กรุงเทพฯ--17 ม.ค.--แกรมมี่เทเลวิชั่น
“แท่ง”เหงื่อตก รับภารกิจควงสากตำน้ำพริกครั้งแรก ร่วมกับรุ่นน้องวัดราชาฯ เดินเร่ขาย หาทุนเข้าหมวดกิจกรรมฯ
ติดตามชมในรายการ “รถโรงเรียน” อาทิตย์ที่ 21 ม.ค.นี้
“เรียนเด่น เล่นดี มีวินัย ใฝ่คุณธรรม” คือคำขวัญประจำ “โรงเรียนวัดราชาธิวาส” อดีตโรงเรียนมัธยมของพระเอกชื่อดัง “แท่ง-ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง” ว่าแล้ว รายการ “รถโรงเรียน” วันอาทิตย์ที่ 21 ม.ค. นี้ 3 พิธีกร “เจ-เจตริน วรรธนะสิน, บอล- วิทวัส สิงห์ลำพอง และหมอโอ๊ค-นพ.สมิทธิ์ อารยะสกุล” เลยขอพาแฟนๆ รายการย้อนกลับไปดูวัยเรียนของ “แท่ง” ที่ใครจะคิดว่าจากอดีตเด็กหลังห้องที่ไม่มีอะไรโดดเด่น วันนี้กลายมาเป็นพระเอกและนักร้องชื่อดังขวัญใจสาวๆ ทั้งประเทศ
โดย“แท่ง” ตื่นแต่เช้ามืด รีบออกจากบ้านเพื่อมาถึง “โรงเรียนวัดราชาธิวาส” ให้ทันเวลา 8 โมงตรง เพื่อเข้าแถวเคารพธงชาติ สวดมนต์ ร้องเพลงประจำโรงเรียน และนั่งสมาธิ พร้อมกับน้องๆ ในโรงเรียนกว่า 1 พันชีวิต จากนั้น “แท่ง” ก็พาทัวร์โรงเรียนไปดูสนามบาสและสนามฟุตบอลที่เคยตั้งแก๊งค์เล่นกับเพื่อนๆ ทุกวัน ไปดูท่าน้ำและหอพระที่เคยหลบมานั่งพักผ่อนหย่อนใจหลังเลิกเรียน ก่อนที่ “แท่ง” จะถูก “เจ” เอาใบรับรองผลการเรียนที่ติดศูนย์หลายวิชาออกมาแฉ ซึ่งหลังจากพูดคุยกันพอหอมปากหอมคอแล้ว “แท่ง” ไปกราบสวัสดีอาจารย์ที่เคยสอน ซึ่งภาพความรักความผูกพันธ์ระหว่างอาจารย์และศิษย์ก็สร้างความประทับใจให้กับทั้ง “เจ” และ “บอล” ไม่น้อย
และก็เป็นธรรมเนียมของรายการ “รถโรงเรียน” ที่ศิษย์เก่าจะต้องปฏิบัติภารกิจ 1 อย่างร่วมกับรุ่นน้อง และครั้งนี้เพื่อความพิเศษสุดๆ “แท่ง” ต้องลงมือ “ตำน้ำพริกกะปิกุ้งสด” เหตุผลที่ต้องตำน้ำพริกก็เพราะ กิจกรรมที่โดดเด่นอีกอย่างของนักเรียนที่นี่คือเรื่องคหกรรม โดยเฉพาะสูตรน้ำพริกกะปิกุ้งสดที่ไปประกวดที่ไหนก็คว้ารางวัลกลับมาทุกครั้ง “แท่ง” ถึงกับทำหน้าเหวอเพราะไม่เคยทำ มาก่อนในชีวิต รีบหาตัวช่วยเป็นน้องๆ ในโรงเรียนอีก 10 ชีวิตทันที โดยกติกามีอยู่ว่า “แท่ง” และน้องๆ ต้องตำน้ำพริก 100 กระปุกให้เสร็จและไปขายให้หมดภายในเวลา 2 ชั่วโมง ซึ่งถ้าทำสำเร็จจะได้รับเงินรางวัล 2 หมื่นบาท เพื่อนำไปใช้ในหมวดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนของโรงเรียน ได้ยินอย่างนั้น “แท่ง” รีบแบ่งหน้าที่และลงมือทำทันที โดยกลุ่มแรกช่วยกันตำกับ “แท่ง” กลุ่มที่สองบรรจุน้ำพริกลงกระปุกแถมติดฉลากบนกระปุกเป็นรูปหน้า “แท่ง” เขียนยี่ห้อน้ำพริกว่า “น้ำพริกศักดิ์สิทธิ์” โดยมี
น้องๆ ในโรงเรียนมาช่วยกันเชียร์เสียงดังสนั่น ทำให้ “แท่ง” มีกำลังใจขึ้นมาอีกเพียบและใช้เวลาไปเพียง 35 นาทีเท่านั้นก็ตำเสร็จเรียบร้อย “แท่ง” ตั้งราคาไว้กระปุกละ 20 บาท ซึ่งหมายความว่าต้องขายให้ได้เงินมากกว่า 2 พันบาท และระหว่างที่ขายก็ห้าม ลด แลก แจก แถม เด็ดขาด จากนั้นก็ถึงเวลาเอาน้ำพริกไปขาย ทั้งหมดรีบตั้งแถวเดินขบวนออกไปขายทันที ทำเอาผู้คนแตกตื่นนึกว่า “แท่ง” เปลี่ยนอาชีพมาเป็นพ่อค้าขายน้ำพริก แต่พอรู้ว่า “แท่ง” มาหาทุนเพื่อช่วยสนับสนุนด้านการศึกษากับน้องๆ ในโรงเรียน ก็รีบกรูกันเข้ามาช่วยซื้อคนละกระปุก 2 กระปุก บางคนใจป้ำนอกจากจะซื้อรวดเดียว 5 กระปุกแล้วยังช่วยบริจาคเงินเพิ่มอีกต่างหา เวลาผ่านไปแค่ชั่วโมงเดียว น้ำพริกก็ขายหมดเกลี้ยงแถมยังได้เงินทะลุเป้าที่กำหนดอีกด้วย งานนี้ใครที่ซื้อไปรับรองว่าเป็นน้ำพริกที่พิเศษจริงๆ เพราะไม่ว่าจะเป็น น้องคนนั้น หรือน้องคนไหน ของพี่แท่ง ก็ไม่เคยได้ชิมมาก่อนแน่นอน
ซึ่ง “แท่ง” เล่าความรู้สึกหลังจากขายน้ำพริกกะปิฝีมือตัวเองจนหมดเกลี้ยงว่า “เป็นการตำน้ำพริกครั้งแรกในชีวิตเลยครับ เป็นสิ่งที่ประทับใจครั้งหนึ่งในชีวิตลูกผู้ชายอย่างผมเลย ซึ่งตอนแรกที่รู้ว่าต้องตำน้ำพริกก็เครียดเลย กลัวทำไม่ได้แต่ดีที่น้องๆ ทุกคนช่วยกัน ไม่น่าเชื่อว่าแค่ครึ่งชั่วโมงก็เสร็จ ทีนี้พอถึงตอนขายผมก็กังวลอีกว่าจะขายได้ทันเวลาที่กำหนดรึเปล่าแต่สุดท้ายก็หมดเกลี้ยงภายในพริบตาครับ ขอบคุณพี่ป้าอาทุกคนที่ช่วยอุดหนุนครับ สนุกมากไม่เหนื่อยเลย โดยส่วนตัวผมกลับมาเยี่ยมโรงเรียนทุกปีอยู่แล้ว มาเล่นคอนเสิร์ตบ้างมาช่วยงานโรงเรียนบ้างแล้วแต่โอกาส กลับมาโรงเรียนที่ไรก็รู้สึกเหมือนเป็นถิ่นของเรา อย่างครั้งนี้ได้มาเคารพธงชาติ ร้องเพลงโรงเรียน สวดมนต์ ผมรู้สึกตื้นตันใจมาก ต้องขอบคุณรายการรถโรงเรียนที่มอบประสบการณ์ดีๆ ให้นะครับ เป็นรายการที่ดีมากเลยเพราะการพาศิษย์เก่ากลับมาเยี่ยมโรงเรียนก็เหมือนกับเป็นตัวอย่างที่ดีให้เห็นว่าทุกคนสามารถประสบความสำเร็จในชีวิตได้ แล้วก็ขอบคุณน้องๆ ทุกคนที่ร่วมแรงร่วมใจกันทำให้ภารกิจสำเร็จ และสำคัญที่สุดขอบคุณอาจารย์ทุกท่านที่ทำให้มีศักดิ์สิทธิ์ แท่งทองในวันนี้ครับ”
ร่วมกันลุ้นกับภารกิจตำน้ำพริกกะปิกุ้งสดของ “แท่ง-ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง” และน้องๆ จาก “โรงเรียนวัดราชาธิวาส” กันได้ในช่วง “สามัคคีชุมนุม” ส่วนในช่วง “ห้องพยาบาล” “หมอโอ๊ค” จะมาแนะนำน้องๆ เกี่ยวกับ “ความสูง” แต่เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ทั้งหมดติดตามขมได้ในรายการ “รถโรงเรียน” วันอาทิตย์ที่ 21 มกราคม 50 เวลา 13.00-14.00 น. ทางช่อง 5
ประชาสัมพันธ์โทรทัศน์ 0-2669-8326-9
เบญจมา (ปุ๋ย) 0-1735-0340, อาภากร (นุ้ย) 0-1636-0962,
อรอุมา (จอย) 0-1987-8923, วรรณฉัตร (หมวย) 0-6604-9749,
หทัยรัตน์ (บี๋บี) 0-1807-4740, เทพเทพิน (กิ๊ก) 0-6397-1358
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net