กรุงเทพฯ--23 มี.ค.--เวเบอร์ แชนด์วิค
นายมูฮัมหมัด บิน ดาอิน อัล ฮัมลี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และประธานโอเปก พร้อมด้วย นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานเปิดงานประชุมความร่วมมือทางการค้าด้านพลังงานระดับภูมิภาคในหัวข้อ “Asian Energy Dialogue — Oil Outlook: Challenges and Opportunities”
การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นโดยกระทรวงพลังงาน ร่วมกับ บริษัท ปตท จำกัด (มหาชน) ซึ่งการประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมร่วมกับระหว่างประเทศที่เป็นสมาชิกโอเปก ซึ่งตอบรับเข้าร่วมประชุมทั้งหมด 6 ประเทศ ล้วนแต่เป็นประเทศที่มีบทบาทสำคัญในการผลิตน้ำมันทั้งสิ้น ได้แก่ ประเทศซาอุดิอาระเบีย อินโดนีเชีย อิหร่าน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ คูเวตและเวเนซูเอล่า จะประชุมร่วมกับกลุ่มโรงกลั่นน้ำมันและบริษัทน้ำมันในเอเชีย ได้แก่ บริษัท อิเดมิทสุ โคซาน ประเทศญี่ปุ่น, บริษัทยูนิเปค และบริษัทไชน่า ออลย์จากประเทศจีน, บริษัทเอสเค คอร์ปอเรชั่น จากประเทศเกาหลี บริษัทรีไลอัลซ์ อินดัสตรี ลิมิเต็ด และบริษัทอินเดียน ออยล์ คอร์ปอเรชั่น จากประเทศอินเดีย และ บริษัทสิงคโปร์ ปิโตรเลียม รวมทั้ง บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน)
การประชุมความร่วมมือทางการค้าด้านพลังงานระดับภูมิภาคเอเชีย หรือ Asian Energy Dialogue ครั้งนี้ นับเป็นเวทีที่จะสร้างความสัมพันธ์อันดีกับประเทศในกลุ่มโอเปกและกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันรายสำคัญในเอเชีย โดยทั้ง 2 กลุ่มจะหารือและปรึกษากันในหัวข้อสำคัญหลายหัวข้อ รวมถึงการจัดตั้งเครือข่ายพลังงาน นโยบายราคาน้ำมัน และความร่วมมือด้านพลังงานในอนาคต ในกลุ่มโอเปกซึ่งเป็นกลุ่มที่ส่งออกน้ำมันทีใหญ่ที่สุดและเอเชีย ซึ่งเป็นตลาดที่บริโภคน้ำมันที่เติบโตเร็วที่สุด
นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า “ผมถือเป็นเกียรติที่ประเทศสมาชิกโอเปกมาร่วมประชุม Asian Energy Dialogue ในครั้งนี้ นับเป็นโอกาสดีในการทำความรู้จักและประสานมิตรภาพระหว่างกันให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น กลุ่มโอเปกมีความสำคัญต่อดุลยภาพของตลาดน้ำมันโลกซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศที่ต้องนำเข้าน้ำมัน ต้องการเห็นราคาน้ำมันที่มีความสมดุล มีเสถียรภาพ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจของโลก ผมหวังว่างานประชุมความร่วมมือทางการค้าด้านพลังงานครั้งนี้จะส่งผลให้เกิดเครือข่ายทางด้านพลังงานระหว่างกัน การกำหนดนโยบายราคาน้ำมันที่มีความเหมาะสม การแสวงหาพลังงานทางเลือก การหาพันธมิตรในการลงทุนทางพลังงานร่วมกัน ตลอดจนความร่วมมือด้านพลังงานที่จะมีร่วมกันในอนาคตระหว่างกลุ่มโอเปก กับผู้ผลิตน้ำมันในเอเชีย ซึ่งรวมถึงไทยด้วย”
นายมูฮัมหมัด บิน ดาอิน อัล ฮัมลี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และประธานโอเปก กล่าวว่า “ในกลุ่มโอเปก เราเชื่อว่าการหารือด้านพลังงานนั้นเป็นสิ่งจำเป็นในการพัฒนาอุตสาหกรรมน้ำมันในอนาคต การให้ความมั่นคง ราคาที่สมเหตุสมผล เป็นสิ่งที่ช่วยเสริมให้เศรษฐกิจของโลกและทุกๆ ประเทศเติบโตขึ้น ผมมั่นใจว่าการประชุมความร่วมมือนี้จะประสบผลสำเร็จ และเป็นประโยชน์ต่อปัญหาด้านน้ำมันต่างๆ นอกจากนั้นยังช่วยให้เราสามารถเตรียมรับมือกับปัญหาต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอีกด้วย”
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ขณะนี้ ถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยจะเริ่มบทบาทผู้นำในการปรึกษาหารือด้านพลังงานในภูมิภาคเอเชีย ประเทศไทยมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างความเข้มแข็งและความเข้าใจ ให้แก่ผู้มีอำนาจการตัดสินใจจากตะวันออกกลางและภูมิภาคเอเชีย การประชุมความร่วมมือทางการค้าด้านพลังงานในครั้งนี้จะเป็นพื้นฐานให้ทั้งสองฝ่ายได้พูดคุยเพื่อประสานความร่วมมือและผลประโยชน์ร่วมกัน”
“ปัจจุบัน ปตท. เป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจปิโตรเลียม มีบทบาทสำคัญในธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม ปิโตรเคมี รวมถึงการลงทุนในธุรกิจปิโตรเคมี ธุรกิจการกลั่นในประเทศไทย และธุรกิจต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้ เราได้วางแผนที่จะเปิดเกมรุกออกไปลงทุนและขยายธุรกิจในต่างประเทศ จากบริษัทไทยสู่บริษัทระดับนานาชาติ และจังหวะก้าวเหล่านี้จะเริ่มปรากฏใน 5 ปีข้างหน้า ซึ่งปตท. กำลังศึกษาโอกาสการลงทุนในธุรกิจปิโตรเลียมต่อเนื่องในหลายประเทศ” นายประเสริฐ กล่าวเสริม
การประชุมความร่วมมือทางการค้าด้านพลังงานระดับภูมิภาคเอเชีย หรือ Asian Energy Dialogue จัดขึ้นที่กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 22 — 23 มีนาคม พ.ศ. 2550
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
เยาวลักษณ์ วีรุตธนะเศรษฐ
พนักงานประชาสัมพันธ์
สายการค้าระหว่างประเทศ ปตท.
0-2537-3119
อีเมลล์ : [email protected]