กรุงเทพฯ--15 มิ.ย.--แม็กซิม่า คอลซัลแตนท์
ครั้งแรกในไทยกับ “ฮอร์ส เฟสติวัล” (Horse Festival) ซึ่งจะจัดขึ้นช่วงการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 24 ระหว่างวันที่ 7-15 ธันวาคมศกนี้ ณ ไทยโปโล คลับ และฮอร์สชู พอยท์ พัทยา เพื่อดึงดูดผู้สนใจกีฬาขี่ม้า นักท่องเที่ยว ตลอดจนเป็นเทศกาลให้สาระและความบันเทิงกับเยาวชนและครอบครัว ได้ร่วมเรียนรู้ สัมผัสกับม้าแสนรู้ แข็งแกร่ง สวย สง่างาม อันเป็นแรงกระตุ้นให้เยาวชนไทยหันมาให้ความสนใจกับกีฬาขี่ม้ามากยิ่งขึ้น
มร.ฮาราลด์ ลิงค์ ประธานจัดการแข่งขันกีฬาขี่ม้า ซีเกมส์ครั้งที่ 24 กล่าวว่า “การแข่งขันกีฬาขี่ม้าในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ที่จะถึงนี้ นับเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีในระดับนานาชาติ และนำมาซึ่งชื่อเสียงที่ดีแก่ประเทศไทย และเพื่อเป็นการกระตุ้นให้คนไทยสนใจตลอดจนเข้าใจในการขี่ม้ามากยิ่งขึ้น เราจึงจัดกิจกรรมสุดยิ่งใหญ่และประทับใจ นั่นคือ เทศกาลฮอร์ส เฟสติวัล ขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ระหว่างวันที่ 7-15 ธันวาคม 2550 เพื่อต้อนรับผู้มาร่วมงาน เพลิดเพลินกับกิจกรรมสุดหรรษาและตระการตาเกี่ยวกับม้าที่จะประทับใจไม่รู้ลืม อาทิ, ขบวนพาเหรดม้า, การเรียนขี่ม้า, การเลี้ยงม้า, การแต่งตัวม้า, การตีโปโล เป็นต้น ภายใต้คอนเซ็ปต์ Edutainment และพิเศษสุด อลังการกับโชว์ที่หาชมได้ยาก ศิลปการบังคับม้าระดับสูง หรือ The Art of Classical Riding ซึ่งเป็นการขี่ม้าในราชวงศ์ชั้นสูงของทางโปรตุเกสและสเปน ที่มีมานานกว่า 600 ปี เพื่อสืบทอดสายพันธุ์ม้านักรบดั้งเดิมเอาไว้ มีคนไทยเพียงไม่กี่คน ได้แก่ ชัยศีรี, ไชยนรินทร์ และชัญญา ศรีเฟื่องฟุ้ง ที่ได้ไปเรียนคอร์สนี้จากโปรตุเกส”
ทางด้าน พอ.เฟื่องวิชชุ์ อนิรุทธเทวา เลขาธิการสมาคมขี่ม้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “นับเป็นครั้งแรกที่ทางสมาคมฯ จัดการแข่งขันในสถานที่เอกชน ทั้งนี้เพราะว่าเอกชนมีความพร้อมในหลายๆ ด้าน สามารถสนับสนุนให้วงการกีฬาขี่ม้าพัฒนาอย่างยั่งยืนได้ โดยการแข่งขันขี่ม้าจะมีทั้งสิ้น 3 ประเภท ได้แก่ Dressage หรือศิลปการบังคับม้า, Show Jumping หรือขี่ม้ากระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง และ Eventing ซึ่งเป็นการแข่งขัน 3 วัน คือ วันแรกเป็นการแข่ง Dressage วันที่ 2 เป็นการแข่งขัน Cross County คือกระโดดในภูมิประเทศ และวันสุดท้าย คือ Show Jumping โดยความยากจะอยู่ที่วันที่ 2 เพราะนักกีฬาขี่ม้าจะต้องกระโดดข้ามเครื่องกีดขวางในเส้นทางภูมิประเทศที่ถูกออกแบบสนามและเครื่องกระโดดในระยะไกล”
ส่วน เชอร์รี่-ชัญญา ศรีเฟื่องฟุ้ง ผู้อำนวยการโรงเรียนสอนขี่ม้านานาชาติ ฮอร์สชู พอยท์ และอดีตนักกีฬาขี่ม้าทีมชาติไทย กล่าวว่า “สิ่งสำคัญที่จะเป็นพลังยิ่งใหญ่สำหรับนักกีฬาเมื่อลงสู่สนามก็คือกำลังแรงใจ
จากคนไทยทั้งประเทศ ซึ่งการขี่ม้าคนกับม้าต้องรวมกายและใจผสานเป็นหนึ่งเดียว นอกจากนั้น สายพันธุ์ม้าก็ต้องเหมาะสมกับประเภทการแข่งขัน ม้า Dressage มักใช้พันธุ์เยอรมัน, Show Jumping มักใช้ม้าพันธุ์ออสเตรเลีย และ Eventing มักใช้ม้าพันธุ์ผสม ส่วน Endurance หรือขี่ม้ามาราธอน มักใช้ม้าอาหรับ เป็นต้น”
ในขณะที่คนรักม้าต่างบอกเล่าถึงเสน่ห์ที่ชวนหลงใหลของสัตว์ที่เรียกว่า “ม้า” ม.ร.ว.ปรียนันทนา รังสิต อุปนายกสมาคมขี่ม้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “เริ่มขี่ม้ามาตั้งแต่ยังเด็ก ท่านพ่อรักการขี่ม้า และสอนให้ลูกๆ รักกีฬานี้ด้วย ประกอบกับที่บ้านมีฟาร์มม้า จึงเป็นเรื่องง่ายที่จะฝึกฝน และพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง การขี่ม้าเป็นการออกกำลังกายอย่างหนึ่ง ที่ทำจนติดเป็นนิสัย และอยากให้เด็กรุ่นใหม่หันมาเล่นกีฬาชนิดนี้เพราะวงการนี้ยังต้องการนักกีฬาฝีมือดีอีกมาก อย่ามองว่าการขี่ม้าเป็นกีฬาของคนมีฐานะเท่านั้น เพราะยังมีเด็กๆ อีกจำนวนมากที่มีพรสวรรค์ แต่ยังไม่ได้รับโอกาสที่จะก้าวเข้ามาในกีฬาชนิดนี้”
คุณลลิต - ลลิตยา รังสิต อาจารย์พิเศษจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ขี่ม้ามาตั้งแต่เด็ก กล่าวว่า “เพราะคุณแม่และท่านตาชอบกีฬาขี่ม้า ทำให้ซึมซับและรักกีฬาชนิดนี้แบบไม่รู้ตัวและถอนตัวไม่ขึ้น ขี่ม้าเป็นกีฬาที่ให้ความตื่นเต้น สร้างความท้าทายอย่างมาก และเข้าสู่การแข่งขันขี่ม้าครั้งแรกตอนเรียนมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ การขี่ม้าให้อะไรหลายอย่าง ทั้งสอนให้มีสมาธิมีความแม่นยำ รู้จักการควบคุมอารมณ์ และรอบครอบ การแข่งขันทุกครั้งจะพยายามไม่กดดันตัวเอง โดยเลือกจะไม่คิดถึงชัยชนะ แต่จะคิดเสมอว่าจะทำให้ดีที่สุด สำหรับความผิดพลาดทุกครั้งคือบทเรียนที่ต้องนำมาปรับปรุงตัวเอง ”
หนุ่มหล่อร่างใหญ่ เฉลิมฉาน ยศวิริยะพาณิชย์ ผู้จัดการฝ่ายส่งเสริมธุรกิจ สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟแวร์แห่งชาติ กล่าวว่า “กีฬาขี่ม้า เป็นกีฬาชนิดเดียวที่ไม่ได้เล่นคนเดียว แต่มีสิ่งมีชีวิตอีกอย่างที่เราต้องร่วมประสานใจให้เป็นหนึ่งเดียวกับมัน เพื่อชัยชนะที่เกิดขึ้นร่วมกัน เคยเล่นกีฬามาเกือบทุกชนิด พอได้ลองขี่ม้า จึงรู้ว่ากีฬานี้เหมาะกับตัวเองมากที่สุด เพราะม้าสอนให้เราเป็นคนอ่อนโยนขึ้น รู้จักเอาใจใส่สิ่งรอบข้าง มีความเมตตา และใจเย็น ในขณะเดียวกันก็ให้ความตื่นเต้น ท้าทาย และเร้าใจ การค้นพบตัวเองในกีฬาขี่ม้า จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่จะเรียนรู้อย่างจริงจัง และสอนตัวเองเสมอว่า อย่าคิดว่าตัวเองเก่ง แค่อยู่เฉย คนอื่นก็จะก้าวแซงเราไป ต้องพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา การเข้ารับคัดเลือกนักกีฬาขี่ม้าในซีเกมส์ครั้งนี้ ความหวังสูงสุดคือเหรียญทอง เพราะครั้งนี้จะเป็นการแข่งขันครั้งสุดท้ายจึงอยากจะสร้างความทรงจำ และความประทับใจให้กับตัวเอง และคนไทยทั้งประเทศด้วย”
ปูไข่-พงษ์ศิริ บันลือวงศ์ นักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ หนุ่มหล่อแห่งวงการขี่ม้าที่ควบบทบาทดารานักแสดงด้วย เล่าว่า “เวลาแข่ง ม้าก็คือเพื่อนร่วมทีมของเรา แม้ม้าพูดไม่ได้ แต่เราเข้าใจกันได้ด้วยการสื่อสารที่ปราศจากการพูดจา ยิ่งอยู่ด้วยกันนานๆ ก็ยิ่งผูกพัน การเป็นนักกีฬ่าขี่ม้าที่ดีก็คือต้องซ้อม อดทน ใจเย็น และเข้าใจม้า ถ้าได้ลองอยู่ข้างบนหลังม้าจะรู้สึกแตกต่างจากข้างล่าง เหมือนคนอยู่นอกรถกับขับรถนะครับ ใครอยากขี่ต้องลองเอง"
พลอย ปิ่นแสง นักศึกษาคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า “ค้นพบตัวเองว่ารักกีฬานี้มาก เพราะม้าซึ่งถือเป็นเพื่อนที่ไม่เคยทรยศ ถ้าเมื่อไรที่เขาไว้ใจ และให้ใจกับเราแล้ว ม้าสร้างความผูกพันระหว่างคนกับสัตว์ได้อย่างน่าอัศจรรย์ ม้าสอนให้เรารู้จักทีมเวิร์ค การเอาใจเขามาใส่ใจเรา ความละเอียดอ่อน และทุกครั้งที่อยู่บนหลังม้า จะสัมผัสได้เสมอถึงการมีกันและกัน ม้าจะรู้ว่าตอนนี้เรามีอารมณ์ กลัว ตื่นเต้น เศร้า หรือเสียใจ ทำให้เราต้องมีสมาธิ และควบคุมอารมณ์ตัวเองให้ได้ เพราะถ้ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น ม้าจะรับรู้ความรู้สึกของเราโดยไม่ต้องเอ่ยเป็นคำพูด”
สาวน้อยหน้าหวาน น้องมิ้นท์-พณัญญา ตาดทอง นักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ ภาคภาษาอังกฤษ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นักกีฬาขี่ม้าประเภท Dressage ที่เริ่มขี่ม้ามาตั้งแต่ 10 ขวบ เล่าว่า “ม้าเหมือนเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต เราสุขหรือทุกข์เขารู้สึกไปกับเราด้วย ศิลปการบังคับม้าก็คือการขอร้องให้เขาทำในสิ่งที่เราต้องการ คนกับม้าต้องร่วมเป็นหนึ่งเดียว การขี่ม้าไม่ได้ยากและน่ากลัวอย่างที่หลายคนคิด ถ้าลองแล้วจะรู้ว่ามันสนุกแค่ไหน น้อยคนที่มาเล่นแล้วจะเลิกไป”
อย่าลืม ไปร่วมรู้จักม้าและเข้าใจม้าในเทศกาลฮอร์ส เฟสติวัล ซึ่งจะจัดขึ้นช่วงการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 24 พร้อมกันระหว่างวันที่ 7-15 ธันวาคมศกนี้ ณ ไทยโปโล คลับ และฮอร์สชู พอยท์ พัทยา
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
บริษัทแม็กซิม่า คอลซัลแตนท์ จำกัด โทร 0-2434-8300
คุณสุจินดา, คุณแสงนภา, คุณปิติยา
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net