กรุงเทพฯ--14 มิ.ย.--ยธ.
กระทรวงยุติธรรม จัดอบรมด้านการเงินและบัญชี มุ่งเน้นให้บุคลากรปฏิบัติงานด้วยความละเอียด รอบคอบ โปร่งใส และให้โอกาสกับตนเองในการเปิดรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาใช้เพื่อให้เกิด ประสิทธิภาพสูงสุดในการปฏิบัติงาน
เมื่อวันจันทร์ที่ ๑๑ มิถุนายน ๒๕๕๐ เวลา ๐๙.๐๐ น. นายพิษณุโรจน์ พลับรู้การ ผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม รักษาราชการแทนรองปลัดกระทรวงยุติธรรมเป็นประธาน ในพิธีเปิดแลบรรยายพิเศษโครงการฝึกอบรมหลักสูตร“เจ้าหน้าที่บริหารงานการเงินและบัญชี ของส่วนราชการ” รุ่นที่๗๕ ณ ห้องประชุมสำนักพัฒนาบุคลากรกระทรวงยุติธรรม ชั้น ๒๕ อาคารกระทรวงยุติธรรมอำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี
สำนักพัฒนาบุคลากรกระทรวงยุติธรรม จัดโครงการฝึกอบรมหลักสูตร “เจ้าหน้าที่บริหารงานการเงินและบัญชีของส่วนราชการ” รุ่นที่ ๗๕ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมได้มีความรู้ ความเข้าใจ บทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบของผู้บริหารงานด้านการเงินและบัญชี มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ วิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการบริหารการเงิน การบัญชี การควบคุมภายใน การตรวจสอบภายใน และการพัสดุ ซึ่งสามารถนำไปปรับใช้ในการบริหารงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมทั้งเพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้กับผู้เข้ารับการฝึกอบรม ได้แลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็น ทัศนคติ และประสบการณ์ในการบริหารงาน และให้ข้อเสนอแนะเพื่อแก้ไขปัญหา อุปสรรค ในการบริหารงานร่วมกัน เนื่องจากงานด้านการเงิน การบัญชี มีขั้นตอนในการปฏิบัติที่ละเอียดอ่อน และต้องดำเนินการด้วยความถูกต้อง รวดเร็วทันตามกำหนดเวลา ภายใต้หลักเกณฑ์และระเบียบปฏิบัติของทางราชการ ฉะนั้นการบริหารงานจึงต้องมีความระมัดระวังและรอบคอบ เพื่อมิให้เกิดผลเสียหายแก่ทางราชการ กรมบัญชีกลางในฐานะหน่วยงานกลางที่กำกับดูแลด้านการเงินการคลังภาครัฐจึงได้ร่วมกับกระทรวงยุติธรรมจัดโครงการดังกล่าวขึ้น โดยตระหนักถึงความจำเป็นในการพัฒนาศักยภาพของผู้บริหารงานด้านการเงินการบัญชีของส่วนราชการ อีกทั้งยังเป็นการสร้างสัมพันธภาพอันดีระหว่างผู้เข้ารับการฝึกอบรมและกรมบัญชีกลางอีกด้วย
ผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม ฯ กล่าวว่า หลังการปฏิรูประบบราชการ ได้มีการกระจายอำนาจเกิดขึ้น มีการกำหนดเป้าหมายของการทำงานที่ชัดเจนมากขึ้น ระบบการบัญชี และการคลังจึงมีผลกระทบไปด้วย โดยเฉพาะเรื่องของการทำงานต้องมีระบบการตรวจสอบต่าง ๆ เข้ามาใช้เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดและเกิดความโปร่งใส การได้รับการฝึกอบรมในหลักสูตรนี้ จะครอบคลุมได้เป็นอย่างดี ทุกท่านจะได้รับความรู้จากวิทยากร ในเรื่องของวิชาการและการปฏิบัติงานอย่างจริงจัง ซึ่งในปัจจุบันมีการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาใช้กันอย่างแพร่หลาย การทำงานที่เป็นระบบจึงมีความจำเป็นที่ต้องมีการหาความรู้เพิ่มเติมอยู่เสมอ เพื่อให้เข้ากับระบบการทำงานให้มากที่สุด แม้บางครั้งอาจจะยากมากก็ตาม แต่เราต้องก้าวตามเทคโนโลยีให้ทัน ต้องหาวิธีการทำงานที่เหมาะสมและชัดเจนมากที่สุด ซึ่งก็คงยากพอสมควรกว่าจะทำได้ดี แต่ก็ต้องมีความพยายาม ยอมรับ และเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยว่าโลกของเราเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีต่าง ๆ ก็เข้ามามีบทบาทสำคัญอย่างมากในสังคมไทย การนำความรู้ที่ได้รับมาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดเป็นสิ่งที่เราทุกคนควรพึงปรารถนา งานด้านการเงินและบัญชีจึงต้องมีความละเอียดรอบคอบ เราต้องทุ่มเทและจริงจังจะได้ไม่เกิดความผิดพลาดในการทำงาน เพราะถ้าผิดแค่เพียงนิดเดียวก็จะพากันผิดไปหมด การนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาช่วยในการทำงานจึงเป็น สิ่งที่ดี ซึ่งจะช่วยลดภาระขั้นตอนบางอย่างได้ เราต้องเปิดโอกาสให้กับตัวเองในการที่จะเรียนรู้และเปิดรับสิ่งใหม่ ๆ การทำงานทุกอย่างอาจจะมีปัญหาก็ขึ้นอยู่เหตุผลของแต่ละงาน แต่เราก็ควรที่จะหันหน้ามาแก้ไขปัญหาร่วมกัน การทำงานร่วมกันเป็นสิ่งที่ดีอยากให้ท่านทั้งหลายใช้โอกาสในวันนี้ ให้ได้ประโยชน์มากที่สุด เพื่อเป็นแนวทางในการทำงานร่วมกันที่ดีต่อไปในอนาคต
“การทำงานด้านการเงินและบัญชี ต้องมีความระเอียดรอบคอบ การเปิดรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาช่วยในการทำงานจะช่วยลดภาระขั้นตอนให้เกิดความผิดพลาดน้อยลง เราต้องหาความรู้เพิ่มเติมให้กับตนเองจะเป็นการพัฒนาการทำงานที่ดีที่สุด” นายพิษณุโรจน์ ฯ กล่าว