รสา พร็อพเพอร์ตี้ เผยกลยุทธ์ ชูความแตกต่างของผลิตภัณฑ์ รุกเจาะกลุ่มลูกค้านิชมาร์เก็ต มั่นใจยอดขายปี 50 เติบโตสดใส

ศุกร์ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๐๐๗ ๑๐:๑๙
กรุงเทพฯ--16 ก.พ.--นิโอ ทาร์เก็ต
บมจ.รสา พร็อพเพอร์ตี้ฯ ชูกลยุทธ์ปี 50 รุกตลาดลูกค้าบ้าน และ คอนโด กลุ่มนิชมาร์เก็ต บนพื้นที่ทำเลธุรกิจ เน้นคุณภาพงานดีไซน์ที่แตกต่าง และ ประโยชน์ใช้สอยที่ลงตัว คุ้มค่าบนพื้นฐานราคาที่ใครก็เป็นเจ้าของได้ พร้อมเดินหน้าพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมย่านใจกลางธุรกิจที่รองรับด้วยระบบคมนาคม โดยยังคงคอนเซ็ปต์ รูปแบบโดดเด่น และ เน้นความคล่องตัวในการเดินทาง เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนทำงานรุ่นใหม่
นางสาวอัจฉราพร ศิริไพรวัน กรรมการผู้จัดการ บริษัท รสา พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “เนื่องจากความต้องการตลาดที่พักอาศัยประเภทคอนโดมิเนียมที่มีระดับราคาต่อหน่วยเริ่มต้นที่ประมาณ 1 ล้านบาทเศษ ยังมีทิศทางเติบโตได้มากกว่าตลาดบ้านจัดสรรที่มีราคาสูง อีกทั้ง ผู้บริโภคหันมายึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง ทำให้การจับจ่ายใช้สอยกับสินค้าระดับราคาสูงมีเหตุผลมากขึ้นด้วย ดังนั้น ในปี 2550 บริษัทฯ จึงมีแผนที่จะเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในโครงการคอนโดมิเนียมย่านธุรกิจใจกลางเมือง ที่มีระบบคมนาคมที่สะดวกและหลากหลายรองรับการเดินทาง โดยคาดว่าจะมีโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ประมาณ 1-2 โครงการ ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวได้ประมาณกลางปี และจะเจาะกลุ่มลูกค้าที่เป็นวัยทำงานคนรุ่นใหม่ ชูจุดเด่นในเรื่องของทำเลที่ตั้ง คุณภาพดีไซน์ที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าและราคาที่เหมาะสม
นายรพิ พินิจชอบ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท รสา พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงกลยุทธ์ทางการตลาดในปี 2550 ว่า “ตลาดอสังหาริมทรัพย์ปีนี้จะมีการแข่งขันสูงขึ้น ในขณะที่ราคาจะลดลง ต้องอาศัยข้อได้เปรียบเรื่องทำเลที่ตั้งที่ใกล้ระบบขนส่งมวลชนจึงจะสามารถอัพระดับราคาขึ้นมาได้ นอกจากเรื่องทำเลแล้ว การที่ผู้บริโภคใช้เหตุผลอิงกับความรู้สึกมากขึ้นในการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย ทำให้บริษัทฯ หันมาเน้นในส่วนของการสร้างความปลอดภัยให้แก่ผู้อยู่อาศัยในทุกโครงการของบริษัทด้วย และจะเพิ่มช่องทางการขายใหม่ๆ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น”
ปัจจุบัน โครงการของรสา พร็อพเพอร์ตี้ฯ ที่อยู่ระหว่างการพัฒนาและเปิดการขายแล้วมีจำนวน 4 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 2,148.21 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 โครงการ ได้แก่ โครงการรสา วิลเลจ บนถนนพุทธมณฑล และโครงการรสา สแปนิช คอร์ทยาร์ด บนถนนเกษตร-นวมินทร์ และโครงการคอนโดมิเนียม อีก 2 โครงการ คือ โครงการคอนโดมิเนียมวิลเชอร์ บนถนนสุขุมวิท และ โครงการ วิลมอร์ คอนโดมิเนียม บนถนนพหลโยธิน 32 ซึ่งแต่ละแห่งคงเหลือ
ยูนิตอีกเพียงเล็กน้อย นอกจากนี้บริษัทมีโครงการบ้านเดี่ยวที่อยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการในอนาคตอีก 1 โครงการ คือ โครงการ รสา พาร์คเลน บนถนนรามอินทรา สำหรับโครงการบ้านเดี่ยวที่เปิดขายหมดทุกยูนิตแล้วเมื่อไตรมาส 3 ของปี 49 คือ โครงการปฐมพร แกรนด์โฮม มีมูลค่าโครงการรวม 419.74 ล้านบาท
นายเลิศมงคล วราเวณุชย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายการเงินและพัฒนาธุรกิจ บริษัท รสา พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงผลการดำเนินงานของบริษัทฯว่า “ผลประกอบการช่วง 9 เดือนแรกของปี 2549 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์สูงถึง 482.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 148 จากปี 2548 โดยที่มาของรายได้ส่วนใหญ่มาจากการรับรู้รายได้ของโครงการวิลเชอร์ และโครงการรสา สแปนิช คอร์ทยาร์ด ซึ่งเริ่มโอนได้ตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ของปี 2549 โดยบริษัทฯ มีกำไรสุทธิในช่วง 9 เดือนของปี 2549 เท่ากับ 31.62 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2548 ประมาณ 2.66 ล้านบาท หรือคิดเป็นรายได้เพิ่มขึ้น 9.1% ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้จ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น 0.8 บาทเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา สำหรับรายได้ในปี 2550 บริษัทฯ คาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากปี 2549 ซึ่งเป็นผลจากการโอนบ้านในโครงการต่างๆ ที่เปิดขายอยู่ในปัจจุบัน”
นางสาวอัจฉราพร กล่าวเสริมว่า “ธุรกิจของ รสา พร็อพเพอร์ตี้ฯ ประสบความสำเร็จมาโดยตลอดและผ่านภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจมาได้นั้น เพราะมีหลักในการบริหารความเสี่ยงที่ดี อาทิเช่น บริษัทฯ ไม่มีนโยบายสะสม Land Bank โดยทุกโครงการจะซื้อมาและพัฒนาทันที ทำให้บริษัทฯ ไม่ต้องแบกภาระต้นทุนสูง และไม่มีปัญหาทางด้านการเงิน ประกอบกับ มีทีมบริหารงานที่มีความรู้และเชี่ยวชาญในธุรกิจ ยืดถือหลักธรรมาภิบาล โปร่งใส ตลอดจนใช้กลยุทธ์ในการบริหารงานให้สอดคล้องกันทั้งการวางแผนการผลิต การก่อสร้าง และการลงทุน จึงส่งผลให้ธุรกิจของบริษัทฯขยายตัวเพิ่มขึ้นมาโดยตลอด นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทฯ มาจวบจนถึงปัจจุบัน นอกเหนือจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่นๆ อีกที่ทำให้บริษัทเติบโตอย่างรวดเร็วและมั่นคง ที่สำคัญที่สุด คือ นโยบายการพัฒนาโครงการที่มีคุณภาพสูง ทำให้ได้รับการยอมรับและไว้วางใจจากลูกค้าเป็นอย่างดี และได้สร้างแบรนด์รสา พร็อพเพอร์ตี้ ให้แข็งแกร่งขึ้น จนอยู่ในใจของลูกค้ากลุ่ม Niche Market ที่ชอบสินค้าระดับพรีเมี่ยมที่มีเอกลักษณ์และราคาเหมาะสมได้สำเร็จ ทำให้ยอดขายของทุกโครงการเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ตลอดมา อันส่งผลให้บริษัทฯ มีศักยภาพที่จะพัฒนาโครงการใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง”
ขณะนี้ บริษัทฯ ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล ( Filing ) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ ( ก.ล.ต. ) แล้ว เพื่อเสนอขายหุ้นให้ประชาชนทั่วไปครั้งแรก ( IPO ) จำนวน 20 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 25 % ของทุน จดทะเบียน ซึ่งหลังจากขายหุ้น IPO ครั้งนี้ จะมีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 400 ล้านบาท ราคาพาร์ 5 บาท โดยบริษัทฯ ได้แต่งตั้ง บริษัท ทรีนีตี้ แอ๊ดไวซอรี่ 2001 จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน สำหรับเงินที่ระดมทุนได้จะนำไปจัดซื้อที่ดินย่านธุรกิจเพื่อพัฒนาโครงการใหม่ๆ และ ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน และบางส่วนจะนำไปชำระหนี้กับสถาบันการเงินในส่วนหนี้ที่มีอัตราดอกเบี้ยสูง
บริษัท รสา พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจประเภทอสังหาริมทรัพย์มาเป็นระยะเวลากว่า 12 ปี แต่มีทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์กว่า 30 ปี มีการขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งได้แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนเมื่อปี 2547 ปัจจุบัน บริษัทฯ มีทุนจดทะเบียนจำนวน 400 ล้านบาท และเป็นหนึ่งในบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทย ที่มุ่งพัฒนาโครงการบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียมที่มีคุณภาพและเอกลักษณ์เฉพาะตัวในย่านศูนย์กลางธุรกิจแถบกรุงเทพฯและปริมณฑล
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
บริษัท นิโอ ทาร์เก็ต จำกัด
นฤพร ชีวนันทพรชัย / ลลิฎา ลีลานุกูล
โทร 02-631-2290-5 ต่อ 307 และ 305 แฟกซ์ 02-234-6192-3
E-mail : [email protected] / [email protected]
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ