ขสมก.ได้ 11 บริษัทเข้าร่วมทดสอบสมรรถนะเปลี่ยนเครื่องยนต์ รถโดยสารใช้น้ำมันดีเซลเป็นเครื่องยนต์ใช้ก๊าซธรรมชาติ

กรุงเทพฯ--17 พ.ค.--ขสมก.
นายพิเณศวร์ พัวพัฒนกุล ผู้อำนวยการ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ตามที่ ขสมก. ได้ประกาศเชิญชวนผู้ที่มีความสนใจจะเข้าร่วมทดสอบสมรรถนะเปลี่ยนเครื่องยนต์รถโดยสารใช้น้ำมันดีเซลเป็นเครื่องยนต์ใช้ก๊าซธรรมชาติ เพื่อขึ้นบัญชี เป็นผู้มีสิทธิได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้ดำเนินการเปลี่ยนเครื่องยนต์ใช้ก๊าซธรรมชาติ พร้อมการซ่อมแซมและบำรุงรักษาเวลา 3 ปี โดย ขสมก. จะมอบรถโดยสารให้ทำการทดสอบเปลี่ยนเครื่องยนต์ ตามประเภทรถ(รถธรรมดา, รถปรับอากาศ) และยี่ห้อรถที่ผู้เข้ารับการทดสอบต้องการทดสอบอย่างละ 1 คัน และได้มีผู้สนใจยื่นความจำนงตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน-11 พฤษภาคม 2550 มีบริษัทสนใจยื่นขอเข้าร่วมทดสอบสมรรถนะเปลี่ยนเครื่องยนต์ รวม 15 ราย และผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติมีบริษัทที่สามารถเข้าร่วมได้ 12 รายได้แก่ 1. กิจการร่วมค้า ดองแฟง ช.ทวีมอเตอร์ 2. กิจการร่วมค้า F.A.W. 3. กิจการร่วมค้า MONIKA - AEC 4. กิจการร่วมค้า แอล.ที.จี. คอนซอร์เตียม 5. บ.ไดสตาร์ อิเลคทริก คอร์เปอเรชั่น จก.(มหาชน) 6. บ.เอ็นจีวี ดอดมอเตอร์ จก. 7.บ.ฮีโน่มอเตอร์สเซลส์(ประเทศไทย) จก. 8. บ.ธนบุรีมอเตอร์เซลส์ จก. 9. กิจการร่วมค้าเบสท์ริน กรุ๊ป(consortium) 10. กิจการร่วมค้าริชออยล์ (Consortium) 11.ที ไอ ที คอนซอร์เตียม และ 12. บ.สแกนอินเตอร์ จก. ซึ่งบ.สแกนอินเตอร์ จก. ได้ขอสละสิทธิ
บริษัทที่เสนอตัวเข้าร่วมทดสอบในครั้งนี้ บางรายต้องการทดสอบเฉพาะรถโดยสารธรรมดา บางรายต้องการทดสอบรถโดยสารปรับอากาศ ดังนั้น ขสมก. จึงได้ส่งมอบรถโดยสารประจำทาง ทั้งรถโดยสารธรรมดา และรถโดยสารปรับอากาศ ให้กับเอกชนไปดำเนินการจำนวน 25 คัน เป็นรถโดยสารธรรมดา 12 คัน และรถโดยสารปรับอากาศ 13 คัน เพื่อให้บริษัทนำไปเปลี่ยนเครื่องยนต์ รวมทั้งอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้รถโดยสารสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพไม่น้อยกว่าเมื่อใช้เครื่องยนต์ดีเซล โดยผู้ได้รับการทดสอบต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการนำรถไป ตรวจสภาพและจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก ค่าประกันภัย และการประกันอุบัติเหตุชั้น 1 รวมถึงค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนเครื่องยนต์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องให้กลับสู่สภาพเดิมกรณีผลการทดสอบไม่ผ่านการประเมินผลตามหลักเกณฑ์ของ ขสมก. และบริษัท จะต้องส่งมอบรถทั้ง 25 คันคืน ขสมก. ภายในวันที่ 30 พฤษภาคม 2550 เพื่อให้ ขสมก.นำไปทดลองต่อไป