กรุงเทพฯ--26 ก.พ.--รักลูกแฟมิลี่กรุ๊ป
ทำไมเด็ก หรือ ผู้ใหญ่จึงติดเกมกันงอมแงม ? นี่คือปัญหาที่เกิดขึ้นจริงในสังคมไทย ผู้ใหญ่หลายคนมองว่าเกมคอมพิวเตอร์คือสิ่งสร้างสรรค์และเป็นการฝึกทักษะให้เด็ก แต่อีกมุมหนึ่ง เกมคอมพิวเตอร์ก็มีผลกระทบต่อพฤติกรรมของเด็กเช่นกัน
นายแพทย์อุดม เพชรสังหาร ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาอัจฉริยภาพเด็กและเยาวชน สถาบันรักลูก ระบุว่าการเล่มเกมคอมพิวเตอร์เปรียบเสมือนการติดยาเสพติด เมื่อใดที่เด็กไม่ได้เล่นเกมคอมพิวเตอร์ก็เปรียบเหมือนกับไม่ได้เสพยาเสพติดและจะทำให้เด็กเกิดพฤติกรรมก้าวร้าวออกมา
“สมองเป็นทุกๆอย่างของมนุษย์เรื่องเกมก็เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับสมองเป็นเรื่องเกี่ยวกับวงจรที่ทำให้เด็กติดเกม ความจริงแล้วอาการติดเกมผู้ใหญ่ก็เป็นเช่นกัน แต่ความรุนแรงไม่เหมือนเด็ก เพราะในผู้ใหญ่สมองส่วนหน้า (Prefrontal Cortex) ทำงานได้เต็มที่แล้ว ความยับยั้งชั่งใจและการตัดสินใจเกิดขึ้นโดยสมบูรณ์ จึงมักตัดใจจากเกมได้ แต่สำหรับเด็กสมองส่วนนี้ยังเติบโตไม่เต็มที่ เด็กจึงบังคับตนเองไม่ได้ เกมนั้นมีหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นเกมสร้างสรรค์หรือเกมที่รบราฆ่าฟันล้วนทำให้เด็กเสียเวลาและมีนิสัยก้าวร้าว รุนแรง สุดท้ายเด็กจะกลายเป็นคนก้าวร้าวไปด้วย
ความสนุกสนานในเกมมันเหมือนสิ่งกระตุ้นทำให้วงจรสมองวงจรหนึ่งของมนุษย์หลั่งสารโอเร็กซิน (Orexin) ออกมา สารนี้จะกระตุ้นวงจรแห่งความสุข สนุกสนาน(Reward Circuit) ถ้าสารตัวนี้ไม่หลั่งออกมาเด็กจะมีความรู้สึกไม่มีความสุข หงุดหงิด หรือเรียกว่าการเสพติดก็ได้ เกมคอมพิวเตอร์กับยาเสพติดมันออกฤทธิ์ที่วงจรเดียวกันในสมองมนุษย์เพราะฉะนั้นเด็กต้องดิ้นร้นหาเกมมาเล่น แต่เมื่อมีคนมาขัดขวางจะมีพฤติกรรม รุนแรงออกมา
โดยเฉลี่ยแล้วเด็กจะเล่นเกมวันละ 4 ชั่วโมง แต่เด็กบางคนเล่นวันละ 10 ชั่วโมง ซึ่ง 10 ชั่วโมงที่ผ่านไปต้องนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ตลอดเพราะฉะนั้นทักษะทางสังคมที่ต้องพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ความคิดสร้างสรรค์ของเด็กก็จะหมดไป ในสังคมปัจจุบันมักจะคิดว่าคอมพิวเตอร์มีส่วนสำคัญกับชีวิตมาก ทำให้เด็กไทยไม่รู้จักการใช้คอมพิวเตอร์ที่ถูกต้อง ซึ่งทางรักลูก ได้จัดกิจกรรมที่ส่งเสริมให้พ่อแม่ได้เรียนรู้ถึงกระบวนการทำงานของสมองที่ทำให้เด็กติดเกม ในงาน รักลูกเฟสติวัล 2007 ซึ่งมีโซน computer&brain โซนนี้จะแสดงให้เห็นว่าคอมพิวเตอร์มีอันตรายต่อสมองเด็กอย่างไร พ่อแม่จะได้เห็นว่าเกมคอมพิวเตอร์มีผลดีและร้ายอย่างไร และการที่จะให้ลูกมีทักษะทางคอมพิวเตอร์ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเล่นเกมคอมพิวเตอร์ แต่ยังมีกิจกรรมอื่นอีกมากที่สร้างสรรค์สำหรับเด็ก คอมพิวเตอร์คือเครื่องมือในการทำงานแต่ไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทุกคนต้องเรียนรู้จากคอมพิวเตอร์” นายแพทย์อุดมกล่าว
สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อเรียนรู้กระบวนการทำงานของสมองกับการติดเกมของลูก สามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้ในงาน รักลูกเฟสติวัล 2007 Children ‘s Brain is our Future ในวันที่ 16-18 มีนาคมนี้ ณ Hall 1-2 อิมแพค เมืองทองธานี สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท รักลูกแฟมิลี่กรุ๊ป จำกัด โทร 0-2913-7555 ต่อ 3531-3533
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหน่วยประชาสัมพันธ์
บริษัท รักลูกแฟมิลี่กรุ๊ป จำกัด โทร 0-2913-7555
ทิพสุคนธ์ เภาโบรมย์ (ขวัญ) ต่อ 3531
สายไหม พึ่งพงษ์ (ไหม) ต่อ 3532
ฐิติญา เชาวน์เกษม (ธีร์) ต่อ 3533
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net