กรุงเทพฯ--20 มิ.ย.--ธนาคารกรุงไทย
ธนาคารกรุงไทยตั้งเป้าเป็นผู้นำตลาดบัตรเดบิตใน 3 ปี โดยมีส่วนแบ่งการตลาด 30% เชื่อมั่นทำได้ เพราะมีฐานลูกค้าบัญชีเงินฝากกว่า 13 ล้านบัญชี เตรียมลงทุนเพิ่มใน Call Center 1551 เพื่อรุกตลาดรายย่อย ชี้วางแผนบริหารบัตรเดบิตและ Call Center เอง เพื่อประโยชน์สูงสุดของลูกค้า KTC และธนาคาร
นายอนันตผล พันธุ์เพ็ง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ผู้บริหารกลุ่ม สายงานบริหารผลิตภัณฑ์และการตลาด บมจ.ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยถึงแผนการขยายธุรกิจบัตรเดบิตว่า ธนาคารตั้งเป้าหมายเป็นผู้นำตลาดบัตรเดบิตภายใน 3 ปี โดยมีจำนวนบัตรไม่น้อยกว่า 6 ล้านใบ หรือคิดเป็นส่วนแบ่งการตลาด 30% ธนาคารได้วางแผนบริหารธุรกิจบัตรเดบิตเอง จากเดิมที่ให้บริษัทบัตรกรุงไทย หรือ KTC บริหาร เพื่อแยกการบริหารธุรกิจบัตรเดบิตและเครดิตออกจากกันอย่างชัดเจน เนื่องจากธุรกิจบัตรเดบิตเกี่ยวโยงกับบัญชีลูกค้า จึงต้องมีความปลอดภัยสูงสุด ขณะเดียวกัน KTC จะได้รุกตลาดด้านบัตรเครดิตที่แข่งขันรุนแรงอย่างเต็มที่เพียงด้านเดียว ไม่ต้องกังวลกับบัตรเดบิต ซึ่งเป็นผลดีทั้งกับธนาคารและ KTC ที่สำคัญลูกค้าจะได้ประโยชน์สูงสุด
“ธนาคารได้บริหารบัตรเดบิตคู่ขนานกับ KTC มาตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่ผ่านมา พร้อมทำการตลาดบัตรเอง ในขณะนั้นมีบัตรเดบิตที่ Active อยู่ 4 แสนใบ และเพิ่มเป็น 7 แสนใบในเดือนพฤษภาคมนี้ โดยคาดว่าสิ้นปีจะเพิ่มเป็น 1.5 ล้านใบ และเพิ่มเป็น 6 ล้านใบใน 3 ปี ซึ่งธนาคารค่อนข้างมั่นใจ เนื่องจากมีเครือข่ายกระจายอยู่ทั่วประเทศกว่า 700 แห่ง มีฐานลูกค้ารายย่อยที่ใหญ่ โดยมีลูกค้าบัญชีเงินฝากอยู่ถึง 13 ล้านบัญชี จึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะเป็นผู้นำตลาดบัตรเดบิต”
นายอนันตผล พันธุ์เพ็ง ยังได้กล่าวถึงอนาคตธุรกิจบัตรเดบิตว่าขยายตัวได้ดี เนื่องจากสามารถเบิกเงินสดและใช้ซื้อสินค้าได้ทั่วโลก และธนาคารยังมีแผนทำให้เป็นบัตรส่วนลดที่ทรงคุณค่า โดยลูกค้าจะได้รับส่วนลดพิเศษ10-30%จากร้านค้า ซึ่งธนาคารจะขยายร้านค้าที่ให้ส่วนลดเป็น 5 พันร้านค้าภายในสิ้นปีนี้ นอกจากนี้ บัตรเดบิตที่เป็นประเภทบัตรทองของธนาคารยังมีประกันอุบัติเหตุในวงเงิน 1 แสนบาท และธนาคารมีแผนร่วมกับพันธมิตรทำบัตร Co-Brand โดยเตรียมออกบัตรร่วมกับบริษัทกรุงไทยพานิชประกันภัย ซึ่งลูกค้าจะได้ส่วนลดเมื่อซื้อกรมธรรม์จากบริษัท
“สำหรับในส่วนของบริการ Call Center 1551 นั้น ธนาคารได้ย้ายฐานจากจังหวัดมหาสารคามมาอยู่ที่สาขาสะพานขาว และกำลังเพิ่มพนักงานจาก 40 ที่นั่งเป็น 100 ที่นั่ง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าที่ติดต่อเข้ามาจำนวนมาก และธนาคารมีแผนลงทุนเพิ่ม เพื่อรองรับการทำตลาดรายย่อย โดยธนาคารจะเสนอขายบริการและผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าแต่ละคนผ่าน Call Center ” นายอนันตผล พันธุ์เพ็ง กล่าวในตอนท้ายถึงเหตุผลที่ธนาคารบริหาร Call Center เอง
รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ฝ่ายสื่อสารการตลาดและประชาสัมพันธ์
โทร. 0-2208-4174-7