GC ไม่สนเศรษฐกิจชะลอโชว์กำไรปี 2549พุ่ง 82.5% จ่ายเงินปันผลอีก 0.15บ./หุ้นรวมทั้งปีจ่าย 0.25 บ./หุ้น

พฤหัส ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๐๐๗ ๑๖:๑๙
กรุงเทพฯ--22 ก.พ.--โกลบอล คอนเน็คชั่นส์
GC ปลื้มผลจากการปรับนโยบายการขายใหม่เน้นจับสินค้ากลุ่มมาร์จิ้นสูงเพิ่มขึ้น พร้อมดูแลอัตราแลกเปลี่ยนอย่างมีประสิทธิภาพ ดันผลประกอบการปี 2549 ยอดเยี่ยมปั๊มกำไรถึง 66.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน30 ล้านบาท หรือ 82.5% พร้อมประกาศจ่ายเงินปันผลเพื่อตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นอีก 0.15 บาท/หุ้น เป็นครั้งที่ 2 รวมตลอดทั้งปีจ่าย 0.25 บาท/หุ้น จากปี 2548 ที่จ่ายเงินปันผล 0.14 บ./หุ้น ส่วนแผนงานปี 2550 จะมุ่งรักษาลูกค้าเก่าควบคู่กับการขยายฐานลูกค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเสริมการให้บริการกับลูกค้าแบบครบวงจร หวังมัดใจลูกค้าระยะยาว วางเป้ารายได้ไว้ที่ 3,800 ล้านบาท
นายสมชาย คุลีเมฆิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลบอล คอนเน็คชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ GC กล่าวถึงผลประกอบการในปี 2549 ว่า บริษัทประสบความสำเร็จทั้งการเติบโตของรายได้ และการเพิ่มขึ้นของกำไรสุทธิ โดยในปี 2549 บริษัทสามารถขยายรายได้ให้อยู่ที่ระดับ 3,378 ล้านบาท ขยายตัว3.7% จากปี 2548 ที่มีรายได้ 3,257 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ระดับ 66.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 82.5% เปรียบเทียบกับปี 2548 ที่มีกำไรสุทธิ 36.5 ล้านบาท
สาเหตุที่ผลประกอบการของบริษัทปรับตัวดีขึ้นมาก เป็นผลมาจากรอบปี 2549 บริษัทได้ปรับนโยบายการขายโดยเน้นการจำหน่ายสินค้าในกลุ่มสินค้าที่มีกำไรขั้นต้นสูงเพิ่มมากขึ้น ทำให้สามารถเพิ่มกำไรขั้นต้นมาอยู่ที่ระดับ 6% จากเดิมที่อยู่ที่ระดับ 5% นอกจากนั้นมีการดูแลความเสี่ยงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนอย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากบริษัทสั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 20% ของมูลค่าการสั่งซื้อทั้งหมดในปี 2549 ทำให้บริษัทพลิกมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 3 ล้านบาท จากปี 2548 ที่ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 12 ล้านบาท
นอกจากนั้น ในปี 2549 บริษัทได้ดำเนินการลดภาระดอกเบี้ยจ่ายลง ในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยของตลาดเป็นขาขึ้น โดยนำเงินทุนที่ได้จากการขายหุ้นเพิ่มทุน IPO ประมาณ 100 ล้านบาท และถอนเงินฝากที่เป็นหลักประกันวงเงินกู้จากทุกธนาคาร ประมาณ 80 ล้านบาทเข้ามาเป็นทุนหมุนเวียนเพิ่มเติม ส่งผลให้บริษัทใช้เงินกู้ระยะสั้นจากสถาบันการเงินน้อยลง ประกอบกับอัตราดอกเบี้ยที่ได้รับจากสถาบันการเงินหลังเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อยู่ในอัตราที่ต่ำลง ช่วยให้ลดดอกเบี้ยจ่ายลงเหลือ19.74 ล้านบาทในปี 2549 จาก 24.99 ล้านบาท
ในปี 2548 ในขณะเดียวกันบริษัทยังได้รับผลดีจากอัตราภาษีนิติบุคคลที่ลดลงเหลือ 25% จากการเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เป็นเวลา 5 ปีด้วย ซึ่งเริ่มจากปี 2549 เป็นปีแรก
เขากล่าวต่อว่ารอบบัญชีปี 2549 บริษัทสามารถจ่ายเงินปันผลได้สูงกว่าอัตราขั้นต่ำตามนโยบายเงินปันผลที่ไม่ต่ำกว่า 40% เนื่องจากผลการดำเนินงานที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างเด่นชัด ประกอบกับบริษัทไม่มีแผนการลงทุนในปี 2550 โดยคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.15 บาท เป็นครั้งที่ 2 ในรอบปี และรวมทั้งปี 2549 จ่ายเงินปันผลรวม 0.25 บาท/หุ้น เป็นระดับที่สูงกว่าปี 2548 ที่จ่ายในอัตราหุ้นละ 0.14 บาท
สำหรับแนวโน้มธุรกิจปิโตรเคมีในปีนี้ คาดว่าจะยังคงขยายตัวได้ในอัตรา 1.5-2.0 เท่าของ GDP ซึ่งมีการประเมินว่าขยายตัวประมาณ 4-4.5% และที่ผ่านมาบริษัทได้ปรับตัวด้วยการการขยายตลาดไปยังสินค้าที่มีการแข่งขันไม่รุนแรงนัก แต่มีกำไรขั้นต้นที่สมเหตุผล คือ 5% ขึ้นไป จึงทำให้สัดส่วนของ Product Mix อยู่ในเกณฑ์ที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ และเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ดังนั้นในปี 2550 บริษัทจึงยังคงเดินนโยบายตามแนวเดิมที่ปฏิบัติมาในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา คือขยายเข้าสู่กลุ่มลูกค้าใหม่ในผลิตภัณฑ์ใหม่ที่บริษัทหามาเพิ่มในช่วงที่ผ่านมา และรักษาฐานลูกค้าชั้นดีในกลุ่ม Commodity โดยให้บริการในลักษณะ Total Solution ที่ ให้บริการเพิ่มทั้งด้านเทคนิคการผลิต และด้านการเงินมากกว่าการขายเฉพาะวัตถุดิบ
นอกจากนั้น ราคาน้ำมันที่ปรับลดลง และค่อนข้างนิ่งในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลดีต่อต้นทุนธุรกิจของบริษัทเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะต้นทุนการขนส่ง เนื่องจากปี 2549 ราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้ต้นทุนขนส่งปรับตัวเพิ่มเป็น 0.54% ของยอดขาย จากปี 2548 ที่มีต้นทุนการขนส่งคิดเป็นประมาณ 0.4% ดังนั้นจากภาวะราคาน้ำมันที่ปรับลดลงในปี 2550 น่าจะส่งผลให้ต้นทุนการขนส่งปรับตัวลดลง และผลักดันให้กำไรขั้นต้นของทั้งบริษัทและลูกค้าดีขึ้นไปในทิศทางเดียวกัน โดยบริษัทคาดว่าในปีนี้จะมีรายได้รวมประมาณ 3,800 ล้านบาท ขยายตัวประมาณ 12 %จากปี 2549
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
คุณณัฐพงษ์ ใจแกล้ว
โทร.02-5549396-7หรือ 081-4010226

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๒๗ สถาพร เอสเตท ฟอร์มเยี่ยม ยอดขายทะลุเป้ากว่า 165 ล้านบาท จากงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 46
๑๖:๐๒ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค จัดทัพโซลูชั่นสำหรับสมาร์ทซิตี้ในงาน IEEE-ISC2 2024 พร้อมจัดเวทีเสวนาระดับผู้นำทางความคิดด้านสมาร์ทซิตี้
๑๖:๑๘ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ผนึก IMAX Corporation เปิดโรงหนัง IMAX with Laser ครั้งแรกในต่างจังหวัด ส่งมอบประสบการณ์การดูหนังที่ดีที่สุด ที่ เซ็นทรัล เฟสติวัล
๑๖:๒๘ Bitkub Group สร้างปรากฏการณ์เขียวทั่วเมืองไทย!ขึ้น Billboard ต้อนรับ Developer ทั่วโลกบินร่วมงาน Devcon 2024
๑๖:๔๗ ยิบอินซอยจับมือมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ลงนามบันทึกความเข้าใจ ผลิตบุคลากรคุณภาพในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์
๑๖:๓๕ RML ปลื้ม 'ดิ เอสเทลล์ พร้อมพงษ์' และ 'เทตต์ สาทร ทเวลฟ์' ปล่อยเช่า Yield สูง
๑๖:๔๓ TPCH สุดแกร่ง! โชว์กำไร 9 เดือนปี 67 แตะ 254.15 ลบ. รับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าชีวมวล-พลังงานขยะ กำลังผลิต 90.2 MW บอร์ดใจดีแจกปันผลระหว่างกาล 0.128
๑๖:๒๖ กลุ่มเซ็นทรัล ชวนทุกท่านร่วมส่งมอบความสุขอันอบอุ่นให้น้องๆ ชายแดนใต้ ผ่านของขวัญแทนความห่วงใย ในโครงการ มิลเลี่ยนกิฟต์ มิลเลี่ยนสมายล์ ปี
๑๖:๑๖ YLG ย้ำทองยังปรับตัวขึ้นได้อีก 2 ปี เป้าหมายถัดไปลุ้นถึง 3,000 ดอลลาร์ ทองแท่งในประเทศได้เห็น 5 หมื่นบาท
๑๖:๒๖ แม็คโคร ชี้เมกะเทรนด์ธุรกิจอาหารที่น่าจับตามอง ปี 2568 หนุนผู้ประกอบการโฮเรก้าเติมศักยภาพ-แข่งขันในตลาดได้