กรุงเทพฯ--13 มี.ค.--พีอาร์ ออร์ริจิ้น
ธุรกิจม่านปรับแสงโตสวนกระแสธุรกิจอสังหาฯ ชะลอตัว ล่าสุด ฮันเตอร์ ดักลาส ยักษ์ใหญ่ม่านปรับแสงจากเนเธอร์แลนด์ เร่งจับมือพันธมิตรไทย อัลตร้าสกรีน ซิสเทม รุกตลาดเต็มตัว เผยบริษัทแม่หนุนเปิด ฮันเตอร์ ดักลาส วินโดว์ แฟชั่นฺส์ แกลลอรี แห่งแรกในไทย ชี้เป็นกลยุทธ์สำคัญที่ทำให้ประสบความสำเร็จมาแล้วทั่วโลก
มร. จิม ตัน ผู้อำนวยการการตลาดประจำภูมิภาคเอเชีย หนึ่งในผู้นำธุรกิจม่านปรับแสงเปิดเผยถึงภาพรวมของธุรกิจม่านปรับแสงในประเทศไทยว่า ปัจจุบันยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้ภาวะตลาดอสังหาฯ ส่วนใหญ่ โดยเฉพาะโครงการที่อยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยวจะอยู่ในช่วงชะลอตัว แต่ในกลุ่มลูกค้าที่ปลูกบ้านเองและกลุ่มลูกค้าประเภทคอนโดมิเนียม, อาคารสำนักงานกลับมีการขยายตัวและมีความต้องการม่านปรับแสงที่มีคุณสมบัติเฉพาะมากขึ้น ทำให้ตลาดกลุ่มม่านปรับแสงที่เน้นการออกแบบและคุณสมบัติการใช้งานมีมูลค่าสูงกว่า 1,000 ล้านบาท แต่เมื่อเทียบกับมูลค่าของตลาดในประเทศแถบยุโรปและอเมริกาแล้ว ยังถือว่าไม่มากเพราะมูลค่าตลาดม่านปรับแสงในยุโรปและอเมริกามีมูลค่าสูงถึง 1 แสนล้านบาท ซึ่งทางบริษัทฯ มองว่าความต้องการม่านปรับแสงที่มีคุณสมบัติพิเศษในประเทศแถบเอเชียยังมีอีกมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทย ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่มีศักยภาพในการเติบโตทางเศรษฐกิจและมีความสามารถในการแข่งขัน ด้วยเหตุนี้ทำให้บริษัทฯ มีแผนในการรุกตลาดประเทศไทยมากขึ้น
สำหรับจุดเด่นของม่านปรับแสงจาก ฮันเตอร์ ดักลาส อยู่ที่ความมีมาตรฐานในการเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ตกแต่งหน้าต่างรายใหญ่ที่สุดของโลก มีบริษัทในเครือกว่า 150 แห่ง และมีอายุกว่า 100 ปี ได้รับการยอมรับจากลูกค้าในเรื่องของคุณภาพวัสดุและส่วนประกอบที่มีคุณภาพสูง ทั้งยังสามารลดความร้อนที่เข้ามาภายในได้เป็นอย่างดี มีระบบการปิดเปิดนุ่มมือ มีความปลอดภัยสูง พร้อมกับระบบควบคุมปรับความสว่างและความเป็นส่วนตัวที่หลากหลาย รวมถึงคุณสมบัติพิเศษ เช่น ป้องกันเชื้อรา, ป้องกันฝุ่น, ป้องกันการซึมเปื้อน และผลิตภัณฑ์ได้รับการออกแบบให้มีความยืดหยุ่นทันสมัยตลอดเวลา ประหยัดเนื้อที่ในการจัดเก็บ พร้อมทั้งมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย อาทิ สามารถเปิดปิดม่านด้วยรีโมทได้ นอกจากนั้นยังมีการรับประกันนานถึง 3 ปี และมีบริการก่อนและหลังการขายให้กับลูกค้าด้วย
ส่วนแผนและกลยุทธ์ในการรุกตลาดประเทศไทยนั้น นางสาว นวลชล ผ่องสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮันเตอร์ ดักลาส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า จะใช้กลยุทธ์เดียวกับที่ประสบความสำเร็จมาแล้วทั่วโลก คือเน้นสร้างพันธมิตรกับคู่ค้าที่มีศักยภาพในประเทศนั้นๆ โดยจะเป็นการร่วมมือกันทั้งด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การตลาด และการบริการ พร้อมสนับสนุนพันธมิตรในการเปิด ฮันเตอร์ ดักลาส วินโดว์ แฟชั่นส์ แกลลอรี ซึ่งเป็นเสมือนศูนย์รวมผลิตภัณฑ์ที่ทันสมัย ศูนย์สาธิต และศูนย์บริการลูกค้า ล่าสุดบริษัทฯ ได้ตกลงร่วมเป็นพันธมิตรกับ บริษัท อัลตร้า สกรีน ซิสเทม จำกัด ซึ่งเป็นผู้นำเข้า ผลิต และจัดจำหน่ายมุ้งระบบม้วนเก็บคุณภาพสูงและม่านปรับแสงรายใหญ่ ถือได้ว่าเป็นการร่วมมือกันเปิด ฮันเตอร์ ดักลาส วินโดว์ แฟชั่นส์ แกลลอรี แห่งแรกของเมืองไทย ตั้งอยู่ที่ ลาดพร้าว 55/1 โดยในปีนี้ทางบริษัทฯ มีแผนจะขยายเพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อย 8 แห่งทั่วประเทศ และจะขยายให้ได้อย่างน้อย 5-10 แห่งต่อปี
ด้าน นาย วชิระ ปริญญานุสรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อัลตร้า สกรีน ซิสเทม จำกัด ผู้นำเข้า ผลิต และจำหน่ายมุ้งระบบม้วนเก็บคุณภาพสูงและเป็นผู้จัดจำหน่ายม่านปรับแสง กล่าวถึงการร่วมเป็นพันธมิตรและการเปิด ฮันเตอร์ ดักลาส วินโดว์ แฟชั่นส์ แกลลอรี แห่งแรกของเมืองไทย ครั้งนี้ว่า เป็นการนำจุดแข็งของทั้งสองฝ่ายมาประสานกันอย่างลงตัว ซึ่งทาง อัลตร้า สกรีน ซีสเทม มีศักยภาพ ฐานลูกค้าอยู่จำนวนมาก ด้าน ฮันเตอร์ ดักลาส ก็ถือเป็นสินค้าที่มีคุณภาพสูงเป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก หรืออาจเรียกได้ว่าเป็นผู้นำม่านปรับแสงของโลกอย่างแท้จริงก็ว่าได้ ที่ผ่านมาทางบริษัทฯ ก็ได้มีการนำเสนอม่านของ ฮันเตอร์ ดักลาส แก่กลุ่มลูกค้ามานาน ซึ่งก็ได้รับการตอบรับที่ดี ทั้งยังมีการบอกต่อและชื่นชมในคุณภาพของสินค้า ทำให้เรามั่นใจว่าการร่วมมือกันในครั้งนี้จะสร้างศักยภาพทางการแข่งขันในตลาดม่านปรับแสงให้แก่กันได้มากขึ้น โดยทาง ฮันเตอร์ ดักลาส ได้ให้สิทธิพิเศษหลายด้าน รวมถึงการให้ความรู้และการฝึกอบรม ทั้งในด้านการติดตั้งและการให้บริการแก่ลูกค้า แต่ผู้ที่ได้รับประโยชน์สูงสุดที่แท้จริงก็คือลูกค้า เพราะจะได้ใช้สัมผัสกับผลิตภัณฑ์คุณภาพระดับโลก ในราคาที่เหมาะสม ทั้งได้รับบริการที่ดีเยี่ยมจาก ฮันเตอร์ ดักลาส วินโดวส์ แฟชั่นส์ แกลลอรี และอัลตร้า สกรีน ซิสเทม
นาย วชิระ กล่าวเพิ่มเติมถึงการเติบโตของธุรกิจม่านปรับแสงในปีนี้ว่า อาจมีการชะลอตัวบ้างแต่คิดว่าน่าจะเป็นระยะสั้น แต่น่าจะดีขึ้นในช่วงไตรมาส 2 และครึ่งปีหลัง คาดว่าตลาดน่าจะโตขึ้นประมาณ 5 — 10 % ส่วนสภาพการเมืองและเศรษฐกิจขณะนี้ ส่งกระทบกับธุรกิจบ้างแต่ไม่มากนัก ซึ่งเรามีการปรับแผนและกลยุทธ์การตลาดให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น อาทิ เลือกทำกิจกรรมส่งเสริมการขายที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย อาทิ การใช้สื่อโฆษณาที่ตรงกับในกลุ่มเป้าหมาย เช่น นิตยสารบ้าน และการออกงานแสดงสินค้าตกแต่งบ้าน ในอีกด้านหนึ่ง คือให้คำปรึกษากับลูกค้าในการเลือกผลิตภัณฑ์ให้ตามงบประมาณที่วางไว้ เพื่อเป็นการลดภาระให้แก่ลูกค้า
บริษัท ฮันเตอร์ ดักลาส เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ตกแต่งหน้าต่าง ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งเป็นที่รู้จักและยอมรับในคุณภาพและนวัตกรรมผลิตภัณฑ์เป็นอย่างดี ก่อตั้งครั้งแรกในประเทศเยอรมันนี ปี 2462 โดย Mr. Henry Sonnenberg สำนักงานใหญ่อยู่ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยได้ขยายกิจการไปประเทศทั่วโลก ปัจจุบันมีบริษัทในเครือกว่า 150 แห่ง เป็นโรงงานผลิต 66 แห่ง, โรงงานประกอบผลิตภัณฑ์ 84 แห่ง มีพนักงานกว่า 14,700 คน และมีสำนักงานอยู่ทั่วโลกกว่า 100 ประเทศ สำหรับ บริษัท ฮันเตอร์ ดักลาส (ประเทศไทย) จำกัด นั้น ก่อตั้งในประเทศไทยมากว่า 18 ปี เป็นผู้นำในด้านผลิตภัณฑ์ตกแต่งหน้าต่าง ที่ได้รับการยอมรับจากกลุ่มผู้ออกแบบและลูกค้าเป็นอย่างดี
นำเสนอข่าว บริษัท ฮันเตอร์ ดักลาส (ประเทศไทย) จำกัด โดย บริษัท พีอาร์ ออร์ริจิ้น จำกัด
รายละเอียดสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ คุณ กัมปนาท ถวัลย์กิจดำรงค์ โทร. 081-991-3223
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net