ไทยยานยนต์เร่งเคาะราคา Audi R8 ซูเปอร์คาร์ เหนือระดับความแรง

จันทร์ ๐๖ สิงหาคม ๒๐๐๗ ๑๔:๕๒
กรุงเทพฯ--6 ส.ค.--ไทยยานยนต์
Audi R8 ซุปเปอร์คาร์คันแรกของ Audi กับความสำเร็จเหนือความคาดหมาย เร่งเพิ่มกำลังการผลิตเต็มที่เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด
- รถสปอร์ต Audi R8 ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยี FSI จากรถแข่งในชื่อเดียวกันคือ R8 Le Mans ที่ประสบความสำเร็จในสนามแข่งเลอมังส์ 24 ช.ม. โดยการคว้าชัยชนะถึง 5 ปี 5 สมัยติดต่อกัน
- Audi มุ่งมั่นพัฒนานำเทคโนโลยี FSI ที่ให้ทั้งสมรรถนะที่เหนือกว่าและการประหยัดน้ำมัน มาใช้ในรถ สปอร์ตและรถใช้งานในเซกเมนท์อื่นๆ ล่าสุดเครื่องยนต์ 2.0 Turbo FSI สร้างเกียรติประวัติเช่นเดียวกับในสนามแข่งด้วยรางวัล “Engine of the Year” ติดต่อกันถึง 3 ปีซ้อน
- บริษัท ไทยยานยนตร์ จำกัด เตรียมศึกษานำเข้ารถ Audi R8 ซุปเปอร์คาร์ตัวจริงที่มีสมรรถนะความแรงระดับลัมโบกินี แต่เหนือกว่าในด้านราคาโดยมีราคาประมาณ 23,000,000 บาท เข้ามาตอบสนองความต้องการกลุ่มลุกค้ารถหรูที่ชื่นชอบความแรง
นายกิตติ มาไพศาลสิน กรรมการบริหาร บริษัท ไทยยานยนตร์ จำกัด ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ออดี้ ใน เครือยนตรกิจ เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อทำตลาดออดี้ R8 ซุปเปอร์คาร์ตัวจริง โดยในเบื้องต้น คาดว่า จะสามารถจำหน่าย R8 ในราคา ประมาณ 23,000,000 บาท ทั้งนี้บริษัทเตรียมนำเข้ามา ตอบสนองความต้องการกลุ่มลุกค้ารถหรูที่ชื่นชอบความแรง
“นับจาก Audi R8 มีการเปิดตัวสู่สาธารณชนอย่างเป็นทางการ มีกระแสตอบรับที่ดีมากทั้งในตลาดยุโรปและอเมริกา มียอดจองอย่างล้นหลาม จนทำให้กำลังการผลิตในปี 2007 ไม่เพียงพอ ถึงขณะนี้ลูกค้าที่สั่งจองต้องรอรถในรอบการผลิตของปี 2008 แล้ว มีลูกค้าหลายพันคนได้ทำการจองรถซุปเปอร์คาร์ R8 นี้โดยไม่ได้ทดลองขับรถเลย ในประเทศไทยเองก็มีกระแสตอบรับที่ดีเช่นกัน จากกลุ่มลูกค้าซุปเปอร์คาร์ บริษัท ได้เร่งการเจรจากับ Audi AG เพื่อเตรียมแผนการนำเข้ารถ Audi R8 เข้ามาทำตลาดในเมืองไทยให้เร็วกว่าแผนการเดิมที่กำหนดไว้” นายกิตติกล่าว
Audi R8 ถูกผลิตขึ้นด้วยความพิถีพิถันที่เมือง Neckasulm ประเทศเยอรมนี ขณะนี้มียอดส่งมอบรถให้กับลูกค้าถึง 1,500 คัน ทั้งนี้ออดี้ มีกำลังการผลิตได้สูงสุดถึงวันละ20คัน ซึ่งถือว่าเป็นยอดการผลิตรถ สปอร์ตซุปเปอร์คาร์ที่สูงมาก เมื่อเปรียบเทียบกับรถระดับซุปเปอร์คาร์ด้วยกันอย่างเช่นลัมโบกินี มียอดการผลิตเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 6 คัน ต่อวันในปีที่ผ่านมา ซึ่งแสดงถึงการตอบรับที่ดีสำหรับรถซุปเปอร์คาร์อย่าง Audi R8
สำหรับ Audi R8 รถสปอร์ตซุปเปอร์คาร์ตัวใหม่ของ Audi ได้เริ่มต้นสายพานการผลิต และส่งมอบให้ลูกค้าในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมานี้ เพื่อให้ลูกค้า Audi ได้ครอบครองรถสปอร์ตรุ่นล่าสุดของ Audi ที่มีความแรงระดับซุปเปอร์คาร์ ด้วยเครื่องยนต์วางกลางลำ มีขนาด 4.2 ลิตร V8 เทคโนโลยี FSI ให้กำลังสูงสุดถึง 420 แรงม้า ให้แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร โดดเด่นด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา แบบ quattro ทำให้ขับได้เต็มสมรรถนะความเร็วสูงสุดถึง 301 กม./ชม. โดยคงความปลอดภัยสูงสุด ด้วยการยึดเกาะอย่างยอดเยี่ยมในทุกสภาพถนน
เพื่อเพิ่มความพิเศษและสร้างความแตกต่างให้กับผู้ใช้รถ Audi R8 บริษัท quattro GmbH ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Audi AG จึงเสนอทางเลือกให้กับลูกค้า Audi R8 ได้ตกแต่งรถตัวเองให้มีรูปลักษณ์ที่ โดดเด่นและความรู้สึกที่พิเศษแตกต่างเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตนมากยิ่งขึ้น เช่น แพกเกจอุปกรณ์ตกแต่งภายในที่ใช้หนังแท้คุณภาพชั้นสูงที่มีให้เลือกตั้งแต่หนังแท้ Nappa อย่างดี จนถึงหนังแท้ Alcantara พร้อมกับพรมชั้นดี และใช้วัสดุอุปกรณ์ภายในชั้นเลิศที่มีสีพิเศษโดยเฉพาะ นอกจากนี้ยังมีสิ่งของพิเศษโดยเฉพาะกระเป๋าสัมภาระเดินทาง 5 ใบ ทีใช้หนังแท้เกรดดีมีสีสัน ที่กลมกลืนกับสีภายในของรถ Audi R8 ที่ลูกค้าสั่งจองไว้ด้วย
Audi R8 ซุปเปอร์คาร์คันแรกของ Audi ที่ได้รับการถ่ายทอดความสำเร็จด้านเทคโนโลยี FSI (Fuel Stratified Injection) ซึ่งเป็นระบบการฉีดน้ำมันเบนซินเข้าสู่ห้องเผาไหม้โดยตรง ทำให้รถมีทั้งสมรรถนะความแรงแบบเต็มพิกัด แต่ในขณะเดียวกันก็ช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้มากกว่าเครื่องยนต์ขนาดเดียวกันถึง 15% ซึ่งเป็นผลพวงจากรถแข่ง R8 ที่ออดี้ได้พัฒนาขึ้นเพื่อใช้ลงแข่งในสนามแข่งเลอมังส์ 24 ช.ม. และประสบความสำเร็จอย่างสูงมาถึง 5 สมัย (ในปี 2000, 2001, 2002, 2004 และ 2005) หลังจากนั้นออดี้ได้คิดค้นและพัฒนารถแข่ง Audi R10 TDI ที่ใช้เทคโนโลยีดีเซล (TDI) ขึ้นมาใช้แทนเทคโนโลยี FSI ในสนามแข่งเลอมังส์ 24 ชม. และสามารถเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายแรกของโลกที่คว้าชัยชนะในการแข่งขันเลอมังส์ 24 ชั่วโมง ด้วยเครื่องยนต์ดีเซลติดต่อกัน 2 ปีซ้อน (ปี 2006 และ 2007)
หลังจากที่ Audi ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในสนามแข่งเลอมังส์ถึง 7 ครั้ง จากการเข้าร่วมการแข่งขันเพียง 9 ครั้ง Audi จึงมุ่งมั่นพัฒนานำเทคโนโลยีแห่งชัยชนะ FSI จากสนามแข่งมาใช้ในรถยนต์รุ่นต่างๆ ของ Audi และได้รับความนิยมและการตอบรับที่ดีจากลูกค้า Audi ที่สำคัญคือเครื่องยนต์ 2.0 TFSI ยังคว้ารางวัลเครื่องยนต์ยอดเยี่ยมระดับโลก (Engine of the Year)ติดต่อกันถึง 3 ปีซ้อน (ปี 2005 — 2007) เป็นเครื่องการันตีในความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีระดับโลกได้เป็นอย่างดีอีกด้วย เครื่องยนต์ขนาด 2.0 TFSI มีความสมบูรณ์แบบและเพียบพร้อมในทุกด้าน ทั้งให้สมรรถนะความแรงแบบเต็มที่, การประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงและที่สำคัญยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย จึงทำให้ Audi นำเครื่องยนต์ 2.0 TFSI มาพัฒนาใช้กับรถ Audi รุ่นอื่นอีกหลายรุ่นตั้งแต่ Audi A4, A6 รวมทั้งรถสปอร์ตที่ได้รับรางวัลรถที่สวยที่สุดในโลกอย่าง Audi TT (The Most Beautiful in the World)
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อฝ่ายประชาสัมพันธ์
พัชริน เที่ยงธรรมวัฒน, โทร +662 938 6077 ext. 494, [email protected]
เสาวนีย์ ละไมลิขสิทธิ์, โทร +662 938 6077 ext. 493, [email protected]
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ