กรุงเทพฯ--26 มิ.ย.--ดราก้อน วัน
บมจ. ดราก้อน วัน หรือ ดีวัน เปิดการซื้อขายหลักทรัพย์ D1 ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เป็นวันแรก จเรรัฐประกาศเดินหน้าขยายฐานการร่วมลงทุนในธุรกิจที่มีอัตราการเติบโตสูงต่อไปตามแนวทางการลงทุนของบริษัทฯ ลั่นพร้อมพิสูจน์ศักยภาพของทุกบริษัทลูก
จเรรัฐ ปิงคลาศัย กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท ดราก้อน วัน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เมื่อ ดราก้อน วัน ทำการปรับเปลี่ยนตัวเองให้เป็นโฮลดิ้งโดยการดำเนินธุรกิจลงทุนในบริษัทแกนที่มีการเติบโตสูงอย่างต่อเนื่อง คือ บริษัท แอพพลิเคชั่น โฮสติ้ง เซอร์วิส จำกัด และขยายธุรกิจลงทุนในอีก 3 บริษัทที่มีศักยภาพในการเติบโต คือ บริษัท ไชโย โปรดักชั่นส์ จำกัด บริษัท วันเน็ต จำกัด และบริษัท บริทไบค์ จำกัด โดยมีที่ปรึกษาทางการเงิน คือบริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ซึ่งเข้าใจในแผนธุรกิจแบบโฮลดิ้งที่ชัดเจนของเรามาโดยตลอด และในเมื่อเรามีคุณสมบัติครบถ้วนเข้าเกณฑ์การรับหลักทรัพย์ตามที่ตลาดฯ กำหนดแล้ว ก็ถึงเวลาที่เราพร้อมซื้อขายหลักทรัพย์ D1 ในตลาด mai”
“ผมชื่นชมในความเข้าใจและความเป็นคนรุ่นใหม่ของผู้บริหาร mai ซึ่งมีความสอดคล้องกับแนวทางการบริหารธุรกิจในสไตล์ของผม ที่เน้นความรวดเร็ว ประสานประโยชน์ สร้างสรรค์ มีความหลากหลาย และไม่หยุดนิ่งอยู่กับที่ นอกจากนี้ mai ยังมีนโยบายและแผนงานที่ชัดเจนในการสนับสนุนบริษัทจดทะเบียนที่เป็นสมาชิก อาทิ การนำคณะผู้ลงทุนไปเยี่ยมชมกิจการของบริษัทและพาบริษัทไปโรดโชว์ การสนับสนุนบทวิเคราะห์ให้แก่บริษัทสมาชิกโดยทีมนักวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์ การทำกิจกรรมประชาสัมพันธ์เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ให้กับสมาชิกอย่างต่อเนื่อง และที่มากยิ่งไปกว่านั้น ผมมองว่าการนำ D1 เข้าซื้อขายในตลาด mai มันเป็นสีสัน ทำให้หุ้น D1 มีโอกาสติดท็อปเท็นของตลาด mai อันนี้ผมถือว่าได้เลือกสิ่งที่เหมาะสมและเป็นประโยชน์สูงสุดให้แก่บริษัทฯ เพื่อการเติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว”
จเรรัฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า “วันนี้ ดราก้อน วัน ผ่านช่วงเวลาของการปรับปรุงโครงสร้างและสามารถผลักดันธุรกิจแนวใหม่ของบริษัทฯ ให้ประสบความสำเร็จในระดับที่น่าพอใจ ช่วงเวลาต่อจากนี้จึงเป็นช่วงเวลาที่บริษัทฯ จะใช้จุดแข็งของการเป็นโฮลดิ้งที่เน้นความคล่องตัว สามารถเลือกลงทุนในธุรกิจได้หลากหลาย โดยเน้นการบริหารจัดการ Portfolio ของบริษัทฯ ให้มีความยืดหยุ่น และบริหารความเสี่ยงในแต่ละธุรกิจ และในแต่ละช่วงเวลาได้”
โครงสร้างรายได้ของ ดราก้อน วัน ประกอบด้วยรายได้จาก 3 ส่วนหลักคือ 1. รายได้จากเงินปันผลรับจากการลงทุนในบริษัทลูก 2. รายได้จากการเป็นที่ปรึกษาทางธุรกิจให้แก่บริษัททั่วไป และ 3. รายได้ (กำไร) จากการนำบริษัทลูกเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ทั้งนี้การประเมินผลการดำเนินงานของดราก้อน วัน จะพิจารณาจากการที่บริษัทฯ เข้าไปช่วยพัฒนาและช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่บริษัทลูก รวมถึงการประสานประโยชน์ การเพิ่มจุดแข็งและเสริมศักยภาพทางธุรกิจระหว่างบริษัทลูกในกลุ่ม ซึ่งบริษัทลูกจะมีหลักเกณฑ์ในการพิจารณาผลงานและอนุมัติจ่ายเงินปันผลให้แก่ ดราก้อน วัน เป็นรายไตรมาสหรือรายปี แตกต่างกันไปตามลักษณะธุรกิจ และตามแผนธุรกิจที่ได้ทำร่วมกัน ทั้งนี้คาดว่า ดราก้อน วัน จะเริ่มรับรู้รายได้ส่วนใหญ่จากกำไรในการนำบริษัทลูกเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ภายในปีหน้า
จเรรัฐ กล่าวทิ้งท้ายว่า “จากวันที่ผมเริ่มตั้ง ดราก้อน วัน ในวันที่ 25 กรกฎาคม 2549 จนถึงวันนี้ เป็นเวลา 11 เดือนเต็มพอดีที่ D1 ได้พิสูจน์ตัวเองในฐานะบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ผมพร้อมด้วยคณะกรรมการและพนักงานทุกคน ขอขอบคุณผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ รวมถึงผู้ถือหุ้น และพันธมิตรที่เชื่อมั่นในแนวทางการทำธุรกิจของเรา ที่มีส่วนร่วมทำให้ D1 มีวันนี้ ผมขอยืนยันว่าพวกเรา D1 ทุกคน พร้อมที่จะเริ่มต้นบทพิสูจน์ใหม่ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ โดยจะมุ่งมั่นดำเนินงานตามแผนธุรกิจที่ได้วางไว้ เพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ถือหุ้น รวมถึงจะพัฒนาการลงทุนในธุรกิจของไทยให้เติบโตอย่างเข้มแข็งภายใต้นโยบายการกำกับดูแลกิจการที่ดี และจะมุ่งมั่นให้ D1 เป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญอันจะช่วยเพิ่มมูลค่าตลาดโดยรวมของตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ให้เจริญก้าวหน้าเติบโตอย่างมั่นคงเทียบเคียงตลาดหลักทรัพย์ในระดับสากล”
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
คุณวราภรณ์ เกียรติชัยวณิชย์ ( [email protected] )
หมายเลขโทรศัพท์: (02) 259-7851 ต่อ 2102
Mobile: (081) 928-7144
- ๒๓ ธ.ค. 'IROYAL' โชว์ฟอร์มเทรดวันแรกแกร่ง ปักธงสู่ผู้นำธุรกิจด้านโซลูชั่นพลังงานไฟฟ้า มั่นใจพื้นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่ง เตรียมพร้อมรับดีมานด์จากหลายอุตสาหกรรม เร่งเครื่องประมูลงานต่อเนื่อง
- ๒๔ ธ.ค. TATG เปิดเทรดวันแรกราคาพุ่งเหนือจอง 85.60%
- ๒๓ ธ.ค. TATG พร้อมลั่นระฆังเทรด mai 8 ต.ค. นี้ ก้าวสู่ผู้นำอุตสาหกรรมแม่พิมพ์และชิ้นส่วนยานยนต์ ในระดับภูมิภาคเอเชีย