กรุงเทพฯ--24 ก.ค.--โปรคอมมิวนิเคชั่นส์ แอนด์ คอนซัลแตนท์
กมลประกันภัย ขานรับการเปิดเสรีธุรกิจประกัน ประกาศปรับภาพลักษณ์องค์กรครั้งใหญ่ ประเดิมปรับโลโก้ใหม่ เดินหน้าสร้างสรรค์นวัตกรรมการประกันภัยเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง เบิกฤกษ์ออกกรมธรรม์เพื่อสังคม “กมลตากาฟูล” สำหรับชาวมุสลิมทั่วประเทศ เบื้องต้น เน้นเจาะจังหวัดชายแดนภาคใต้หวังดึงลูกค้าคืนจากมาเลเซีย เผยตั้งเป้าสิ้นปีนี้ผลิตเบี้ยรับรวม 1,000 ล้านบาท คาดภายใน 3 ปีติดอันดับ 1 ใน 10 ของธุรกิจประกันวินาศภัย
บริษัท กมลประกันภัย จำกัด (มหาชน) ปรับภาพลักษณ์องค์กรใหม่สร้างสรรค์นวัตกรรมการประกันภัยเพื่อสังคม พร้อมพัฒนาระบบบริหารจัดการรองรับ ด้าน Call Center, ระบบเคลมด่วนภายใน 15—30 นาที, โครงการอู่พันธมิตร เป็นอู่เครือข่ายที่กมลประกันภัยได้ร่วมกับสถาบัน EQA : European Quality Assurance ดำเนินการตรวจสอบประสิทธิภาพและการบริการให้ได้มาตรฐาน เพื่อให้ลูกค้าของบริษัทได้รับประโยชน์สูงสุด ปัจจุบันมีเครือข่ายอู่ประมาณ 15 จังหวัด, โครงการทนายพันธมิตร เป็นเครือข่ายนักกฎหมายที่ให้คำปรึกษาตามกฎหมายและคดีความ แก่ผู้เอาประกัน โดยปัจจุบันเป็นบริษัทประกันวินาศภัยอันดับที่ 32 มีสัดส่วนลูกค้าที่ซื้อกรมธรรม์ 80% เป็นกลุ่มประกันภัยรถยนต์ และอีก 20% เป็นกลุ่ม Non-Motor อาทิ ประกันภัยอุบัติเหตุ, ประกันอัคคีภัย, ประกันภัยการขนส่ง เป็นต้น และมีเป้าหมายที่จะติดอันดับ 1 ใน 10 ของธุรกิจประกันวินาศภัยภายใน 3 ปี สำหรับปีนี้ได้วางเป้าหมายเบี้ยรับไว้ที่ 1,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่มียอดเบี้ยรับรวม 700 ล้านบาท โดยผลประกอบการครึ่งปีแรกของปีนี้มียอดเบี้ยรับ 411 ล้านบาท เทียบกับช่วงเวลาเดียวกัน ของปี 2549 ที่มีเบี้ยรับรวม 321 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 27.72%
สำหรับเบี้ยรับรวมของปีนี้ที่ตั้งเป้าหมายเพิ่มขึ้นราว 40% คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ ตามเป้าหมาย โดยการริเริ่มสร้างสรรค์สินค้าและบริการใหม่ๆ ที่ไม่เหมือนใคร โดยเฉพาะการออกกรมธรรม์เพื่อสังคม อาทิ กมลตากาฟูล, My Way, My Plan และแผนฌาปนกิจสงเคราะห์ ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญให้ฉีกแนวการแข่งขันในธุรกิจประกันวินาศภัย
นายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธานกรรมการ บริษัท กมลประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ในยุคของการค้าเสรี บริษัทประกันภัยต่างชาติจะหลั่งไหลเข้ามาลงทุนในประเทศไทย กมลประกันภัย ได้ตื่นตัวรับกับการเปลี่ยนแปลงมาโดยตลอด ทั้งในด้านของการปรับโครงสร้าง การบริหารจัดการ การนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการทำงานมากขึ้น สำหรับการออกกรมธรรม์จะเน้น เพื่อสังคมเป็นหลัก เช่น กรมธรรม์กมลตากาฟูล ถือเป็นกรมธรรม์ ที่ได้รับอนุมัติให้คุ้มครอง ชาวไทยมุสลิม โดยมีทั้งประกันวินาศภัย และประกันภัยอุบัติเหตุ และ ถือเป็นการให้ความสำคัญกับคนไทย ทุกศาสนาอย่างเท่าเทียมกัน โดยเฉพาะในยามที่ประเทศต้องการความสมานฉันท์จากทุกฝ่าย แม้อาจดูเป็นเพียงสิ่งเล็กน้อย แต่ทว่าอาจเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ในใจของชาวไทยมุสลิม ทั่วประเทศ
ปัจจุบัน บริษัท กมลประกันภัย เป็นบริษัทมหาชน มีกรมธรรม์ในรูปแบบต่างๆ เพื่อคุ้มครองสิทธิเสรีภาพให้ประชาชนและดูแลสังคมอย่างจริงจัง โดยยึดหลักสำคัญในเรื่องคุณธรรม จริยธรรม ในการคุ้มครองสิทธิ เสรีภาพ กมลประกันภัยมีทีมงานมืออาชีพ ในการให้บริการ และมุ่งสู่การเป็นบริษัท ของประชาชน เพื่อประชาชนอย่างแท้จริง ทั้งนี้ ธุรกิจประกันจะอยู่ได้ด้วยความน่าเชื่อถือ สายป่านที่ยาว และการบริการที่ดี กมลประกันภัย มีนโยบายที่ต้องยึดถือเป็นภารกิจหลักคือ “มอบใจให้สังคม” นอกจากนี้ยังยึดหลักการรับประกันภัยตามหลัก ธรรมาภิบาล ทั้งการพัฒนาการบริหารงาน การบริการและการประกันภัยเพื่อสังคม และขอยืนยันว่าเราจะยึดหลักการนี้ต่อไป ภายใต้นโยบายที่มุ่งมั่น จะพัฒนาการบริการอย่างไม่หยุดยั้ง เป็นผู้นำการประกันภัยรูปแบบใหม่ และดำรงเงินทุนสำรอง ตามระเบียบของกรมการประกันภัย ”
นายมนัส บินมะฮมุด ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กมลประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เราตั้งเป้าหมายว่าจะก้าวขึ้นสู่อันดับ 1 ใน 10 ภายใน 3 ปี โดยเตรียมเพิ่มสัดส่วนกลุ่มสินค้าและบริการที่ไม่ใช่รถยนต์ (Non Motor)ให้มากขึ้น และสร้างสรรค์กรมธรรม์ที่มีความแตกต่างและสามารถตอบสนองความต้องการของคนไทยในปัจจุบัน เป็นเครื่องมือสำคัญในการรุกตลาดและดำเนินการสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ สำหรับเป้าเบี้ยรับรวมในปีนี้วางไว้ที่ 1,000 ล้านบาท จากผลประกอบกา รปีที่ผ่านมา 700 ล้านบาท เชื่อว่าจะสามารถทำได้ตามเป้าจากกรมธรรม์ใหม่ที่แนะนำในครั้งนี้ โดยกรมธรรม์กมลตากาฟูลจะมีบทบาทสำคัญในการเจาะตลาดกลุ่มชาวมุสลิมทั่วประเทศ และทำให้พี่น้องมุสลิมในภาคใต้ที่ไปทำประกันในมาเลเซียให้กลับมาใช้บริการของเรา ซึ่งเป็นการดึงเงินตรากลับเข้าประเทศด้วย“
นายมนัสให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ เตรียมเพิ่มสัดส่วนของสินค้าและบริการในกลุ่มที่ไม่ใช่รถยนต์ให้มากขึ้น โดยการออกกรมธรรม์ที่มีความแตกต่างและสามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มบุคคลในสังคมไทยในยุคปัจจุบัน เช่น มายเวย์ (My Way) เป็นกรมธรรม์ที่ให้ความคุ้มครองแก่ลูกจ้าง หรือนักศึกษาที่จบใหม่ ไปสมัครงานขาดคนค้ำประกัน สามารถซื้อกรมธรรม์ดังกล่าวได้ ซึ่งได้เปิดขายเมื่อปีที่ผ่านมา ขายได้ 20 ล้านบาท ส่วนครึ่งปีหลังนี้ตั้งเป้ายอดขายไว้ 25 ล้านบาท
มายแพลน (My Plan) เป็นกรมธรรม์คุ้มครองลูกจ้าง ชดเชยการถูกเลิกจ้างอย่างไม่เป็นธรรม หากให้ออกจากงานอย่างไม่เป็นธรรมจะได้รับค่าชดใช้ หรือค่าสินไหมทดแทนในวงเงิน 10 เท่าของเงินเดือน ตั้งเป้ายอดขายสิ้นปีนี้ไว้ที่ 25 ล้านบาท
ฌาปนกิจสงเคราะห์ เป็นกรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล ชำระเบี้ยประกันเพียง 300 บาท รับความคุ้มครองกรณีเสียชีวิตจากความเจ็บป่วย 30,000 บาท หากเสียชีวิตจากอุบัติเหตุจะได้ค่าปลงศพ 30,000 บาทและค่าสินไหมประกันอุบัติเหตุอีก 30,000 บาท รวมเป็น 60,000 บาท ตั้งเป้ายอดขาย สิ้นปีนี้ไว้ที่ 25 ล้านบาท หรือหากต้องการเพิ่มค่ารักษาพยาบาลและค่าชดเชย ลูกค้าสามารถซื้อ กรมธรรม์ My Life Plus โดยเริ่มต้นเบี้ยประกันพียง 1,000 บาท / ปี
สำหรับ กรมธรรม์กมลตากาฟูล (Kamol Takaful) ได้รับการอนุมัติจากกรมการประกันภัยถูกต้องตามกฎหมาย บริหารจัดการกองทุนผ่านธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย กำกับดูแลกองทุนโดยคณะกรรมการซารีอะฮ์ ผู้ทรงคุณวุฒิ และบริการประกันภัยรวดเร็ว ด้วยความยุติธรรม สร้างสรรค์ออกมาเพื่อชาวไทยมุสลิมทั่วประเทศ
นายเด่น โต๊ะมีนา ประธานคณะกรรมการซารีอะฮ์ กมลตากาฟูล กล่าวว่า “กรมธรรม์ กมลตากาฟูล มีการดำเนินงานและการบริหารจัดการทั้งระบบที่ถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลาม อย่างเคร่งครัดซึ่งเชื่อถือได้ การจัดการด้านการเงินก็แยกไปฝากกับธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ผู้บริหารของบริษัท กมลประกันภัย จำกัด (มหาชน) ก็เป็นมุสลิม และมีคณะกรรมการซารีอะฮ์ผู้ทรงคุณวุฒิ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ที่ผมช่วยคัดสรรอย่างพิถีพิถัน องค์ประกอบทั้งหมดที่ไม่ขัด กับหลักศาสนาอิสลามนี้ จะช่วยขจัดปัญหาความเคลือบแคลงหรือข้อขัดแย้งต่างๆ ในการทำประกันภัยของพี่น้องมุสลิมได้อย่างดีที่สุด”
โครงการประกันภัย กมลตากาฟูล เป็นโครงการที่ บริษัท กมลประกันภัย จำกัด (มหาชน) ได้ศึกษาและคิดรูปแบบร่วมกับกลุ่มสหกรณ์ออมทรัพย์อิสลามปัตตานี โดยมี นายเด่น โต๊ะมีนา เป็นประธานกลุ่มสหกรณ์ดังกล่าว ได้ให้คำปรึกษาและแนะนำ มีการบริหารจัดการที่เป็นไปตามรูปแบบอิสลาม โดยมีคณะกรรมการซารีอะฮ์ เป็นผู้ควบคุมกำกับดูแล และการบริหารด้านการเงิน ที่ถูกต้อง ตามหลักศาสนาอิสลาม โดยจะบริหารผ่านทางธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ซึ่งจะไม่ทำธุรกรรม ที่เป็นการหากำไรจากดอกเบี้ยของกรมธรรม์ตามหลักซารีอะฮ์ และผลกำไรกลับคืนสู่สังคม
นายประพล มิลินทจินดา ประธานที่ปรึกษากรรมการบริหาร บริษัท กมลประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “กมลประกันภัยฯ ดำเนินธุรกิจประกันมา 34 ปี ได้มีการปรับตัวเพื่อรับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงรอบด้านมาโดยตลอด โดยยึดหลักการดำเนินธุรกิจตามหลักธรรมาภิบาลและสร้างสรรค์นวัตกรรมการประกันภัยเพื่อสังคม ครั้งนี้เป็นอีกก้าวหนึ่งที่เราปรับตัวเพื่อรองรับ ความเปลี่ยนแปลงของความทันสมัยด้านเทคโนโลยี ระบบทุนนิยม และวัตถุนิยม คณะผู้บริหาร ผู้ถือหุ้น พนักงานและพันธมิตรทางธุรกิจมีความภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้ร่วมกันกำหนดทิศทางของบริษัทฯ ที่ มุ่งมั่นทำประโยชน์ให้กับสังคมและประชาชนโดยยึดแนวทางการบริหารที่ไม่จำเป็นต้องเป็นบริษัทที่ร่ำรวยที่สุด ไม่จำเป็นต้องสร้างกำไรมหาศาลให้ผู้ถือหุ้น ขอเพียงแต่ต้องเป็นบริษัทฯ ที่ รับใช้สังคม และมีนโยบายเพื่อให้โอกาสกับคนที่มีทางเลือกที่จำกัด”
กมลประกันภัย ได้ทำการปรับโลโก้ใหม่ใช้สัญลักษณ์หัวใจ 4 ดวงรวมกัน หมายถึง ลูกค้าและสังคม, พนักงาน, ผู้บริหาร และพันธมิตรทางธุรกิจ สีที่ใช้ สีแดง คือ พลัง สีน้ำเงิน คือ ความมั่นคงและความน่าเชื่อถือ บ่งบอกถึงการก้าวเดินต่อจากนี้ไป ของ กมลประกันภัย ที่จะเต็มไปด้วยพลังและความหนักแน่นมั่นคงน่าเชื่อถือ
ข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
บริษัท โปรคอมมิวนิเคชั่นส์ แอนด์ คอนซัลแตนท์ จำกัด
อุมา พลอยบุตร์, รัชฎา บุลนิม, อัจฉรา จั่นเพชร โทร. 0 2691 6302-4, 0 2274 4782
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net