“ชาร์ป” ผนึกกำลัง ร่วมทุนไทย-ญี่ปุ่น ขยายอาณาจักรเครื่องใช้ไฟฟ้า พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในไทย

กรุงเทพฯ--27 เม.ย.--ชาร์ป
ชาร์ป คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ร่วมลงทุน (Joint Venture) กับ ชาร์ป เทพนคร และ ชาร์ป กรุงไทยการไฟฟ้า เพื่อสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งขึ้น โดยรวมหมวดสินค้าภาพและเสียง (Audio and Visual Products) และหมวดสินค้าเครื่องใช้สำนักงาน (Office Automation Products) เครื่องถ่ายเอกสาร และแผงพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งเดิม ชาร์ป เทพนคร เป็นตัวแทนจำหน่าย เข้ากับหมวดสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน (Home Appliances) บางส่วน คือ เครื่องปรับอากาศ เครื่องฟอกอากาศ ตู้เย็น เตาไมโครเวฟ ซึ่งเดิม ชาร์ป กรุงไทยการไฟฟ้า เป็นตัวแทนจำหน่าย เข้าด้วยกัน ผนึกกำลังพร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีและยอดขาย ขยายอาณาจักรเครื่องใช้ไฟฟ้าชาร์ป ในประเทศไทย ทั้งในส่วน Home use และ Commercial use พร้อมทั้งพัฒนาการบริการหลังการขายให้ครบวงจร เพื่อสนองตอบความต้องการของผู้บริโภค
บริษัทร่วมทุนไทย-ญี่ปุ่น ในนาม บริษัท ชาร์ป ไทย จำกัด (Sharp Thai Co., Ltd.)
มร.มาโคโตะ ทาคาฮาชิ (Mr. Makoto Takahashi) ประธานบริหาร ประจำภูมิภาคเอเชีย บริษัท ชาร์ป คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น จำกัด นายจิตติน สีบุญเรือง ประธาน บริษัท ห้างเทพนคร พาณิชย์ จำกัด และมร.คาซูโอะ ซาซากิ (Mr. Kasuo Sasaki) กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาร์ป เทพนคร จำกัด พร้อมด้วยนายศุภชัย สุทธิพงษ์ชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงไทยการไฟฟ้า จำกัด ได้ร่วมกันแถลงข่าวการร่วมทุนทางธุรกิจ (Joint Venture) 3 ฝ่าย เพื่อก่อตั้ง บริษัท ชาร์ป ไทย จำกัด (Sharp Thai Co., Ltd.) โดยมี ชาร์ป คอร์ปอเรชั่น ถือหุ้น 50% ส่วนห้างเทพนคร พาณิชย์ และชาร์ป กรุงไทยการไฟฟ้า ถือหุ้นบริษัทละ 25%
ปรากฏการณ์ร่วมทุนของธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นในครั้งนี้ นับเป็นแบรนด์ล่าสุดในประเทศไทย ที่เพิ่งตกลงร่วมทุนกัน หลังจาก ชาร์ป เทพนคร และชาร์ป กรุงไทยการไฟฟ้า ต่างแยกกันดำเนินธุรกิจ โดยเป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าชาร์ป ในกลุ่ม Audio Visual & Office Automation และ Home Appliances ตามลำดับ มาเป็นเวลานานหลายทศวรรษ มร.มาโกะโตะ ทากาฮาชิ ได้กล่าวถึงเหตุผลว่า บริษัทแม่ที่ประเทศญี่ปุ่นได้มีนโนบายที่จะ รุกตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในโซนอาเซียน โดยเฉพาะประเทศไทยอย่างจริงจัง จึงได้เจรจาตกลงร่วมทุนระหว่าง 3 บริษัทขึ้น ทั้งนี้ เพื่อให้แผนธุรกิจและแผนการตลาดเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันทั่วโลก อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มความแข็งแกร่งของแบรนด์ และด้วยเงินลงทุนที่มากขึ้นเพื่อสนับสนุนการทำตลาด รวมทั้งนวัตกรรมโดดเด่นที่ชาร์ปเป็นผู้คิดค้น ทำให้มั่นใจว่า ชาร์ปจะสามารถแข่งขันในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่นับวันจะซับซ้อนและรุนแรงขึ้นได้
สำหรับ บริษัท ชาร์ป ไทย จำกัด มี คุณจิตติน สีบุญเรือง และคุณศุภชัย สุทธิพงษ์ชัย ดำรงตำแหน่งประธาน โดย คุณจิตติน สีบุญเรือง เป็นประธานดูแลกลุ่มผลิตภัณฑ์ธุรกิจ (Document and Solution Products Group) ซึ่งประกอบด้วยเครื่องถ่ายเอกสาร และระบบผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Systems) คุณศุภชัย สุทธิพงษ์ชัย เป็นประธานดูแลกลุ่มผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็คโทรนิกส์ (Consumer Electronic Products Group) ซึ่งประกอบด้วยหมวดสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน (HA) อาทิ ตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ เครื่องฟอกอากาศ เตาไมโครเวฟ หมวดสินค้าภาพและเสียง (AV) อาทิ LCD TV เครื่องเล่น DVD และหมวดสินค้าเครื่องใช้สำนักงาน (OA) อาทิ เครื่องคิดเลข เครื่องโทรสาร โดยมี มร.คาซูโอะ ซาซากิ จาก ชาร์ป คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ ทั้งนี้ บริษัท ชาร์ป ไทย จำกัด ตั้งอยู่บนชั้น 12 อาคารรามาแลนด์ ถ.พระราม 4 ใกล้สี่แยกสีลม ด้วยทุนจดทะเบียน ซึ่งชำระแล้ว 490 ล้านบาท และจะเริ่มดำเนินธุรกิจ ในวันที่ 2 กรกฎาคม 2550 เป็นต้นไป
นโยบายและทิศทาง ของ บริษัท ชาร์ป ไทย จำกัด หลังการร่วมทุน
มร.คาซูโอะ ซาซากิ กรรมการผู้จัดการคนแรกที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งให้มาบริหารงานใน บริษัท ชาร์ป ไทย จำกัด เปิดเผยว่า การร่วมทุนธุรกิจกับ 2 บริษัทในประเทศไทยครั้งนี้ เราได้หุ้นส่วนพร้อมทีมงานกว่า 300 คน ซึ่งมาจาก ชาร์ป กรุงไทยการไฟฟ้า 88 คน และ ชาร์ป เทพนคร 225 คน โดยแต่ละคนล้วนมากด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้ามาหลายสิบปีในประเทศไทย และเมื่อผนวกกับสินค้าของชาร์ปหลายตัวที่โดดเด่นทางด้านเทคโนโลยีซึ่งชาร์ปเป็นผู้คิดค้นขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นจอภาพระบบ LCD ที่ใช้ในโทรทัศน์ ระบบฟอกอากาศพลาสม่า คลัสเตอร์ ที่ใช้ในเครื่องปรับอากาศ เครื่องฟอกอากาศ หรือจะเป็น Solar Cell เครื่องกำเนิดไฟฟ้าจากพลังแสงอาทิตย์ ที่ชาร์ปเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดของโลกในขณะนี้ ทำให้เรามั่นใจว่า ชาร์ปสามารถเป็นผู้นำในตลาดได้อย่างแน่นอน
ทั้งนี้ บริษัท ชาร์ป ไทย จำกัด มีกลยุทธ์เพื่อเพิ่มยอดขายในปีนี้ให้กับสินค้าหลัก ๆ หลายตัว อาทิ โทรทัศน์ ระบบ LCD จะเพิ่มสัดส่วนการตลาดเป็น 20% โดยจะเน้นไปที่ระบบจอภาพขนาด 32 นิ้วขึ้นไป ด้วยการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายตลอดจนการส่งเสริมการจัดวางสินค้าเพื่อให้มีสินค้าโชว์ครบรุ่นให้สมบูรณ์ที่สุด ส่วนสินค้าอีกหลายตัว เช่น ตู้เย็น เตาไมโครเวฟ และเครื่องถ่ายเอกสาร จะเพิ่มสัดส่วนการตลาดในปีนี้เป็นประมาณ 20% 40% และ 15% ตามลำดับ โดยมีประมาณการยอดขายอยู่ที่ 4,000 ล้านบาท
สำหรับการดำเนินนโยบายของบริษัท ภายใต้การบริหารงานของ มร.คาซูโอะ ซาซากิ นั้น จะเน้นการจำหน่ายสินค้าชาร์ปที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Environmental Friendly) การร่วมประสานทางธุรกิจกับผู้ร่วมทุนอย่างมีเอกภาพ และประสิทธิภาพ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคและผู้แทนจำหน่ายทั่วประเทศ
ชาร์ป กรุงไทยการไฟฟ้า ใช้ความเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องครัวไฟฟ้าชาร์ป เน้นเจาะขยายตลาดใหม่ ๆ
ในส่วนของ บริษัท กรุงไทยการไฟฟ้า จำกัด นั้น คุณศุภชัย สุทธิพงษ์ชัย กรรมการผู้จัดการ ได้กล่าวว่า เรายังคงดำเนินธุรกิจการเป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน (HA) ได้แก่ หม้อหุงข้าว กระติกน้ำร้อนไฟฟ้า เตาอบไฟฟ้า เครื่องปั่นอเนกประสงค์ เครื่องซักผ้า ตู้แช่ เตารีด เครื่องทำน้ำเย็น และเครื่องทำน้ำอุ่น โดยเฉพาะหม้อหุงข้าว และกระติกน้ำร้อนไฟฟ้า เป็นกลุ่มสินค้าที่เราทำตลาดมานานกว่า 30 ปี จนประสบความสำเร็จ สามารถครองตลาดอันดับหนึ่งได้อย่างเหนียวแน่นตลอดมา
สำหรับกลยุทธ์ทางการตลาดของผลิตภัณฑ์ชาร์ป ภายใต้การจัดจำหน่ายของ บริษัท กรุงไทยการไฟฟ้า จำกัด จะเน้นการพัฒนาคุณภาพและยอดขายเป็นหลัก และยังคงเน้นความเป็นผู้เชี่ยวชาญในการพัฒนาเมนูอาหารหลากหลาย เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มที่โดดเด่นให้กับผลิตภัณฑ์ ซึ่ง บริษัท กรุงไทยการไฟฟ้า จำกัด เป็นผู้ริเริ่ม จนเป็นที่ยอมรับจากผู้บริโภคว่าเป็น Kitchen Appliances Expert ดังนั้น ด้วยกลยุทธ์ดังกล่าวเสริมด้วยความพร้อมของทีมงานที่มีประสิทธิภาพ ตลอดจนเทคโนโลยีจากชาร์ป และความร่วมมือประสานงานจาก ชาร์ป คอร์ปอเรชั่น อย่างใกล้ชิดมากขึ้น ทั้งในขั้นตอนการผลิต และการพัฒนาสินค้า ซึ่งบริษัท กรุงไทยการไฟฟ้า เป็นตัวแทนจำหน่าย ทำให้เรามีความมั่นใจและพร้อมที่จะขยายฐานของกลุ่มผู้บริโภคและสร้างตลาดใหม่ ๆ และสามารถเพิ่มยอดขายให้กลับมาสู่ระดับปัจจุบันภายใน 2-3 ปีจากนี้
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net