษาความชุ่มชื้นในดิน และสงวนน้ำในดินให้มากและนานที่สุด หรือใช้วิธีปลูกพืชบังลม เพื่อลดอัตราการคายน้ำ การระเหยของน้ำจากดินและพืชโดยการใช้ระบบน้ำหยด
นอกจากนี้ ในช่วงฤดูแล้งมักเกิดการระบาดของแมลงศัตรูพืช และโรคที่เกิดกับพืชบางชนิด เกษตรกรจึงควรระมัดระวังและเตรียมสารเคมีปราบศัตรูพืชสำรองไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้งด้วย ตลอดจนช่วยกันดูแลรักษาเรือกสวนไร่นา อย่าให้เกิดไฟไหม้ขึ้น เพราะในช่วงที่เกิดความแห้งแล้ง จะมีหญ้าแห้ง และเศษพืชแห้งมาก ซึ่งอาจก่อให้เกิดไฟไหม้ได้ง่ายขึ้น ในช่วงดังกล่าวจึงควรงดเว้นการเผาหญ้า เศษพืชแห้ง เพราะจะทำให้ดินสูญเสียความชุ่มชื้น และอินทรีย์วัตถุที่เป็นประโยชน์ต่อพืช ทำให้แมลงที่เป็นประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมตายไปด้วย และไฟอาจจะลุกลามออกไป ทำให้เกิดเขม่าควันละออง ขี้เถ้าฟุ้งกระจายบดบังทัศนวิสัยในการขับรถ ก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้มากขึ้น หากเกษตรกรรายใด ได้รับความเดือดร้อนจากการขาดแคลนน้ำ สามารถประสานขอความช่วยเหลือได้ที่ ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจฯ ป้องกันและแก้ไขปัญหาความแห้งแล้ง ส่วนกลาง ติดต่อได้ที่ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ระดับจังหวัด ติดต่อได้ที่ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดทุกจังหวัด และในระดับอำเภอให้ติดต่อที่ศูนย์เฉพาะกิจฯ ของอำเภอ/ กิ่งอำเภอที่กองอำนวยการป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนอำเภอ หรือ สายด่วน 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้หน่วยงานในพื้นที่เข้าช่วยเหลือโดยรวดเร็วต่อไป

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๔๑ กลุ่มดุสิตธานี เปิดศักราชใหม่เสริมความแข็งแกร่งในฟิลิปปินส์ ลงนามบริหาร 2 โรงแรมใหม่ในเมืองมินดาเนา ภายใต้แบรนด์
๑๗:๐๐ คาเนโบสานต่อเจตนารมณ์ต้นแบบจากญี่ปุ่น จัดงาน KANEBO PAINT HOPE ON SPACE 2025 ครั้งแรกในไทย ให้ศิลปินตัวน้อยได้สร้างสรรค์ผลงานชิ้นเอกอย่างอิสระ
๑๔ ม.ค. 'เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย' ลุยต่อยอดคอนโดแบรนด์ KLOS บุกทำเลรามอินทรา
๑๔ ม.ค. บางกอก แอสเซท อินเตอร์กรุ๊ป BKA โชว์วิสัยทัศน์ หนึ่งในผู้นำธุรกิจบ้านมือสองตกแต่งใหม่ ชั้นนำของประเทศ
๑๔ ม.ค. ทีทีบี สำรองเงินสดในช่วงเทศกาลตรุษจีนผ่านสาขาและเอทีเอ็มทั่วประเทศ
๑๔ ม.ค. KP EV Store ศูนย์รวมอุปกรณ์รถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์คนไทย มาตรฐานเดียวกับอุตสาหกรรมยานยนต์ ออกแบบทันสมัยตอบโจทย์เทรนด์ของลูกค้ายุคปัจจุบัน
๑๔ ม.ค. Solis เปิดตัว Solarator Series ในประเทศไทย มุ่งเป้าสู่พลังงานที่ยั่งยืนและเสถียร
๑๔ ม.ค. โรงพยาบาลหัวเฉียว จัดโครงการธรรมโอสถ บรรยายธรรมะเรื่อง ธรรมะคือพรวิเศษ เป็นเหตุให้เกิดความสุข
๑๔ ม.ค. Traveloka Travel Fair มอบส่วนลดสูงสุด 85,000 บาท ชวนคนไทยวางแผนทริปวันหยุดปี 2568
๑๔ ม.ค. แอลจี จับมือ สถาปัตย์ฯ ลาดกระบัง พิสูจน์ประสิทธิภาพ LG Multi V i โซลูชันปรับอากาศอัจฉริยะในอาคาร ช่วยประหยัดพลังงานได้ถึง 15.5% ภายใน 3