กรุงเทพฯ--15 พ.ค.--สปส.
ประกันสังคมเพิ่มช่องทางให้นายจ้าง/ผู้ประกันตน มาตรา 39 จ่ายเงินสมทบสะดวก รวดเร็วขึ้น แนะใกล้ที่ใดใช้บริการที่นั่น ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการเดินทาง
นายสุรินทร์ จิรวิศิษฎ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวว่า สปส.ได้ตระหนักถึงภารกิจสำคัญในการอำนวยความสะดวกรวดเร็วในการติดต่อขอรับบริการให้แก่นายจ้าง ลูกจ้าง โดยปัจจุบันสำนักงานประกันสังคมได้ร่วมมือกับธนาคารให้บริการรับจ่ายเงินกองทุนประกันสังคม ซึ่งช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการเดินทางไปติดต่อขอรับบริการจาก สปส.เขตพื้นที่/จังหวัด/สาขา ซึ่งจัดให้มีบริการรับชำระเงินสมทบผ่านเคาน์เตอร์ธนาคารให้แก่นายจ้าง โดยให้นายจ้างทำแบบรายการส่งเงินสมทบตามที่กำหนด และสำหรับผู้ประกันตน โดยสมัครใจมาตรา 39 ให้นำบัตรประชาชนพร้อมเงินสด หรือเช็ค/ดราฟท์ ไปยื่นชำระหน้าเคาน์เตอร์ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา ทั่วประเทศ เมื่อธนาคารตรวจสอบและรับเงินเรียบร้อยแล้วจะออกใบเสร็จให้ทันที
นอกจากนั้นผู้ประกันตนมาตรา 39 ยังสามารถหักจากบัญชีเงินฝากธนาคารได้ด้วย โดยยื่นความจำนง ได้ที่ สปส.เขตพื้นที่ / จังหวัด / สาขา มี 3 ธนาคารที่ให้บริการ ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด และธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งธนาคารจะหักบัญชีเงินฝากในวันที่ 15 ของทุกเดือน จำนวน 432 บาท /เดือน (ค่าธรรมเนียม 10 บาท) และธนาคารจะส่งใบเสร็จรับเงินให้ทางไปรษณีย์
สำหรับนายจ้าง ที่ต้องการชำระเงินสมทบผ่าน Internet หรือ e-payment เพียงแสดงความจำนงเพื่อขอรับแบบฟอร์ม สปส.1-05 จาก สปส.เขตพื้นที่/จังหวัด/สาขา หรือ Download แบบฟอร์มจากเว็บไซต์ สปส. www.sso.go.th แล้วส่งไปที่ สปส.เขตพื้นที่/จังหวัด/สาขาที่นายจ้างสะดวก หลังจากนั้นนายจ้างจะได้รับ User ID และ Password ทาง e-mail address ที่นายจ้างได้แจ้งไว้กับ สปส.ซึ่งนายจ้างจะขอใช้บริการได้ต้องมีบัญชี ทางการเงินกับ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ธนาคารซิตี้แบงก์ ธนาคารมิซูโฮ คอร์ปอเรต จำกัด และธนาคารซูมิโตโม มิตซุย แบงกิ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด เมื่อธนาคารหักเงินสมทบจากบัญชีของนายจ้างแล้ว จะส่งใบเสร็จรับเงินให้ทางไปรษณีย์ต่อไป ทั้งนี้หากนายจ้าง ผู้ประกันตน ท่านใดมีปัญหาข้อสงสัยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนโทร 1506 ได้ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ
ศูนย์สารนิเทศ สายด่วน 1506 www.sso.go.th
- ธ.ค. ๒๕๖๗ สปส.แนะผู้ประกันตนที่มีบุตรแรกเกิดถึง 6 ปี และส่งเงินสมทบครบ 12 เดือนขึ้นไป สามารถยื่นรับสิทธิสงเคราะห์บุตรได้
- ธ.ค. ๒๕๖๗ สปส.แจงแนวปฏิบัติส่งลูกจ้างและผู้ประกันตนทุพพลภาพเข้าศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพฯ
- ธ.ค. ๒๕๖๗ สปส.เตือนหากมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูล ของนายจ้างและผู้ประกันตน นายจ้างต้องรีบแจ้ง ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป