ก.พลังงาน นำทัพสื่อ ตรวจเยี่ยม ปตท. เคมีคอล ยืนยันธุรกิจปิโตรเคมี เป็นการต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับก๊าซธรรมชาติของประเทศ

ศุกร์ ๒๙ มิถุนายน ๒๐๐๗ ๑๔:๕๐
กรุงเทพฯ--29 มิ.ย.--ก.พลังงาน
ก.พลังงาน นำทัพสื่อ ตรวจเยี่ยม ปตท. เคมีคอล ยืนยันธุรกิจปิโตรเคมี เป็นการต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับก๊าซธรรมชาติของประเทศ สร้างงาน ถ่ายทอดเทคโนโลยี และนำรายได้เข้าสู่รัฐ ย้ำชัดสามารถจัดการปัญหามลภาวะบริเวณมาบตาพุดได้เรียบร้อย ก่อนเดินหน้าโครงการปิโตรเคมี เฟส 3 ชี้ไทยได้เปรียบการผลิตปิโตรเคมี ด้วยต้นทุนต่ำ
วันนี้ ( 29 มิ.ย.) คณะผู้บริหารจากกระทรวงพลังงาน พร้อมสื่อมวลชน เข้าตรวจเยี่ยม และรับฟังบรรยายสรุปผลการดำเนินงาน ธุรกิจ ปิโตรเคมีอย่างครบวงจร ณ บริษัท ปตท. เคมิคอล จำกัด (มหาชน) ภายในบริเวณนิคมอุตสาหกรรม มาบตาพุด จ.ระยอง
นายคุรุจิต นาครทรรพ รองปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงานยังคงนโยบายเดินหน้าส่งเสริม และสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมปิโตรเคมีระยะที่ 3 อย่างเต็มที่ เพื่อเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มของทรัพยากรปิโตรเลียมภายในประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ เป็นการต่อยอดเพิ่มคุณค่าให้ก๊าซธรรมชาติที่ใช้เป็นวัตถุดิบต้นทางในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ซึ่งในปัจจุบันกว่าร้อยละ 72 ของก๊าซธรรมชาติที่ใช้ในประเทศถูกใช้ผลิตไฟฟ้า ขณะที่อีกร้อยละ 17 ถูกนำไปใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและสังคมไทยอย่างมาก
ทั้งนี้ ในปัจจุบันเป็นที่น่ายินดีว่า อุตสาหกรรมปิโตรเคมีของไทย ซึ่งมีพื้นฐานมาจากก๊าซธรรมชาติเป็นวัตถุดิบนั้น (Gas-based petrochemical Industry) ได้พัฒนาขีดความสามารถและกำลังผลิตไปสู่ความเป็นสากล รวมทั้งก้าวไปสู่การแข่งขันในตลาดโลกอย่างสมบูรณ์แล้ว ซึ่งนับเป็นการสร้างประโยชน์ ให้กับประเทศชาติและประชาชนอย่างยิ่ง ทั้งในแง่การสร้างงานวิชาชีพชั้นสูง สร้างรายได้ต่อชุมชนและประเทศชาติ การถ่ายทอดองค์ความรู้ และเทคโนโลยีที่ทันสมัย การลงทุนในโครงสร้างอุตสาหกรรมพื้นฐาน และการเป็นศูนย์กลางแห่งความเป็นเลิศในการค้นคว้าวิจัยด้านปิโตรเคมี
“การวางกลยุทธ์ เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมปิโตรเคมีของไทย จำเป็นที่จะต้องมีการพัฒนาอุตสาหกรรม ปิโตรเคมีระยะที่ 3 อย่างจริงจัง เพื่อรองรับการขยายตัวของความต้องการผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ สำหรับอุตสาหกรรมต่อเนื่องของไทย และสำหรับตลาดโลก รวมทั้งเพิ่มขีดความสามารถของไทย ในการแข่งขันกับประเทศคู่แข่งในตลาดโลกด้วย” รองปลัดกระทรวงพลังงานกล่าว
สำหรับเรื่องการแก้ปัญหา และลดมลภาวะจากอุตสาหกรรมโดยรวมในนิคมฯมาบตาพุดนั้น ขณะนี้ได้มีแนวทางที่ชัดเจน โดยได้มีการจัดทำแผนปฏิบัติการ เพื่อลดและขจัดมลพิษในเขตมาบตาพุด อันเป็นผลมาจากความร่วมมือของทุกฝ่าย ทั้งภาครัฐ ผู้ประกอบการ และภาคประชาชน ทั้งนี้ผู้ประกอบการ ได้เสนอโครงการลงทุนเพื่อลดมลพิษตามแผนปฏิบัติการนี้แล้ว รวมทั้งมีการจัดทำข้อมูล การปล่อยมลพิษ ซึ่งจะทำให้การพิจารณารายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม(EIA) ของโครงการลงทุนต่าง ๆ ได้ชัดเจนและถูกต้องมาขึ้น เพื่อป้องกันผลกระทบที่จะมีต่อประชาชนในพื้นที่ ซึ่งคาดว่าโครงการลงทุนตามแผนพัฒนาอุตสาหกรรมปิโตรเคมีระยะที่ 3 จะสามารถสรุปได้ในเร็ววันนี้

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO