“พรมไทปิง” ผนึกกลุ่มทุนดูไบ “เดป้า อินทีเรีย” เปิดเกมรุกอุตสาหกรรมพรมไทยผงาดตลาดโลก

พุธ ๒๔ มกราคม ๒๐๐๗ ๑๒:๒๐
กรุงเทพฯ--24 ม.ค.--Ripple Effect
บริษัท อุตสาหกรรมพรมไทย จับมือพันธมิตร บริษัท เดป้า อินทีเรีย กลุ่มทุนจากประเทศดูไบ ผนึกยุทธศาสตร์ของทั้ง 2 บริษัทสร้างความแข็งแกร่ง เดินหน้าต่อยอดธุรกิจ พร้อมเปิดเกมรุกสู่ตลาดต่างประเทศ ตั้งเป้าเพิ่มกำลังการผลิตอีกเท่าตัว คาดส่งผลรายได้พุ่งเป็นปีละ 1 พันล้านบาท
บริษัทอุตสาหกรรมพรมไทย จำกัด (มหาชน) บริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายพรมชั้นนำของไทย ผสานความร่วมมือกับพันธมิตรกลุ่มทุนจากประเทศดูไบ บริษัท เดป้า อินทีเรีย เดินหน้าขยายธุรกิจ ตอกย้ำความเป็นมืออาชีพและความเชี่ยวชาญด้านการผลิตและจำหน่ายพรมที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก ทั้งสหรัฐอเมริกา ยุโรป และตะวันออกกลาง
คุณเฉลิมพันธ์ ศรีวิกรม์ ประธานกรรมการบริษัท บริษัท อุตสาหกรรมพรมไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นการเปิดศักราชใหม่ของวงการสิ่งทอไทยให้เป็นที่เชื่อถือและมั่นใจของต่างประเทศ โดย เดป้า อินทีเรีย เป็นบริษัทในเครือของ เดป้า ยูไนเต็ด กรุ๊ป กลุ่มบริษัทฯ ที่มีศักยภาพสูงทางธุรกิจระดับ 1 ใน 5 ของโลกให้บริการด้านออกแบบ ก่อสร้างและตกแต่ง
การผนึกกำลังเข้ามาเป็นพันธมิตรอันแข็งแกร่งครั้งนี้ ทางเดป้าฯ ได้เข้าถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 20 ของทุนจดทะเบียน ซึ่งช่วยเสริมศักยภาพของบริษัทฯ รวมทั้งขยายธุรกิจได้ครบวงจร และขยายตลาดพรมไปยังประเทศตะวันออกกลาง ถือเป็นการเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดในอุตสาหกรรมพรมไทย
“ทั้ง เดป้าฯ และบริษัทฯ ยึดมั่นในคุณภาพของสินค้าสำหรับตลาดบนที่เข้าใจถึงความคุ้มค่า มากกว่าจะเข้าสู่ตลาดทั่วไป (Mass Market) ซึ่งเป็นโอกาสดีที่เราได้พันธมิตรธุรกิจ (Strategic Partner) ที่ยึดมั่นในแนวทางเดียวกัน” คุณเฉลิมพันธ์ กล่าว
หลังจากการเข้ามาร่วมลงทุนของ เดป้าฯ บริษัทฯ ได้วางแผนขยายและเพิ่มประสิทธิภาพกำลังผลิตเพื่อตอบสนองตลาดประเภทโรงแรม กาสิโน และศูนย์ประชุม โดยจะใช้เงินลงทุนประมาณ 200 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้พรมทอเครื่อง แอ๊กซ์มินส์เตอร์ มีกำลังผลิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 75 หรือคิดเป็นจำนวนมาก 240,000 ตารางเมตรต่อปี เป็น 420,000 ตารางเมตรต่อปี ภายในปี 2550 นอกจากนั้นได้วางแผนที่จะเพิ่มกำลังผลิตของพรมทอมือ เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดพรีเมี่ยม เพิ่มขึ้นอีกปีละ 10% จากการขยายกำลังผลิตดังกล่าวคาดจะส่งผลให้บริษัทมีรายได้เติบโตขึ้นเป็นปีละ 1,000 ล้านบาท จากปัจจุบันที่มียอดรายได้ปีละประมาณกว่า 600 ล้านบาท
ในช่วง 3-5 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้เข้ารุกทำตลาดต่างประเทศมากขึ้น เพราะมีโอกาสเติบโตและต้องการสินค้าที่มีคุณภาพสูงมากกว่าตลาดในประเทศ โดยมีการขยายสาขาไปยังประเทศ สหรัฐอเมริกา ยุโรป และตะวันออกกลาง ที่เน้นลูกค้าชั้นนำ ประเภทอาคารขนาดใหญ่ ห้างสรรพสินค้า โรงแรม โรงภาพยนตร์ สถานกาสิโน และเรือสำราญ เป็นต้น ผลงานของบริษัทในปีที่ผ่านมา อาทิ โรงแรมในเครือฮิลตัน พระราชวังของราชวงศ์แห่งบรูไน ซีซาร์พาเลซ กาสิโนในลาสเวกัส หรือธนาคารแห่งชาติของแคนาดา ดังนั้นสัดส่วนรายได้จากตลาดในประเทศและต่างประเทศในปัจจุบันจึงเป็นร้อยละ 50 ต่อ 50
หากในปี 2550 นี้ บริษัทฯ มีแผนจะรักษาสัดส่วนตลาดในประเทศอย่างต่อเนื่อง คือจะเน้นกลุ่มลูกค้าทั้งที่เป็นสถาบัน องค์กรชั้นนำ โรงแรม และสถานบันเทิง รวมถึงกลุ่มบริษัท สำหรับผลงานที่สร้างชื่อเสียงให้กับบริษัทฯ ในช่วงที่ผ่านมา อาทิ โรงแรมโอเรียลเต็ล สยามพารากอน โรงภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์ เครือเอสเอฟ เป็นต้น สำหรับสัดส่วนรายได้ที่จะเกิดขึ้นคาดจะแบ่งเป็นตลาดในประเทศร้อยละ 35 ตลาดต่างประเทศร้อยละ 65
มร.โมฮันหมาด เสวท ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท เดป้า ยูไนเต็ด กล่าวว่า สาเหตุที่กลุ่ม เดป้า เข้ามาลงทุนร่วมกับบริษัทอุตสาหกรรมพรมไทย ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อหาหุ้นส่วนที่แข็งแกร่งในการทำธุรกิจร่วมกัน อีกทั้งเป็นการเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของเดป้า ขณะเดียวกันเพื่อเป็นฐานสนับสนุนให้กับเดป้าฯ ในการขยายเข้าสู่ประเทศที่บริษัทอุตสาหกรรมพรมไทย มีความแข็งแกร่งด้านการตลาด คือ ไทย สหรัฐอเมริกา และยุโรป
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO