ศาลฎีกาแคนาดาพิพากษายืนกฎหมายควบคุมยาสูบ หวังเป็นแบบอย่างในการควบคุมยาสูบรูปแบบเดียวกันทั่วโลก

ศุกร์ ๒๙ มิถุนายน ๒๐๐๗ ๑๐:๕๐
วอชิงตัน--29 มิ.ย.--พีอาร์นิวส์ไวร์-เอเชียเน็ท/อินโฟเควสท์
แถลงการณ์ของนาย แมทธิว แอล.ไมเยอร์ส ประธานโครงการรณรงค์ปลอดยาสูบในเยาวชน
ศาลฎีกาแคนาดาได้ตัดสินพิพากษายืนกฎหมายควบคุมยาสูบที่เข้มงวด ซึ่งถือเป็นการนำมาซึ่งชัยชนะที่สำคัญอย่างยิ่งต่อสุขภาพของประชาชน และส่งผลสะท้อนในระดับโลกถึงการคงไว้ซึ่งกฎหมายในการควบคุมยาสูบอย่างจริงจัง กฎหมายฉบับดังกล่าวครอบคลุมถึงการห้ามโฆษณายาสูบและการเป็นผู้สนับสนุน รวมทั้งให้ทำภาพกราฟฟิกเตือนเรื่องสุขภาพบนหีบห่อบุหรี่ แคนาดาเป็นผู้นำของโลกในการประกาศใช้มาตรการกวดขันเพื่อลดการใช้ยาสูบลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการคุมเข้มเรื่องการทำตลาดและการให้คำเตือนด้านสุขภาพ อีกทั้งยังมีรัฐธรรมนูญที่เข้มงวดเพื่อปกป้องเสรีภาพในการแสดงออก
การพิพากษาอย่างเป็นเอกฉันท์ในวันนี้สะท้อนให้เห็นว่า ประเทศต่างๆสามารถดำเนินการอย่างเข้มงวดและมีประสิทธิภาพเพื่อลดการใช้ยาสูบได้ และยังช่วยรักษาชีวิตได้อย่างสอดคล้องเช่นเดียวกับมาตรการคุ้มครองเสรีภาพในการกล่าวสุนทรพจน์ การตัดสินใจของศาลฏีกาในครั้งนี้เป็นการย้ำถึงสิทธิของรัฐบาลในการดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อลดการใช้ยาสูบซึ่งคร่าชีวิตประชากรไปมากกว่า 5 ล้านรายทั่วโลกในแต่ละปี ตลอดถึงการจำกัดความสามารถของบริษัทยาสูบที่ชี้นำผู้บริโภคไปในทางที่ผิด หรือการทำตลาดผลิตภัณฑ์ที่เป็นสิ่งเสพติดและเป็นอันตรายถึงชีวิต ในรูปแบบของการชักจูงใจและล่อใจแก่เยาวชน
กฎหมายของแคนาดาฉบับนี้มีคำสั่งให้ผู้ผลิตติดป้ายคำเตือนสุขภาพโดยใช้รูปภาพขนาดใหญ่ ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ 50% ของหีบห่อบุหรี่ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง โดยมีคำสั่งห้ามการทำตลาดผลิตภัณฑ์ยาสูบที่"เป็นเท็จ ชักจูงไปในทางที่ผิด หรือ เข้าใจผิด" ห้ามเป็นผู้สนับสนุนยาสูบ การควบคุมการโฆษณายาสูบ รวมไปถึงการจำกัดโฆษณายาสูบในสื่อสิ่งพิมพ์สำหรับผู้ใหญ่ การจัดตั้งและการสั่งห้าม"โฆษณาไลฟ์สไตล์"
การพิพากษาของศาลฏีกาแคนาดาเป็นช่วงเวลาที่สอดคล้องกับที่ประเทศทั่วโลกเตรียมตัวเข้าร่วมการประชุมระหว่างวันที่ 30 มิถุนายน- 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 ณ กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย ซึ่งการประชุมจะมีการประกาศใช้สนธิสัญญาการควบคุมยาสูบนานาชาติ กรอบการทำงานการประชุมว่าด้วยการควบคุมยาสูบ คำตัดสินของศาลแคนาดาในครั้งนี้จะเป็นการกระตุ้นนานาชาติให้ประกาศใช้มาตรการบนพื้นฐานของเหตุผลและเข้มงวดซึ่งเป็นไปตามข้อเรียกร้องของสนธิสัญญา และให้การรับรองโดย 148 ประเทศที่มีพันธกิจร่วมกันดังนี้:
-ห้ามมิให้มีการโฆษณา ส่งเสริม และสนับสนุนผลิตภัณฑ์ยาสูบทุกชนิด (ประเทศที่มีข้อจำกัดด้านรัฐธรรมนูญต้องดำเนินการตามขอบเขตที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้)
-กำหนดให้ผู้ประกอบการติดฉลากที่ระบุเตือนถึงอันตรายต่อสุขภาพขนาดใหญ่ในสัดส่วน 30% บริเวณด้านหน้าและหลังซองยาสูบ โดยในสนธิสัญญาแนะนำให้ติดฉลากดังกล่าวอย่างน้อย 50% ของซองยาสูบ ซึ่งรวมถึงให้ครอบคลุมภาพประกอบที่ใช้โฆษณาบนซองยาสูบ
-ห้ามมิให้ผู้ประกอบการติดฉลากที่มีข้อความที่ไม่ถูกต้อง ข้อความที่อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด หรือหลอกลวง บนซองผลิตภัณฑ์ยาสูบ รวมถึงข้อความเช่น"โลว์-ทาร์"และ"ไลท์" ซึ่งทำให้เกิดความเข้าใจว่าเมื่อสูบแล้วจะไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
-กำหนดมาตรการในการคุ้มครองผู้ที่ไม่สูบุหรี่แต่ได้รับควันพิษจากผู้สูบุหรี่ โดยในการประชุมที่กรุงเทพฯนั้น ประเทศต่างๆควรใช้มาตรฐานในการกำหนดเงื่อนไขที่เรียกร้องให้ประเทศต่างๆใช้นโยบายในการกำหนดให้สถานที่ทำงาน หรือสถานที่สาธารณะเป็นเขตปลอดบุหรี่ 100%
-กำหนดราคายาสูบให้สูงขึ้น
-สกัดกั้นการลักลอบนำเข้าบุหรี่
-กำหนดปริมาณสารที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ยาสูบ
ทั้งนี้ ในศุตวรรษที่ 20 พิษภัยจากการใช้ยาสูบได้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วกว่า 100 ล้านคน และหากแนวโน้มการใช้ยาสูยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป ก็จะยิ่งทำให้ตัวเลขของผู้เสียชีวิตจากการใช้ยาสูบในศตวรรษที่ 21 พุ่งขึ้นเป็น 1 พันล้านคน ซึ่งหากประเทศต่างๆยังไม่กำหนดใช้มาตรการอย่างเร่งด่วนจะทำให้มีผู้เสียชีวิตจากการสูบบุหรี่สูงถึง 10 ล้านคนต่อปีในปี 2563 ซึ่ง 70% ในจำนวนนั้นอยู่ในประเทศกำลังพัฒนา อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีข่าวดี คือ ประเทศต่างๆสามารถป้องกันมิให้มียอดผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ด้วยการใช้มาตรการป้องกันอย่างเข้มงวดตามข้อห้ามที่ระบุไว้ในสนธิสัญญายาสูบ และหากจำนวนของผู้ที่สูบบุหรี่ทั่วโลกปรับตัวลดลง 50% ประเทศต่างๆจะมีอัตราผู้รอดชีวิตจากภัยของบุหรี่ถึงกว่า 300 ล้านคนภายใน 50 ปีข้างหน้า ทั้งนี้ คำตัดสินจากศาลฎีกาของแคนาดาในขณะนี้น่าจะเป็นปัจจัยกระตุ้นให้ประเทศต่างๆทั่วโลกหันมาดำเนินการตามข้อบังคับที่กำหนดขึ้นกันอย่างจริงจัง
แหล่งข่าว: โครงการรณรงค์ปลอดยาสูบในเยาวชน
ติดต่อ: ไบรอัน บอนเนอร์ หรือ นิโคล ดัฟเฟิร์ต,
ทั้งคู่จากโครงการรณรงค์ปลอดยาสูบในเยาวชน
โทร +1-202-296-5469
--เผยแพร่โดย เอเชียเน็ท ( www.asianetnews.net )--

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘ เม.ย. ARDA จับมือ ฟาร์ม เอ็กซ์โป และพันธมิตร เปิดศึก AGRITHON by ARDA Season 2 เฟ้นหาสุดยอดไอเดียปลุกพลังนวัตกรรมเกษตรไทย ชิงทุนวิจัยรวมกว่า 100
๑๘ เม.ย. กรุงศรี ฉลอง 80 ปี ดูหนัง 80 บาท ที่ Major Cineplex เมื่อชำระด้วยบัตรกรุงศรี เดบิตและบัตร Krungsri Boarding
๑๘ เม.ย. แบรนด์ซุปไก่สกัด รณรงค์ขับขี่ปลอดภัยในโครงการ สมองล้าอย่าขับ พักดื่มแบรนด์ จับมือ ตำรวจทางหลวง และ ตำรวจจราจร
๑๘ เม.ย. ซัมซุงจัดใหญ่! เป็นเจ้าของ ตู้เย็น Side by Side รุ่นใหม่ล่าสุด พร้อมรับสิทธิพิเศษแบบจุใจ ได้แล้ววันนี้
๑๘ เม.ย. ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2568 คาดกนง.มีมติลดดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเดือนเมษายนนี้
๑๘ เม.ย. EXIM BANK ร่วมกับกระทรวงการคลังและกระทรวงพาณิชย์ ออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ SMEs รับมือนโยบายภาษีแบบตอบโต้ของสหรัฐฯ
๑๘ เม.ย. ปักหมุด! เตรียมจัดงาน PET Expo Thailand 2025 จัดยิ่งใหญ่ครบรอบ 25 ปี
๑๘ เม.ย. ลดคลายร้อน ช้อปแลคตาซอย 1,000 ลด 100 พร้อมชวนร่วมสนุกถ่ายภาพคู่แลคตาซอย ลุ้น 10 รางวัล
๑๘ เม.ย. DITP ประชุมผู้จัดแสดงสินค้า เตรียมความพร้อมสู่เวที THAIFEX - ANUGA ASIA 2025
๑๘ เม.ย. โรงแรมเครือดุสิตธานี เปิดตัวโปรพิเศษต้อนรับซัมเมอร์ 'A Night on Us' เติมเต็มวันพักผ่อนอย่างมีความสุขกับโรงแรมและรีสอร์ทในเครือดุสิตธานีทั่วโลก